สนามบินแห่งแรกของรัฐชินเปิด พ.ค.63

รัฐชินจะเปิดให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนเข้าถึงได้มากขึ้นในปีนี้เมื่อสนามบินแห่งแรกเปิดทำการ สนามบินเซอบุ่ง ในเมืองพะล่าน ของรัฐชิน จะเปิดในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม การย้ายครั้งนี้คาดจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในรัฐที่ด้อยพัฒนาที่สุดของประเทศ โครงการมูลค่า 37 พันล้านจัต โดยเชื่อมโยงชินกับรัฐอื่น ๆ อีกเจ็ดแห่ง สนามบินตั้งอยู่ทางตอนเหนือในเมืองพะล่าน ของรัฐชิน ตั้งอยู่บนเทือกเขา มีรันเวย์ยาว 1,830 เมตรและกว้าง 30 เมตรในการรองรับเครื่องบิน ATR-72 ภูมิประเทศที่เป็นภูเขาทำให้ชินเป็นรัฐที่ยากต่อการเดินทาง ทำให้เป็นรัฐที่มีการพัฒนาน้อยที่สุดด้วยการขาดโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจากความไม่สามารถเข้าถึงได้ในปีที่ผ่านมามีธุรกิจโรงแรมในท้องถิ่นเพียงไม่กี่แห่งที่เปิดดำเนินการและไม่มีการลงทุนจากต่างประเทศ จากการสำรวจสภาพความเป็นอยู่ในปี 60 ประชากรเกือบ 60% อยู่ในสภาวะยากจน เมียนมามีสนามบินนานาชาติ 3 แห่งและอีก 58 แห่งในประเทศซึ่งปัจจุบันมีเพียง 31 แห่งที่เปิดให้บริการ

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/first-airport-chin-state-open-may.html

พาณิชย์เปิดเจรจาการค้าไทย-บังกลาเทศ

ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า ไทย – บังกลาเทศ ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 7 – 8 ม.ค. 63 ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ซึ่งจะมีการหารือในประเด็นสำคัญ เช่น การขยายการค้าและการลงทุน การส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในด้านต่างๆ อาทิ อุตสาหกรรม เกษตร ประมงและปศุสัตว์ บริการสุขภาพและสาธารณสุข และโครงสร้างพื้นฐาน และความเป็นไปได้ในการจัดทำ เอฟทีเอ ไทย – บังกลาเทศ เป็นต้น เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการค้าและการลงทุนสองฝ่ายให้ขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพในอนาคต ซึ่งบังกลาเทศเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูงในภูมิภาคเอเชียใต้ มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดที่ 6-8% ต่อปี มีประชากรกว่า 160 ล้านคน มีทรัพยากรทางธรรมชาติเป็นจำนวนมาก เช่น ก๊าซธรรมชาติ ป่าไม้ และถ่านหิน มีกฎระเบียบที่เอื้อต่อการค้าและการลงทุน โดยบังกลาเทศได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีฝ่ายเดียว หรือ จีเอสพี จาก 47 ประเทศทั่วโลก รวมถึงมีศักยภาพในการเป็นประตูการค้าสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียใต้ และประเทศสมาชิกองค์การความร่วมมืออิสลาม หรือโอไอซี กว่า 57 ประเทศ ดังนั้น การประชุมครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองประเทศจะกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น…

