ทางการกัมพูชารายงานถึงปริมาณนักท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา

ทางการกัมพูชารายงานถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีมากกว่า 200,000 คน ซึ่งเป็นผลมาจากจำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงวันขึ้นปีใหม่ของกัมพูชาที่กำลังจะมาถึง โดยกระทรวงการท่องเที่ยวรายงานว่าในช่วงสุดสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม มีนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวทั่วประเทศจำนวนกว่า 206,121 คน ในจำนวนนี้คิดเป็นนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาจำนวน 193,582 คน และชาวต่างชาติอีก 12,539 คน ตามรายงานของกระทรวงฯ ระบุว่าสถานที่ท่องเที่ยวหลักภายในประเทศ ได้แก่ พระสีหนุ 31,587 คน, พนมเปญ 28,608 คน, พระตะบอง 23,980 คน, กำปอต 22,702 คน, เสียมเรียบ 17,530 คน, แกบ 15,246 คน และ โพธิสัตว์ 10,652 คน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501048717/tourism-sector-unhampered-more-than-200000-tourists-recorded/

ความกังวลทวีความรุนแรงขึ้นภายหลังกรณีผู้ติดเชื้อโควิดที่แพร่ระบาดในพื้นที่ทั่วประเทศ

กลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่บันทึกไว้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาได้จุดชนวนให้เกิดความกลัวที่เพิ่มขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อในพื้นที่เพิ่มขึ้นในหมู่ชุมชนในเวียงจันทน์และต่างจังหวัด ทำให้ทางการต้องเสริมมาตรการควบคุมเพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสแพร่กระจาย ปัจจุบันสปป.ลาวมีผู้ป่วยโควิด-19 สะสมแล้ว 15,015 ราย หลังจากได้รับการยืนยันผู้ป่วยรายใหม่ 199 รายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สถานการณ์วิด-19 สปป.ลาวอาจไม่ได้รุนแรงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านแต่ระบบสาธารณสุขของสปป.ลาวค่อนข้างมีความอ่อนแอ ทำให้ยอดจำนวนติดเชื้อดังกล่าวมีความเสี่ยงที่จะรับมือไม่ไหวในระยะยาว ทั้งนี้ประชาชนสปป.มากกว่า 2.4 ล้านคนได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มแรก คิดเป็นร้อยละ 33.3 ของประชากร ขณะที่เกือบ 1.8 ล้านคนได้รับวัคซีน 2 โด๊ส คิดเป็นร้อยละ 24.4 ถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจสำหรับรัฐบาลสปป.ลาว แต่ถึงอย่างไรเห็นได้ชัดว่าการแร่งฉีดวัคซีนเพื่อให้ครอบคลุมที่สุดจะเป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาลและจะทำให้สปป.ลาวรอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ ถึงกระนั้นในระยะแรกมาตรการที่เข้มงวดเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมไม่ให้เกิดการระบาดอย่างแพร่กระจายและรุนแรง รัฐบาลควรเข้มงวดกับมาตรการและในขณะเดียวกันแผนการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจก็ควรมีอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Concerns_171.php

สปป.ลาวพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 250 ราย

จากรายงานผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 250 รายเมื่อวันอังคาร ส่วนใหญ่เป็นแรงงานข้ามชาติจากประเทศไทย จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เหล่านี้ ยอดรวมทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 7,015 ราย ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นยอดที่ติดเชื้อสูงสุดเท่าที่มีการบันทึกมาของสปป.ลาว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้แนะนำให้ทุกคนแสดงความรับผิดชอบและสนับสนุนการต่อสู้เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสลุกลามจนควบคุมไม่ได้ ในขณะเดียวกัน โครงการฉีดวัคซีนก็กำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของประชากรจะได้รับการฉีดวัคซีนภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ประมาณร้อยละ 16.55 ของประชากรลาวทั้งหมดได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกแล้วและร้อยละ 14.05 ได้รับวัคซีนทั้งสองโดส สปป.ลาวถือเป็นประเทศหนึ่งในอาเซียนที่มีความคืบหน้าด้านการฉีดวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพปัจจัยหนึ่งที่ทำให้แผนการฉีดวัคซีนของสปป.ลาวดำเนินการได้ต่อเนื่องมาจากการช่วยเหลือจากพันธมิตรที่สำคัญทั้งเกาหลี ญี่ปุ่น จีน สหรัฐฯ เป็นต้น จึงทำให้สปป.ลาวต่อสู้กับโควิด-19ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_250New_150.php

ยอดติดเชื้อโควิดรายวันสปป.ลาวสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มระบาดในสปป.ลาว

ยอดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 170 รายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ถือเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มระบาดในสปป.ลาว โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่งผลให้ยอดรวมทั่วประเทศอยู่ที่ 3,710 ราย ขณะที่ปัจจุบันมีผู้ป่วย 1,222 รายรับการรักษาอยู่ ด้วยสถานการณ์ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นรัฐบาลสปป.ลาว ได้ขยายเวลาล็อกดาวน์ในพื้นที่เสี่ยงบางส่วนถึงวันที่ 3 สิงหาคม เพื่อลดจำนวนการติดเชื้อและควบคุมการระบาดของไวรัส ในขณะเดียวกันโปรแกรมการฉีดวัคซีนก็กำลังได้รับการเร่งเพื่อให้ครอบคลุม 50 เปอร์เซ็นต์ของประชากรภายในสิ้นปีนี้ โดยรัฐบาลหวังว่าการฉีดวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้สปป.ลาวรอดพ้นจะวิกฤตครั้งนี้ในขนาดเดียวกันก็มีมาตรการด้านการบรรเทาภาวะเศรษฐกิจควบคู่ไปเพื่อดูแลประชาและธุรกิจให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปให้ได้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Covid_140.php

รัฐบาลกัมพูชาสนับสนุนการทำงานในรูปแบบ WFH

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้แนะนำให้สถาบันของรัฐทุกแห่งตลอดจนหน่วยงานนิติบัญญัติปรับใช้แนวปฏิบัติการทำงานจากที่บ้าน (WFH) และกำหนดให้มีบุคลากรเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ที่สามารถหมุนเวียนมาทำงานในที่ทำงานได้เป็นระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ ส่วนสำหรับสถาบันเอกชนหากเป็นไปได้รัฐบาลแนะให้ภาคเอกชนจำกัดจำนวนพนักงานในที่ทำงานและให้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงความแออัดในที่ทำงานและบนท้องถนน เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันกัมพูชาตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 50 รายในเมืองหลวงพนมเปญและจังหวัดพระสีหนุ เปรยแวงและกันดาลเมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50822294/cambodia-adopts-work-from-home-practice-for-a-week/