คณะกรรมการกลางสปป.ลาวมีมติดำเนินการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ หนี้สินและการว่างงาน

รายงานล่าสุดระบุว่าการว่างงานเพิ่มขึ้นหลังจากผลกระทบรุนแรงต่อธุรกิจที่เกิดจากการระบาดของ Covid-19 นอกจากนี้ แรงงานลาวหลายพันคนอพยพกลับบ้านจากประเทศไทยเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสในไทย ซึ่งทำให้สถานการณ์การว่างงานในประเทศลาวแย่ลง ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวคณะกรรมการกลางของพรรคปฏิวัติประชาชนลาวได้มีมติที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและหนี้สินอย่างเป็นระบบ ในขณะเดียวกันก็พยายามสร้างงานมากขึ้นเพื่อลดอัตราการว่างงานในประเทศ โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้รัฐบาล คณะกรรมการพรรค และเจ้าหน้าที่ทุกระดับดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ทั้งนี้ยังทบทวนความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนงบประมาณ และแผนสกุลเงิน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Party_resolves_208.php

เวียดนามเผยวิกฤติโควิด-19 ทำคนตกงานกว่า 1 ล้านคน ในไตรมาสแรกปีนี้

ตลาดแรงงานยังคงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 ทำให้จำนวนคนว่างงานในไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นแตะราว 1.1 ล้านคน และอัตราการว่างงานอยู่ที่ 2.42% เพิ่มขึ้น 0.08% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สำนักงานสถิติแรงงาน ภายใต้สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) ระบุว่าในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. จำนวนแรงงานทั้งหมด 9.1 ล้านคนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ล้วนได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งจำนวนแรงงาน 540,000 คนต้องออกจากงาน และ 2.8 ล้านคนที่ถูกปลดงานเป็นการชั่วคราว และอีก 3.1 ล้านคน ลดชั่วโมงการทำงานลงหรือพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ในขณะที่ 6.5 ล้านคนได้รับรายได้น้อยกว่าเดิม ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาตลาดแรงงาน ทางสำนักงานสถิติแห่งชาติแนะให้รัฐบาลเร่งทดลองเปิด ‘วัคซีนพาสปอร์ต’ พร้อมกับกำหนดหลักเกณฑ์ต้องรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ที่มา : http://hanoitimes.vn/over-1-million-people-lose-jobs-on-covid-19-in-q1-gso-317039.html

สปป.ลาวกำลังเผชิญปัญหาการว่างงานสูงในกลุ่มคนพิการ

การว่างงานของคนพิการยังคงเป็นปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไขโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ห่างไกล จากรายงานของสำนักงานสถิติสปป.ลาว ระบุว่าสปป.ลาวมีอัตราการว่างงานในกลุ่มคนพิการในอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับประชากรโดยรวม การว่างงานในกลุ่มนี้อยู่ที่ร้อยละ 4 ในขณะที่แรงงานอื่น ๆ อยู่ที่ร้อยละ 1.5 Ms.Phonesaly Souksavath และ Ms Mariam A. Khan ผู้แทน UNFPA กล่าวว่า “วัตถุประสงค์หลักของเอกสารข้อมูลคนพิการที่เผยแพร่นี้มีความประสงค์ที่จะกระตุ้นสังคมเกี่ยวกับสถานการณ์ของคนพิการและสถิติยังเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการกำหนดนโยบายและวางแผนในการช่วยเหลือคนพิการตลอดจนพัฒนาบริการที่เท่าเทียมกันสำหรับพวกเขา”  UNFPA สนับสนุนการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำมาวิจัยในการแสดงให้เห็นว่าคนพิการมีสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่แย่ลงอย่างมีนัยสำคัญและมีโอกาสน้อยลง อย่างไรก็ตามรัฐบาลให้สัตยาบันในอนุสัญญาต่อสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิคนพิการซึ่งระบุถึงสิทธิมนุษยชนของคนพิการที่จะกำหนดกลยุทธ์นโยบายและแผนปฏิบัติการหลายประการเพื่อมุ่งเป้าหมายในการช่วยเหลือคนพิการ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_High245.php