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/economic/750275

คาดราคาเนื้อสุกรอาเซียนพุ่งรับอหิวาต์หมูระบาดหนัก

องค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ เผยโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ระบาดทั่วเอเชีย โดยมี “เวียดนามและฟิลิปปินส์” แพร่รุนแรงที่สุด ส่งผลราคาเนื้อหมูในอาเซียนปรับตัวเพิ่มขึ้น สำนักข่าวบีบีซี รายงานอ้างการเปิดเผยของกระทรวงเกษตรอินโดนีเซีย ที่ระบุว่า มีหมูเกือบ 30,000 ตัว ต้องตายลงเพราะติดเชื้อโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรในจังหวัดสุมาตราเหนือ จนถึงขณะนี้ การระบาดที่รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นในจีน นาย ชาห์รูล ยาซิน ลิมโป รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของอินโดนีเซีย กล่าวว่าทางการกำลังรับมือกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง รวมถึงการแยกพื้นที่ที่เป็นปัญหาเหล่านั้นออกมา ด้านสมาคมของผู้ผลิตเนื้อหมูของออสเตรเลีย ประเมินว่า การระบาดนี้อาจจะสร้างความเสียหายราว 2 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 4.17 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์จากอ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ กล่าวว่าในช่วงไม่กี่เดือนนี้ราคาน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก เพราะปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นในช่วงตรุษจีน แต่ว่าความพยายามด้านความปลอดภัยทางชีวภาพของจีน เริ่มเห็นผลแล้ว และคาดว่าอุตสาหกรรมเนื้อหมูในจีนได้ผ่านจุดวิกฤตมาแล้ว แต่การฟื้นตัวอย่างเต็มที่ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปี

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/859450

กระทรวงสาธารณสุขร่วมหน่วยงานรัฐหาแนวทางปฏิรูประบบสุขภาพ

กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ได้จัดประชุมระดมสมองเรื่องร่างยุทธศาสตร์การปฏิรูประบบสุขภาพระยะที่ 3 ขึ้นเพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มชาติพันธุ์สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ โดยการจัดประชุมดังกล่าวเพื่อส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องแบ่งปันความคิดเกี่ยวกับกลยุทธ์การปฏิรูปสุขภาพเพื่อให้ครอบคลุมทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องมากที่สุด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า “การปฏิรูประบบสุขภาพมีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองต่อความกังวลของรัฐบาลและสมัชชาแห่งชาติต่อสถานะสุขภาพของประชาชนสปป.ลาว ถึงการเข้าถึงบริการที่ดีด้วยต้นทุนและคุณภาพที่เหมาะสม” นอกจากการปฎิรูปบุคลากรร่วมถึงระบบการให้บริการที่ดี ยังมีเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพจะได้รับการกระจายไปทั่วประเทศอย่างเพียงพอต่อความต้องการ ในระยะยาวของการปฏิรูประบบสุขภาพคือการสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพเพื่อสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสำหรับประชาชนทั้งหมดและสร้างหลักประกันสุขภาพที่ดีให้กับประชาชนสปป.ลาว

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Ministry.php

รัฐบาลสปป.ลาวใช้ประโยชน์ด้านการวิจัยเพื่อแก้ปัญหาความยากจน

เจ้าหน้าที่รัฐจะใช้ประโยชน์จากการศึกษาวิจัย เพื่อช่วยในการกำหนดแผนและเร่งการบรรเทาความยากจน ผลการวิจัยจะถูกนำมารวมและนำมาพิจารณาเมื่อจัดทำแผนลดความยากจนและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ผ่านมากระทรวงเกษตรและป่าไม้ได้ริเริ่มแนวคิดการวิจัยเกี่ยวกับการลดความยากจนในชุมชนโดยคัดเลือกผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมทีมนักวิจัยในการแก้ความยากจนในประเทศ โดยมีการสนับสนุนการเงินจากประเทศจีนในการสนับสนุนงานวิจัย ปัจจุบันสปป.ลาวมีกลุ่มคนยากจนมากถึง 8 แสนคนใน 10 แขวงทั่วประเทศก่อนหน้านี้ได้มีการช่วยเหลือจากรัฐบาลผ่าน ”กองทุนลดความยากจน” มีการใช้จ่ายเงินจำนวน 187 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อดำเนินกิจกรรมของกองทุนในระยะเวลา 16 ปี ผลของการดำเนินงานเป็นไปอย่างช้าๆ ดังนั้นการทำการศึกษาวิจัยอย่างจริงจังครั้งนี้จะนำมาซึ่งวิธีและแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดเพื่อปัญหาความยากจนที่อยู่กับสปป.ลาวมายาวนานจะได้ลดลงและหวังว่าจะหมดไปในอนาคต

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt277.php