สปป.ลาว – ไทยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือและประสบการณ์ระหว่างสองประเทศ

คณะผู้แทนสื่อสปป.ลาวเดินทางมาเยือนประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 10-13 ก.ย.ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างสองประเทศ การเรียกประชุม เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ‘ สื่อสปป.ลาวเยี่ยมชมประเทศไทย ‘ ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มของกระทรวงการต่างประเทศและดำเนินการโดยสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำสปป.ลาว โครงการนี้ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความเข้าใจที่มากขึ้นระหว่างผู้คนของทั้งสองประเทศผ่านสื่อ ในระหว่างการเยือนคณะผู้แทนได้มีการพบปะกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศสมาชิกสมาคมนักข่าวไทยและเยี่ยมชมองค์กรสื่อไทยรวมถึง บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ผู้ประกาศข่าวสาธารณะของไทย และช่อง 7HD แบ่งปันบทเรียนเกี่ยวกับการทำธุรกิจในอุตสาหกรรมสื่อ การเยี่ยมชมครั้งนี้ยังรวมถึงการทัศนศึกษาดูสถานที่สำคัญต่างๆ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Lao_Thai_210.php

กัมพูชาและไทยลงนามในข้อตกลงการจดทะเบียนข้ามพรมแดน

กัมพูชาและไทยได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นข้ามพรมแดน เพื่อปูทางให้ บริษัท ไทย และ บริษัท กัมพูชา เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ท้องถิ่นได้ โดยได้ลงนามกันที่กรุงเทพฯระหว่างผู้อำนวยการตลาดหลักทรัพย์ประเทศกัมพูชา (SECC) และ เลขาธิการ ก.ล.ต. ประเทศไทย ซึ่งครอบคลุมถึงแนวทางช่วยเหลือผู้ออกตราสารที่ต้องการเสนอขายหลักทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นตราสารทุนหรือตราสารอนุพันธ์ทั้งในประเทศไทยและประเทศกัมพูชา โดยเชื่อว่า MoU เป็นขั้นตอนสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือในตลาดทุนระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลสองแห่งทั้งด้านของความเชื่อมั่นและการดำเนินการจดทะเบียนข้ามพรมแดนให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์กัมพูชาเปิดตัวในปี 2555 มี บริษัท จดทะเบียน 5 แห่ง โดยมีการระดมทุนทั้งหมด 120 ล้านเหรียญสหรัฐใน CSX นับตั้งแต่เปิดตัว

ที่มา : https://www.b2b-cambodia.com/news/cambodia-thailand-sign-agreement-on-cross-border-listings/

กัมพูชาเปิดตัวแผนแม่บทเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวใน 2 สถานที่มรดกโลก

กรุงพนมเปญของกัมพูชา ได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ 4 ยุทธศาสตร์รวมถึงการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวเพื่อการพัฒนาและสร้างความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ฟื้นฟูในส่วนพื้นที่อุทยานโบราณคดีอังกอร์และวัดพระวิหารในจังหวัดทางตอนเหนือ โดยแหล่งท่องเที่ยวหลักสองแห่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง 9.7% และ 5.5% ในช่วงเจ็ดเดือนแรกของปีนี้ ซึ่งเชื่อมั่นว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวใหม่เป็นสิ่งที่จำเป็นในการดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังจังหวัด จากรายงานระบุว่าในช่วงเจ็ดเดือนแรกของปีนี้กัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3.84 ล้านคนเพิ่มขึ้น 11.1% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนถึง 1.5 ล้านคนในช่วงดังกล่าวเพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบเป็นรายปีนักท่องเที่ยวเวียดนามพุ่งขึ้นเกือบ 480,000 คนเพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีและนักท่องเที่ยวสปป.ลาวเกือบ 220,000 คนลดลง 1.9%

ที่มา : https://english.cambodiadaily.com/business/cambodia-unveils-masterplan-to-boost-tourism-in-2-world-heritage-sites-153334/

เวียดนาม ตลาดปราบเซียน เหตุใดฟาสต์ฟูดตะวันตกแจ้งเกิดไม่ได้?