ปี 64 เมียนมาพร้อมเปิดตัวระบบเงินชดเชยจากการว่างงาน

กรมสวัสดิการสังคม กระทรวงแรงงานการเข้าเมืองและประชากรเผยเมียนมาจะเริ่มระบบเงินชดเชยจากการว่างงานในปีงบประมาณ 63-64 แม้ว่าสิทธิประโยชน์การว่างงานถูกกำหนดไว้แล้วภายใต้กฎหมายประกันสังคมปี 55 แต่ยังไม่มีการบังคับใช้ ซึ่งกระทรวงจะเริ่มดำเนินการโดยได้รับความช่วยเหลือจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และสหภาพยุโรป จากการประกันภัย 6 ประเภทภายใต้กฎหมายประกันสังคม พ.ศ. 55 มีการบังคับใช้เฉพาะการประกันสุขภาพและเงินชดเชยจากการบาดเจ็บในการทำงานเท่านั้น การประกันภัยประเภทอื่น ๆ อีกสี่ประเภทที่ยังคงต้องดำเนินการ ได้แก่ การประกันความช่วยเหลือครอบครัว ผลประโยชน์จากการว่างงาน การประกันความทุพพลภาพ เงินอุดหนุนและผลประโยชน์ของผู้รอดชีวิตตลอดจนความช่วยเหลือด้านประกันสังคม ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณหนึ่งล้านคนที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากประกันสังคมและเป็นสมาชิกสวัสดิการสังคมในเขตย่างกุ้ง ตามกฎหมายเงินสมทบประกันสังคมคือ 5% – 2% จากเงินเดือนของพนักงานและเงินสมทบจากนายจ้างอีก 3% ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายประกันสังคม 60% ใช้สำหรับการดูแลสุขภาพของพนักงานส่วนที่เหลืออีก 40 % .ใช้สำหรับการลงทุน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-introduce-unemployment-benefits-system-2021.html

คณะที่ปรึกษาโควิดด้านศก. ชง”บิ๊กตู่”แก้ปัญหาว่างงาน

คณะที่ปรึกษาด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจฯ จากโควิด เสนอ 3 ประเด็นให้นายกฯ ขับเคลื่อน ทั้งแก้ว่างงาน สื่อสารให้คนตระหนักหวั่นเกิดระบาดรอบสอง และฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรม นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะที่ปรึกษาด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมในศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แถลงภายหลังการประชุมคณะที่ปรึกษาฯ ว่า ได้สรุป 3 ประเด็นสำคัญเสนอ นายกรัฐมนตรี โดยเรื่องแรก เสนอให้เร่งแก้ปัญหาการว่างงานเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานรากเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย เนื่องจากการแพร่ระบาดของ โรคไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนจ้านวนมากต้องว่างงานและขาดรายได้ ดังนั้น การใช้จ่ายของภาครัฐโดยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต้องทำโครงการที่สามารถสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะการสนับสนุนให้มีการจ้างงานระยะยาวภายในชุมชน การจ้างงานบัณฑิตจบใหม่ รวมถึงการจัดอบรมความรู้ที่สามารถนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพได้ ซึ่ง นายกรัฐมนตรี ได้ส่งเรื่องดังกล่าวกลับมายังสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช. ) ในฐานะเป็นคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม วงเงิน 400,000 ล้านบาท ให้พิจารณาโครงการที่ก่อให้เกิดการจ้างงานด้วย ประเด็นต่อมาได้ขอให้การสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจและตระหนักถึงความเสี่ยงของการกลับมาระบาดรอบที่ 2 และจะต้องมีความร่วมมือที่จะจำกัดการระบาด รวมทั้งยังต้องรักษามาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ส่วนประเด็นสุดท้ายรัฐบาลจำเป็นต้องเร่งฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรม เพราะในช่วงที่ผ่านมา การลงทุนของชาวต่างชาติในประเทศไทยต้องหยุดชะงักลง…

