ต.ค. 64 ชาวประมงมีรายได้จากการส่งออกไประนอง 15.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

รายได้รวม 15.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการส่งออกประมงมากกว่า 14,037 ตัน ไปยังจังหวัดระนอง ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 21 ต.ค. พ.ศ. 2564 เนื่องจากอำเภอเกาะสอง เขตตะนาวศรี ประกอบธุรกิจการประมงเป็นหลัก ซึ่งช่วงนี้เป็นฤดูจับปลาชาวประมงมีกำไรจาการการจับปลา ได้อย่างน้อย 22 วันต่อเดือน โดยปัจจุบันราคาสินค้าประมงในตลาด ได้แก่ กุ้งก้ามกรามขนาดใหญ่ กก.ละ 60 บาท และเต่าขนาดเล็กราคา 90 บาท และขนาดใหญ่กว่า กก.ละ 120 บาท ซึ่งอนุญาตให้ใช้อวนจับปลาตามที่กรมประมงกำหนดเท่านั้น

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/usd-15-42-million-earned-from-fishery-exports-to-ranong-in-october/#article-title

ตะนาวศรีเริ่มฤดู ตกปลาหมึก หลังหมดหน้าฝน

ราคาน้ำมันพุ่งสูงส่งผลให้ต้นทุนของการจับปลาหมึกเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยที่เรือประมงนอกชายฝั่งมีต้นทุนในการออกเรือ ประมาณ 15 – 20 ล้านจัต ในขณะที่เรือชายฝั่งมีต้นทุนตั้งแต่ 5 -7 ล้านจัต จากราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นสามเท่าในปีนี้ ก่อนการระบาดของ COVID-19 พ่อค้าชาวจีนจะมารับซื้อปลาหมึกที่เมืองมะริด แต่ปัจจุบันจีนได้หันมาพึ่งตลาดไทยแทน สมาคมผู้ประกอบการปลาหมึกมะริด ให้ข้อมูลว่า การส่งปลาหมึกไปเมืองมะตองผ่านมะริดโดยไม่ต้องแปรรูปในห้องเย็นจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้  ซึ่งต้นทุนการแปรรูปที่อยู่ที่ประมาณ 500 จัตต่อกิโลกรัม แต่ขณะที่ต้นทุนการแปรรูปที่เมืองย่างกุ้งอยู่ที่ 150 จัต เมื่อผู้ประกอบการต่างชาติเข้ามาลงทุนในภูมิภาคนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากมาย

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/squid-fishing-season-starts-in-taninthayi/