สมาคมเวียดนาม-สปป.ลาวมอบเวชภัณฑ์ทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือสปป.ลาว

เมื่อวันที่ 21 เมษายนผ่านมาสมาคมมิตรภาพเวียดนาม – ลาวได้มอบเวชภัณฑ์ทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือสปป.ลาวโดยเฉพาะแพทย์และพยาบาลที่เกี่ยวข้องโดยตรงในการป้องกันและต่อสู้กับ COVID-19 โดยเวชภัณฑ์ประกอบด้วยชุดป้องกัน 500 ชุดและหน้ากากป้องกันใบหน้า 18,500 ชุด หน้ากากทางการแพทย์ 17,500 ชุดและหน้ากากผ้าต้านเชื้อแบคทีเรีย 1,000 ชุด การช่วยเหลือดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นปึกแผ่นระหว่างสองประเทศ เพื่อเอาชนะความยากลำบากที่เกิดจากการระบาดของ COVID-19 รวมถึงเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีของทั้ง 2 ประเทศ จะเป็นประโยชน์กันในภายภาคหน้าเพราะสปป.ลาวถือเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของเวียดนามหากสปป.ลาวฟื้นตัวได้เร็ว เศรษฐกิจกลับมาเหมือนเดิมจะทำให้การค้าระหว่างประเทศกับมาขยายตัวได้เหมือนเดิม การช่วยเหลือดังกล่าวจึงเป็นทั้งการช่วยเหลือด้านสาธารณะสุขและเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ

ที่มา : http://kpl.gov.la/En/Detail.aspx?id=51828

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในกัมพูชาขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากรัฐบาล

ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเรียกร้องให้รัฐบาลหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการชะลอการจ่ายดอกเบี้ยและการชำระคืนเงินต้นสำหรับธุรกิจในภาคที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของ COVID-19 ณ วันที่ 17 เมษายน มีโรงแรม 2,698 แห่ง, เกสต์เฮาส์, ร้านอาหารและตัวแทนการท่องเที่ยวในธุรกิจการบริการในภาคการท่องเที่ยวได้ถูกสั่งปิดทั่วประเทศ โดยในเดือนกุมภาพันธ์รัฐบาลประกาศว่าธุรกิจการบริการที่ได้รับการจดทะเบียนในจังหวัดเสียมราฐที่ได้รับผลกระทบจากการลดน้อยลงของจำนวนนักท่องเที่ยวจนแทบไม่มีนักท่องเที่ยวเลย ได้รับการลดหย่อนภาษีจนถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลยังได้ยกเว้นภาษียืดไปอีกสามเดือน (ครอบคลุมเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม) สำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบในจังหวัดต่าง ๆ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50715483/tourism-industry-asks-for-further-govt-help/

การไหลออกของ FDI จากตลาดเกิดใหม่อาจส่งผลต่อกัมพูชา

การไหลออกของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น กัมพูชา อาจได้รับผลกระทบด้านลบต่อตลาดการเงิน การบริโภค ความเชื่อมั่น การลงทุน การค้าระหว่างประเทศและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อ่อนตัวลงจากผลกระทบของมาตรการด้านสุขภาพที่รุนแรงเพื่อตอบสนองต่อการระบาดของ COVID-19 โดยนักเศรษฐศาสตร์พิจารณาว่าการลดลงอย่างรุนแรงนี้อาจเป็นความเสี่ยงที่ร้ายแรงสำหรับกัมพูชาเนื่องจากการถอนเงินทุนจำนวนมากและฉับพลันสามารถก่อให้เกิดความกังวลด้านสภาพคล่องสำหรับทั้งธนาคารกลาง และบริษัทขนาดใหญ่รวมทั้งส่งผลกระทบต่อศักยภาพของประเทศสำหรับการเติบโต และลดศักยภาพการส่งออก ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากัมพูชาได้รับการดึงดูดสูงเป็นประวัติการณ์ของกระแสเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศจีนด้วยการลงทุนเน้นไปที่ภาคการผลิต โดยกัมพูชาดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมากกว่า 3.588 พันล้านดอลลาร์ในช่วงปี 2562 เพิ่มขึ้น 11.7% จาก 3.212 พันล้านดอลลาร์ในปี 2561 คิดเป็นการลงทุนจากจีนคิดเป็น 43% เกาหลีใต้ 11% เวียดนาม 7% ญี่ปุ่น 7% และสิงคโปร์ 6% ตามรายงานความคืบหน้าของเศรษฐกิจมหภาคและการธนาคาร 2562 และแนวโน้มปี 2563

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50715485/record-fdi-outflow-from-emerging-markets-could-leave-cambodia-exposed/

นายกฯ มอบ มท.-พาณิชย์จัดการ แก้ปัญหาขนส่งสินค้าข้ามเขต ชี้เคอร์ฟิวเป็นเหตุน้ำพริกบูด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ รมว.กลาโหม มอบหมายในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้หน่วยงานกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทยและฝ่ายความมั่นคง ร่วมกันหาทางแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่จำเป็นต้องส่งสินค้าข้ามจังหวัดในช่วงที่มีการเคอร์ฟิว หลังพบการร้องเรียนจากผู้ประกอบธุรกิจหลายรายว่า แต่ละจังหวัดมีมาตรการการตรวจสอบไม่เหมือนกัน ทำให้การขนส่งสินค้าไม่สะดวก โดยผลการประชุมสำคัญเรื่องแรกเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัส โควิด-19 มาตรการการกีดกันการเคลื่อนย้ายพรมแดนควรขึ้นอยู่กับการพิจารณาด้านสาธารณสุข ไม่ควรมีการจำกัดการค้าในภูมิภาคโดยไม่จำเป็น รวมถึงได้ข้อตกลงร่วมกันเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาด พร้อมเห็นชอบในหลักการการลดค่าธรรมเนียมการให้บริการโทรศัพท์ข้ามแดนระหว่างประเทศให้เป็นอัตราเดียวกันในอาเซียน โดยรอผลการพิจารณาจากองค์กรรายสาขาที่เกี่ยวข้อง และยังเห็นชอบให้มีการลงนามความตกลงยอมรับร่วมสาขายานยนต์อาเซียนภายใน ส.ค.63 นี้

ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/business/1827079