การนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าและจักรยานยนต์ไฟฟ้าช่วยกระตุ้นการโอนเงินกลับของพลเมืองที่ทำงานในต่างประเทศ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา ได้ริเริ่มโครงการพิเศษที่อนุญาตให้พลเมืองเมียนมาที่ทำงานในต่างประเทศสามารถนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าและจักรยานยนต์ไฟฟ้าได้ หากพวกเขาส่งเงินรายได้ส่วนหนึ่งกลับไปยังเมียนมาผ่านสถาบันการเงินอย่างเป็นทางการ โดยที่หากพลเมืองเมียนมารวมทั้งคนเดินเรือโอนเงินเดือนหรือรายได้ในต่างประเทศของตนมากกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ไปยังธนาคารในประเทศ พวกเขาจะมีสิทธิ์นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า 1 คันซึ่งมีมูลค่าเทียบเท่ากับร้อยละ 5 ของเงินโอนเข้าต่อปี และหากเงินโอนของบุคคลใดไม่ถึงจำนวนเงินที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าหรือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า พวกเขาสามารถนำเข้าได้พร้อมกัน นโยบายการนำเข้านี้มีขึ้นเพื่อส่งเสริมการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้และกระตุ้นยอดขายเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ เมียนมายังมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 19 แห่งใน 3 เมืองใหญ่ รวมถึง 4 แห่งในเนปิดอว์ และ 5 แห่งในย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และทางด่วนย่างกุ้ง-มัณฑะเลย์

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/evs-e-bikes-import-push-to-boost-migrant-remittances/

นายกฯ สปป.ลาว แนะเจ้าหน้าที่แขวงบ่อแก้ว ลดนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยจากต่างประเทศ

นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว แนะนำให้ทางการปฏิบัติตามมติของรัฐบาล เพื่อส่งเสริมแนวทางการพัฒนาใหม่ๆ สู่การเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุมถึงวิธีการบริหารสมัยใหม่ แขวงบ่อแก้วควรปฏิบัติตามพระราชกฤษฎีกาที่กำหนดความรับผิดชอบในการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนงบประมาณของรัฐ และแผนสกุลเงิน ปี 2567 โดยแนะนำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าเม็ดเงินที่เข้ามาสู่แขวงบ่อแก้วและการชำระเงินโดยทั่วไป จะถูกชำระผ่านบัญชีธนาคารมากขึ้น เพื่อให้เงินเข้าสู่ระบบธนาคาร การจัดการสกุลเงินจะต้องมีความเข้มงวดมากขึ้น รวมถึงการควบคุมเงินที่นำเข้าเพื่อการลงทุนให้มีความสอดคล้องกับกฎหมาย นอกจากนี้ ทางการควรลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลีกเลี่ยงการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือย

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_28_PM_y24.php

ทางการกัมพูชาจัดงานประกวด “หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งผลิตภัณฑ์”

คณะกรรมการแห่งชาติกัมพูชาวางแผนจัดการประกวด หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OVOP) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่คาดว่าจะสนับสนุนให้ผู้ผลิตปรับปรุงคุณภาพและเพิ่มการส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยปัจจุบันทางการได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการสำหรับกำหนดกฎเกณฑ์การเป็นสมาชิก OVOP ณ กรุงพนมเปญ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (7 พ.ย.) นำโดย Ouk Rabun รัฐมนตรีอาวุโสและประธานคณะกรรมการแห่งชาติสำหรับ OVOP โดยจะจัดอันดับให้กับผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1,2,3,4 และ 5 ดาว ผ่านการพิจารณาของผู้เชี่ยวชาญบนมาตรฐานที่ทางการได้กำหนดไว้ สำหรับปัจจุบันมีสินค้าประมาณ 680 รายการ ที่ลงทะเบียนภายใต้โครงการ OVOP และส่วนใหญ่มีการจัดหน่ายแล้วในห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่น ซึ่ง OVOP ถือเป็นกลไกในการส่งเสริมให้ชุมชนท้องถิ่นใช้ทรัพยากรและทักษะอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับตลาดในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังส่งเสริมการเพิ่มรายได้ให้กับภาคประชาชน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501389363/contest-to-rate-village-products-planned/