ภาคการท่องเที่ยวระหว่างประเทศยังเติบโต แต่ยังคงต้องติดตามต่อในอนาคต

กัมพูชามีรายรับราว 4.91 พันล้านเหรียญสหรัฐจากภาคการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 12.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน  โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.61 ล้านคน ตามรายงานล่าสุดจากกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา ซึ่งเมื่อปีที่แล้วจำนวนนักท่องเที่ยวรวมภายในประเทศที่มาเยือนกัมพูชาเพิ่มขึ้น 11.3 ล้านคน จากนักท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยจากรายงานแสดงให้เห็นถึงภาคการท่องเที่ยวมีสัดส่วนถึง 12.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งการท่องเที่ยวมีลูกจ้างถึง 630,000 คน ในการให้บริการภายในประเทศ โดยประเทศจีนอยู่ในอันดับต้นๆของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในกัมพูชาเมื่อปีที่แล้วสูงถึง 2.361 ล้านคน รองลงมาคือเวียดนาม 908,803 คน ไทย 363,951 สปป.ลาว 363,951 เกาหลีใต้ 254,874 คน สหรัฐ 248,863 คน ญี่ปุ่น 207,636 คน มาเลเซีย 203,008 และญี่ปุ่น 207,636 คน เป็นต้น ซึ่งกระทรวงฯคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะสูงถึง 7 ล้านคนในปี 2563 อย่างไรก็ตามเนื่องจากการระบาดของ COVID-19 การคาดการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างมาก ในปัจจุบันในเสียมราฐเพียงอย่างเดียวจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงประมาณร้อยละ 60 จนถึงปีนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50695677/international-tourism-up-but-fears-for-the-future

กนอ.จ่อคลอดแผนนิคมอุตสาหกรรมสกัด ‘โควิด-19’

กนอ.เตรียมออกมาตรการเฝ้าระวังโควิด-19 ในนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ เล็งปรับเป้าขายที่ดินปีนี้รับพิษเศรษฐกิจทรุดด้านเอเชียคลีนฯเชื่อไทยสร้างความมั่นใจคุมไวรัสได้ โดยผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่าจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในหลายประเทศ กนอ.เตรียมจะออกประกาศให้นิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศมีมาตรการและบังคับใช้มาตรการอย่างเข้มงวดในการตรวจและคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรค โควิด – 19 ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดและลดความเสี่ยงของผู้ที่ทำงานในโรงงานและนิคมอุตสาหกรรม จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายการจำหน่ายพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ในความดูแลของ กนอ.ประมาณ 3,000 ไร่ต่อปี โดยปีนี้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากหลายด้าน ซึ่งนอกจากเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสแล้วจะต้องประเมินถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลงก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนด้วย โดยเชื่อว่าหากยังสามารถควบคุมการระบาดในประเทศได้ในระดับนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนที่มีแผนที่จะขยายการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV เข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นโอกาสรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอนาคต

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/868079

DITP ผลักดันผู้ประกอบการไทยขายสินค้าสู่ตลาดโลก ผ่านร้าน TOPTHAI

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์จับมือพันธมิตรออนไลน์ชั้นนำ ได้แก่ Kha-leang (ตลาด CLMV), Tmall Global Partner (ตลาดจีน), BigBasket (ตลาดอินเดีย) และ Amazon (ตลาดอเมริกา) จัดกิจกรรม “Cross-Border e-Commerce Solutions & Business Matching” ณ กรุงเทพฯ เพื่อต่อยอดการส่งเสริมผู้ประกอบการให้สามารถขายสินค้าสู่ตลาดต่างประเทศ ผ่านร้าน TOPTHAI บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถขยายธุรกิจระหว่างประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 จึงมีความพิเศษคือจะเป็นการต่อยอดเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพที่เข้าร่วมโครงการสามารถขึ้นขายสินค้าบนร้าน TOPTHAI ในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในตลาดเป้าหมาย อาทิ Kha-leang (ตลาด CLMV), Tmall Global Partner (ตลาดจีน), BigBasket (ตลาดอินเดีย) และ Amazon (ตลาดอเมริกา)

          ที่มา: https://mgronline.com