‘ธุรกิจเยอรมัน’ มองทิศทางดีต่อเศรษฐกิจเวียดนาม

ตามรายงานการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจโลก ปี 64 “AHK World Business Outlook 2021” เปิดเผยผลการสำรวจ พบว่าธุรกิจเยอรมันในเวียดนามส่วนใหญ่ 55% มีความมั่นใจต่อการฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจในปีหน้า เมื่อถามถึงประเด็นการค้าการลงทุน ชี้ว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 83% ยังคงลงทุนขยายกำลังการผลิต หรืออัพเกรดโรงงานในอีก 12 เดือนข้างหน้า ในขณะที่ 30% วางแผนที่จะเปิดรับสมัครแรงงานเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่ามีปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะและการบริโภคที่ปรับตัวลดลง ถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญของธุรกิจเยอมันในเวียดนาม โดยกลุ่มตัวอย่าง 42% เผชิญกับปัญหาการจ้างงานแรงงานที่มีทักษะขั้นสูง ตลอดจนปัญหาอื่นๆ อาทิ นโยบายเศรษฐกิจ กฎหมาย โครงสร้างพื้นฐาน การปิดชายแดนและการยกเลิกกิจกรรมการค้า เนื่องจากได้รับผลกระทบของโควิด-19

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/german-firms-in-vietnam-optimistic-about-future-prospects-904337.vov

 

“หอเยอรมัน” เผยผู้ประกอบการชาวเยอรมันเชื่อมั่นเศรษฐกิจเวียดนามฟื้นตัวปีหน้า

จากการสำรวจของสมาคมหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งเยอรมนี (DIHK) เผยเมื่อวันที่ 12 พ.ค. ระบุว่าผู้ประกอบการ 46% มองว่ามีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในปีที่แล้ว และ 66% หวังว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวในปีนี้ ตามาด้วย 30% เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในปี 2565 “เวียดนามกลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านการลงทุนในการปรับโครงสร้างการผลิตใหม่ในระดับโลกและยังเป็นห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาค” ทั้งนี้ เมื่อถามถึง 10 เดือนข้างหน้า พบว่านักธุรกิจส่วนใหญ่ 55% มองว่าเศรษฐกิจเวียดนามในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ดี และ 11% มองว่าแย่ ในขณะเดียวกัน ข้อสังเกตอื่นๆ บริษัทเยอรมัน 47% มั่นใจว่าจะขยายการทำธุรกิจในเวียดนาม และ 50% จะจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นในปีนี้และปีหน้า อย่างไรก็ตาม หอเยอรมัน ระบุเพิ่มเติมว่า เวียดนามยังขาดแรงงานที่มีคุณภาพและความต้องการอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเป็นความท้าทายครั้งสำคัญของนักธุรกิจชาวเยอรมันในเวียดนา

ที่มา : http://hanoitimes.vn/german-businesses-expect-vietnam-economic-recovery-by-2022-dihk-317333.html

รัฐบาลเยอรมันให้รายละเอียดความร่วมมือด้านการพัฒนากับลาว 26.5 ล้านยูโร

รัฐบาลเยอรมันได้สนับสนุนความพยายามในการปฏิรูปของสปป.ลาวและยืนหยัดในการเป็นหุ้นส่วนช่วยเหลือพัฒนาประเทศ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 26.5 ล้านยูโร สำหรับความร่วมมือเพื่อการพัฒนาสปป.ลาว – ​​เยอรมันในปี 2563 ตัวเลขดังกล่าวได้รับการรายงานในการเจรจาความร่วมมือด้านการพัฒนาระหว่างรัฐบาลสปป.ลาวและเยอรมนี รัฐบาลทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะสานต่อความร่วมมืออย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าโครงการที่กำลังดำเนินอยู่รวมถึงกิจกรรมเพิ่มเติมที่ตกลงกันในการเจรจาเหล่านี้จะได้ข้อสรุปตามแผนที่วางไว้และแนวทางและผลลัพธ์ที่ตั้งใจไว้สนับสนุนลาวในเส้นทางสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้คุยในประเด็นสำคัญของความร่วมมือ ได้แก่ การพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนควบคู่ไปกับดูแลพัฒนาชนบททรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เยอรมนียังคงรักษาความสัมพันธ์ทางการทูตและความร่วมมือด้านการพัฒนากับสปป.ลาวมา ตั้งแต่แรกเริ่มในปี 2501 เยอรมนีถือเป็นประเทศที่สนับสนุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและมีส่วนในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคการศึกษาโดยให้ความสำคัญกับการลดความยากจนโดยรวมของสปป.ลาวตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา ปัจจุบันสปป.ลาวมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมากเนื่องจากรัฐบาลดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหาความเท่าเทียมกัน ความยุติธรรมทางสังคมและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนผ่านความร่วมมือกับรวมกันกับประเทศที่มีศักยภาพไม่ว่าจะเป็น จีน ไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น รวมถึงเยอรมนี

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_German_189.php

บริษัทเยอรมันพิจารณาลงทุนในธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ในกัมพูชา

บริษัทของเยอรมันแสดงความสนใจในภาคพลังงานสะอาดของกัมพูชาในระหว่างการประชุมเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ที่จัดขึ้น ณ กรุงพนมเปญ ด้วยเป้าหมายที่จะผลิตพลังงานจากโซล่าฟาร์มให้ถึง 20% ของภาคการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดที่รัฐบาลวางแผนไว้ โดยงานนี้จัดขึ้นโดยคณะผู้แทนจากประเทศเยอรมนีด้านอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ในประเทศเมียนมาร์ (AHK) และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) และหอการค้ายุโรป (Eurocham) ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมพลังงานทดแทน โดยจัดแสดงโซลูชั่นทางด้านพลังงานที่ยั่งยืนซึ่งผู้อำนวยการด้านพลังงานขอ กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของกัมพูชากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่ารัฐบาลยินดีต้อนรับนักลงทุนทุกคนที่ต้องการเข้ามาพัฒนาโครงการในภาคพลังงานแสงอาทิตย์ โดยกัมพูชามีจำนวนชั่วโมงแสงแดดสูงบ่งบอกถึงศักยภาพความเป็นไปได้ในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนในกัมพูชา ซึ่งมีโซล่าฟาร์มเพียงสองแห่งที่เปิดดำเนินการ ซึ่งผลิตไฟฟ้าได้ 90 เมกะวัตต์ โดยภายในปี 2565 โรงงานผลิตพลังงานแสงอาทิตย์จะเปิดทำการเพิ่มอีก 7 แห่ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50657473/german-companies-consider-investing-in-local-solar-sector/