‘ผลสำรวจ’ ชี้ 6 เดือน นักช้อปผู้ชาย ซื้อของออนไลน์ พุ่ง 100%

จากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์ตลาด ‘YouNet ECI’ เปิดเผยว่าผู้บริโภคในปัจจุบันไม่เพียงแต่ซื้อสินค้าในฤดูกาลลดราคาครั้งใหญ่ แต่จะพิจารณาข้อเสนอในแต่ละวัน รวมถึงปัจจัยสำคัญของผู้ซื้อ 2 ประการ ได้แก่ นิสัยของบุคคลและพฤติกรรมผู้บริโภค ในขณะที่บริษัทวิจัยการตลาด ‘Buzzmetrics’ ระบุว่าในปี 2565-2566 ความถี่ของการเข้าแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เพิ่มขึ้น 3 เท่า และยอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 20-30 รายการคำสั่งต่อเดือนในปี 2566

ทั้งนี้ นาย Nguyen Phuong Lam จากบริษัทวิเคราะห์ตลาด กล่าวว่าในช่วงระยะแรกของตลาดอีคอมเมิร์ซ ผู้หญิงเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่สั่งซื้อสินค้าแฟชั่นและผลิตภัณฑ์ดูแลความงาม แต่ว่าในปัจจุบันผู้บริโภคชายกลับมีการซื้อเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน และสินค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อจะเป็นสินค้าเทคโนโลยีและเครื่องใช้ไฟฟ้าในครังเรือน โดยยอดขายในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2566 เติบโตเฉลี่ย 100% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่แล้ว

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnamese-men-s-online-purchases-grow-by-100-in-six-months-2286711.html

ตลาดผลไม้มัณฑะเลย์ ยอดขายพุ่ง

ผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคชาวเมียนมาเปลี่ยนไป ผลไม้ตามฤดูกาล เช่น ส้มโอ น้อยหน่า สับปะรด เสาวรส อะโวคาโด ส้มเขียวหวาน แอปเปิล ลูกแพร์ ทับทิมโดยถูกนำเข้าจากไทยมากกว่านำเข้าจากจีน ซึ่งมีให้เห็นแล้วในตลาดมัณฑะเลย์ และที่สำคัญคนในพื้นที่ชอบกินผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกันมากขึ้น โดยปกติตลาดผลไม้ในประเทศจะคึกคักในช่วงเทศกาลทาดิงยุต (Thadingyut) และสงกรานต์ตะจาน (Thingyan) ทั้งนี้ราคาขึ้นอยู่กับขนาดของผลไม้ เช่น น้อยหน่าราคา 100-200 จัต, แอปเปิ้ลราคา 600- 800 จัต, ทับทิมราคา 1,200 จัต, ผลไม้ซันคิสต์ราคา 800 จัต, อะโวคาโดราคา 400 จัต, ลูกแพร์ราคา 1,000-1,200 จัต, สับปะรดราคา 400-500 จัต, ส้มโอไทยราคา 2,500 จัต, ส้มโอเมียนมาราคา 1,000 จัต, ส้มเขียวหวานราคา 500 จัต และเสาวรสราคา 500 จัต ตามลำดับ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/mandalay-seasonal-fruit-market-records-brisk-sales/

ทำไม สินค้าไทยมาแรงตลาดเวียดนาม

เวียดนามเป็นประเทศที่เศรษฐกิจเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีประชากรราว 90 ล้านคนที่อยู่ในวัยทำงาน พร้อมกำลังซื้อสูงในชนชั้นกลาง ทั้งนี้ กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ เวียดนาม รายงานว่าในปี 2560 ตลาดค้าปลีกเวียดนามมีมูลค่าสูงถึง 1.29 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4 ล้านล้านบาท) และยอดขายของร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้าคาดว่าจะเติบโตเร็วมากที่สุด โดยเวียดนามถูกจัดอันดับเป็นประเทศที่มีศักยภาพในตลาดค้าปลีกลำดับที่ 6 ของโลกจาก 30 ประเทศ โดยเฉพาะนครโฮจิมินห์ ส่วนพฤติกรรมผู้บริโภคชาวเวียดนาม พบว่าสินค้าประเภทอาหาร เครื่องดื่ม และเสื้อผ้า เป็นต้น เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และคาดว่าในปี 2563 ภาคการค้าปลีกจะขยายตัวสัดส่วนร้อยละ 45 ของภาคการค้าปลีกทั้งหมดในเวียดนาม หากสังเกตตามเมืองหรือชนบท พบว่าจะเห็นสินค้าไทยวางขายในร้านขายของชำ และร้านสะดวกซื้อ มีอยู่จำนวนมาก เนื่องมาจากคนเวียดนามมองสินค้าไทยมีคุณภาพที่ดีกว่าสินค้าจีน แม้ว่าราคาจะแพงกว่าเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้สินค้าไทยเป็นที่นิยม เนื่องจากผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ของไทยเข้าไปลงทุนห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น จึงเปิดโอกาสให้สินค้าไทยเข้ามาเป็นหนึ่งในตัวเลือกของตลาดเวียดนาม สรุปได้ว่า เศรษฐกิจเวียดนามยังเติบโตต่อเนื่องทุกปี กลุ่มชนชั้นกลางมีกำลังซื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกระแสความนิยมสินค้าไทยมาแรง จึงเป็นโอกาสทางของผู้ผลิตสินค้าไทยที่จะเข้าไปในตลาดเวียดนาม

ที่มา : https://www.bangkokbanksme.com/en/vietnam-product