ภาคการขนส่งสปป.ลาวกำลังเติบโตอย่างมาก

การขนส่งสินค้าและพัสดุในสปป.ลาวกำลังเติบโตจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของ e-commerce ในประเทศ โดยหนึ่งในผู้ให้บริการจัดส่ง ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆนี้อย่าง HAL Logistics Co Ltd ซึ่งเป็น บริษัทขนส่งสินค้าในเวียงจันทน์เป็นหลักและยังมีบริการขนส่งทั่วสปป.ลาวอีกด้วย โดยในปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่ง Mr Sisavath Mayongseun ผู้จัดการของบริษัทกล่าวว่า “ สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้นั้นจะต้องให้บริการที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ถูกต้องและสามารถตรวจสอบได้” โดยในอนาคตภาคการขนส่งทางบกจะเป็นภาคการขนส่งที่สำคัญเพราะด้วยปัจจัยด้านภูมิศาสตร์ที่สปป.ลาวไม่มีทางออกสู่ทะเลทำให้การขนส่งหลักๆจะมาจากทางบกไม่ว่าจะเป็นทางถนนที่มีการเชื่อมต่อทั่วสปป.ลาวและไปสู่ประเทศรอบๆ นอกจากนี้การขนส่งทางรถไฟในอาคตเมื่อโครงการรถไฟลาว – ​​จีนแล้วเสร็จจะทำให้การขนส่งทางรางมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเป็นช่องทางการค้าและการลงทุนที่สำคัญแก่สปป.ลาวต่อไป

ที่มา: http://annx.asianews.network/content/freight-company-keen-cash-e-commerce-boom-laos-114397

โครงการทางด่วนพนมเปญ-เบเวตของกัมพูชาอยู่ในระหว่างการศึกษา

การศึกษาการก่อสร้างทางด่วนเชื่อมโยงเมืองหลวงกรุงพนมเปญไปยังเมืองเบเวต ที่ติดกับชายแดนของเวียดนามได้ดำเนินการแล้ว ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับการประกาศโดยรัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง เกี่ยวกับกรอบข้อตกลงที่ได้รับการลงนามระหว่างกระทรวงและบริษัทจีนแห่งหนึ่ง ภายใต้การลงนามเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยการศึกษาจะใช้เวลาแปดเดือนจึงจะเสร็จสมบูรณ์และรายงานการศึกษาจะถูกส่งไปยังรัฐบาลที่จะทำหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนโครงการทางพิเศษนี้ ซึ่งการศึกษาครั้งแรกของโครงการทางด่วนพนมเปญ-เบเวตดำเนินการโดย JICA แต่รัฐบาลพบว่าโครงการอาจจะมีค่าใช้จ่ายมากเกินไป โดยทางด่วนสายแรกที่เชื่อมระหว่างพนมเปญกับจังหวัดชายฝั่งของพระสีหนุทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งการก่อสร้างทางพิเศษมีระยะทางมากกว่า 190 กิโลเมตร โดยมีกำหนดจะแล้วเสร็จในปี 2566

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50693876/phnom-penh-bavet-expressway-project-under-study

เสียมราฐเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมข้าวเพื่อความยั่งยืน