ธุรกิจ QSR (quick service restaurant) หรือที่เรียกว่า ธุรกิจฟาสต์ฟูดนั้น มีมูลค่ามากกว่า 651,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่างแมคโดนัลด์และเบเกอร์คิง มักจะได้รับการต้อนรับและธุรกิจเติบโตได้ดี จวบจนปัจจุบัน แต่ที่เวียดนามนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เมื่อในปี 2014 แมคโดนัลด์เข้ามาเปิดสาขาแรกที่นครโฮจิมินห์ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่หลังจากนั้นไม่นาน ความคึกคักก็ซาลง จากที่แมคโดนัลด์เคยตั้งเป้าจะขยายธุรกิจในเวียดนามให้ครบ 100 สาขา ภายใน 10 ปี จนถึงขณะนี้ แมคโดนัลด์ในเวียดนามมีเพียง 17 สาขาเท่านั้น ด้านเบอร์เกอร์คิงก็ไม่ต่างกันมากนัก มีสาเหตุมาจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรง ทั้งจากร้านอาหารท้องถิ่นและร้านต่างประเทศมีจำนวนมาก รวมไปถึงวัฒนธรรมอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ ได้แก่ เฝอ และบั๋นหมี่ เป็นต้น ซึ่งปัจจัยสำคัญ คือ รสชาติและราคา หากไม่พูดถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว ฟาสต์ฟูดตะวันตกไม่ได้ถูกปากลูกค้าชาวเวียดนามนัก เพราะพวกเขาคุ้นชินกับเฝอและบั๋นหมี่มากกว่า ทั้งนี้ ช่วงปี 2559-2561 จำนวนผู้บริโภคเวียดนามใช้บริการร้านฟาสต์ฟูดลดลง 31% และเดินเข้าร้านอาหารข้างทางมากขึ้น 70% อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีฟาสต์ฟูดจากต่างประเทศแบรนด์ไหนที่ถอดใจ ยังมีความพยายามจะปรับกลยุทธ์เพื่อพลิกกลยุทธ์จนพิชิตตลาดเวียดนามได้หรือไม่ คงต้องจับตาดู

ที่มา : https://www.smethailandclub.com/aec-3656-id.html

พัฒนาเชิงพื้นที่เชื่อมโลกยกระดับเศรษฐกิจ

การสัมมนาประจำปีของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปี 2562 ชูแนวคิดพัฒนาพื้นที่ไทย เชื่อมไทยก้าวไกลเชื่อมโลกโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เน้นย้ำขับเคลื่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ให้เป็นรูปธรรม เพื่อเกิดการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ลดความเหลือมล้ำในสังคม และให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางภูมิภาคนี้ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การศึกษาและสาธารณสุข ทั้งนี้การพัฒนาเชิงพื้นที่มุ่งเน้นการเข้าถึงและการเชื่อมโยงเป็นสำคัญ ซึ่งไทยมีภูมิศาสตร์ที่ดีแต่ต้องเสริมโครงสร้างพื้นฐาน เช่นถนน รถไฟ สนามบิน โครงข่ายอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงแต่ละภูมิภาค ซึ่งโครงการรถไฟทางคู่จะเป็นตัวเปลี่ยนเกมส์สำคัญทั้งการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร รวมถึงการเชื่อมโยงสู่ต่างประเทศ เช่น การพัฒนาท่าเรือระนองเป็นประตูสู่เอเชียใต้ ซึ่งมีหัวใจสำคัญที่ไทยต้องปรับตัว 2 บริบท คือ 1.การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีหรือดิสรัปชั่น 2.การเตรียมตัวรองรับการปฏิวัติอุตสาหกรรม

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/847742