 ที่มา : https://www.dailynews.co.th/economic/782462

พิษโควิด จีดีพีดิ่ง! ว่างงานพุ่งรอบ 20 ปี

ทีดีอาร์ไอชี้ โควิด-19 พ่นพิษ อัตราว่างงานพุ่ง 8-12 เท่าสูงสุดในรอบ 20 ปี เหตุเศรษฐกิจหดตัวแรง และชะลอต่อเนื่อง 2-3 ปีข้าง เตรีบมทบทวนตัวเลขเพิ่ม หลังธปท.ปรับคาดการณ์จีดีพี เหลือติดลบ 8.1% จากเดิมติดลบ 5.3%  ด้านกสิกรไทยชี้ อัตราว่างงานค้างไม่ตํ่ากว่า1 ล้านคน ตัวเลขประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) เศรษฐกิจไทยปีนี้ทั้งปี มีแนวโน้มจะติดลบถึง 8.1% จากที่คาดการณ์เดิมจะติดลบ 5.3% เหตุเพราะตัวเลขจากทีมเศรษฐกิจรัฐบาลได้ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 จะติดลบถึง 15.5% และจะติดลบน้อยลงเหลือ 10.2% ในไตรมาส 3 และเหลือติดลบ 5.5% ในไตรมาสสุดท้ายของปี ส่วนสถานการณ์ด้านแรงงานนั้น อัตราว่างงานจะเพิ่ม 3-4% จากเดิมอยู่ที่ระดับ 1% ซึ่งค่อนข้างสูงมาก หากย้อนเทียบกับต้มยำกุ้ง ภาคเกษตรและการบริโภคภายในประเทศยังดี แต่วันนี้ตรงกันข้าม ซึ่งภาคการท่องเที่ยวยังน่าเป็นห่วง เพราะก่อนหน้าไทยสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยว 40 ล้านคนแต่หากนักท่องเที่ยวไม่กลับมาก็มีความเสี่ยงสูง

ที่มา: https://www.thansettakij.com/content/money_market/439975?utm_source=homepage_hilight&utm_medium=internal_referral

การระบาดของ COVID-19 จะทำให้อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น 25%

นาย Khammany Sambath รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมได้เข้าร่วมการประชุมพิเศษของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเกี่ยวกับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 โดยนาย Khamsay Sambath กล่าวว่ารัฐบาลสปป.ลาวได้ดำเนินการป้องกันควบคุมการระบาดของCOVID-19 และพบผู้ติดเชื้อรายแรกในวันที่ 23 มีนาคม 2563 จนถึงปัจจุบันมีผู้ป่วยทั้งหมด 19 รายที่ได้รับการรักษา 10 รายและไม่มีผู้เสียชีวิต แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในสปป.ลาวจะต่ำ แต่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจเช่นการปิดตัวกิจการทำให้ของแรงงานจำนวนมากตกงานในขณะเดียวกันแรงงานกว่า 1 ล้านคนที่ทำงานในต่างประเทศก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน จากสถานการณ์ดังกล่าวรัฐบาลคาดว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นจากปกติ 2% เป็น 25% อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะมีการออกนโยบายเพื่อช่วยเหลือแรงงานทุกคน แต่ระยะแรกจะเริ่มช่วยเหลือแรงงานที่อยู่ในระบบประกันสังคมโดยการให้เงินชดเชยในระยะแรกและจะมีการหางานให้แก่แรงงานที่ประสงค์จะทำงานโดยต้องมีการอบรมเพื่อพัฒนาทักษะก่อนถูกส่งไปยังองค์กรต่างๆ

ที่มา: https://laoedaily.com.la/2020/05/18/78253/