การประชุมสุดยอดด้านข้าวเพื่อความยั่งยืนครั้งแรกในกัมพูชาจัดขึ้นในจังหวัดเสียมราฐโดยมีตัวแทนจากสหกรณ์การเกษตร ผู้ผลิตข้าวและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องจำนวน 180 คน ได้หารือเกี่ยวกับการปรับปรุงภาคอุตสาหกรรมข้าวภายในประเทศ โดยการประชุมจัดโดยสหพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF), Amru Rice และ บริษัท สหกรณ์การเกษตรกัมพูชา จำกัด (มหาชน) (CACC) โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมงกัมพูชา ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีที่ปรึกษาอาวุโสของสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ, ประธาน CACC และประธาน CRF เข้าร่วมด้วย ภายใต้หัวข้อ การสร้างความเข้มแข็งของสหกรณ์การเกษตรในประเทศกัมพูชา ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวรวมถึงการอภิปรายที่สำคัญในหัวข้อต่างๆ เช่นการสนับสนุนสหกรณ์ การเข้าถึงการเงินผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลและนวัตกรรมการเข้าถึงการเงินสำหรับเกษตรกรรายย่อยและวิธีการก้าวไปข้างหน้าในการสร้างห่วงโซ่คุณค่าข้าวอย่างยั่งยืน โดยเมื่อปีที่แล้วกัมพูชาส่งออกข้าวสารประมาณ 620,000 ตัน ไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งประธานซีอาร์เอฟกล่าวว่ากัมพูชาตั้งเป้าส่งออกข้าวสารอย่างน้อยหนึ่งล้านตันในปี 2566

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50694140/siem-reap-hosts-first-sustainable-rice-summit

พิษไวรัส COVID-19 กระทบค้าชายแดนเมียนมา – จีน ลด 209 ดอลลาร์สหรัฐ

การส่งออกแตงโมและผลิตภัณฑ์ทางทะชายแดนเมียนมา – จีนลดลง 209 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึง 14 กุมภาพันธ์ของปีงบประมาณ 61-62 มูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ 14,595 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 2.147 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีนี้ มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 1.053 พันล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ การค้าชายแดนลดลงเนื่องจากวันหยุดตรุษจีนและการแพร่กระจายของไวรัสโคโรน่า ถึง 18 กุมภาพันธ์การค้าชายแดนลดลง 209 ล้านดอลลาร์สหรัฐ – ส่งออก 152 ล้านดอลลาร์สหรัฐและการนำเข้า 57 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มีผลกระทบกับแตงโม, แตงโมหวาน, สินค้าที่เน่าเสียได้และผลิตภัณฑ์ทางทะเล การแก้ไขปัญหานี้รัฐบาลย่างกุ้งร่วมมือกับโรงแรมตากอากาศ เจ้าของร้านอาหาร และผู้ผลิตอาหารในการรับซื้อแตงโมและแตงโมหวานและช่วยเพิ่มการบริโภคในท้องถิ่น

โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าอาจต้องปิดตัวลงชั่วคราวเนื่องจากการขาดแคลนวัตถุดิบหากไม่สามารถนำเข้าวัตถุดิบได้จนถึงเดือนเมษายน ซึ่งต้องนำเข้าวัตถุดิบ CMP ผ่านชายแดนจีน – เมียนมา

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/myanmar-china-border-trade-declines-209-m-usd-due-to-covid-19

ราคาทองคำพุ่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ราคาทองคำในประเทศเพิ่มขึ้นในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่ ราคาทองคำโลกทะยานขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยบริษัทไซง่อน จิเวลรี (SJC) ระบุว่าราคาขายทองคำอยู่ที่ 45.68 ล้านดอง (1,970.2 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อตำลึง ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันก่อนที่ 630,000 ดอง ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่าราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี และเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดในรอบ 6 เดือน เนื่องมาจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น หลังผู้เสียชีวิตจากโคโรนา ซึ่งในตลาดท้องถิ่น บริษัท Bao Tin Minh Chau Jewelry ในกรุงฮานอย เปิดเผยว่าในช่วงเวลาข้างต้น มีการทำธุรกรรมทองคำสำหรับผู้ซื้อเพิ่มขึ้นร้อยละ 55 และผู้ขายร้อยละ 45 ขณะเดียวกัน ทางบริษัทระบุในเว็บไซต์ว่านับเป็นโอกาสที่ดีแก่นักลงทุนในการทำกำไร อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าทองคำส่วนใหญ่มองว่าไม่เห็นถึงความแตกต่างอย่างมากกับจำนวนลูกค้าที่ซื้อทองคำ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/gold-prices-soar-at-home-and-abroad/169035.vnp