‘ADB’ คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามปี 67 โต 6%

จากรายงานแนวโน้มการพัฒนาเอเชีย (ADO) ของธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนามในปี 2567 ขยายตัว 6% ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญของธนาคารฯ มองว่าจากอุปสงค์จากต่างประเทศที่อ่อนแอเกินกว่าที่คาดไว้ ยังคงเป็นอุปสรรคต่อภาคอุตสาหกรรมและบริการ ตลอดจนส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและการบริโภคในประเทศ นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายการเงินเชิงรุกและมีความรอบคอบ เพื่อที่จะควบคุมราคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้า อาหาร การดูแลสุขภาพ การศึกษา ล้วนมีผลทำให้เกิดเงินเฟ้อ ด้วยเหตุนี้ เงินเฟ้อของเวียดนามคาดว่าจะอยู่ที่ 3.8% ในปีนี้ ก่อนที่จะปรับตัวสูงขึ้น 4% ในปีหน้า

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/adb-projects-6-gdp-growth-for-vietnam-next-year-post1065201.vov

‘ตลาดรถยนต์เวียดนาม’ มีทิศทางทรงตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน

จากรายงานของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม (VAMA) เปิดเผยว่ายอดขายรถยนต์ในเดือน พ.ย. ยังคงแกว่งตัวในลักษณะ ‘Sideway’ โดยยอดขายรถยนต์ในเดือนดังกล่าว มีจำนวนอยู่ที่ 27,953 คัน ลดลง 23% เมื่อเทียบเป็นรายปี และจากรายงานระบุว่ายอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 22,451 คัน เพิ่มขึ้น 14% ตามมาด้วยรถยนต์เชิงพาณิชย์ 5,318 คัน ลดลง 5% และรถยนต์ใข้งานเฉพาะกิจ 184 คัน เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน นอกจากนี้ ยอดขายรถยนต์ที่ประกอบในประเทศ อยู่ที่ 18,092 คัน ในขณะที่ยอดขายรถยนต์สำเร็จรูปที่นำเข้าจากต่างประเทศ 9,861 คัน เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnamese-auto-market-goes-sideways-in-second-consecutive-month/274809.vnp

สหราชอาณาจักรและออสเตรเลีย ร่วมส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนของ สปป.ลาว

คณะผู้แทนสหราชอาณาจักรประจำอาเซียนและสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศลาว จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ำ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของ Lao Holding State Enterprise (LHSE) ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐที่ดำเนินธุรกิจหลักในการจัดหาเงินทุนให้กับอุตสาหกรรมพลังงานในการดำเนินโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ำที่สำคัญ นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งปันความรู้ ให้คำปรึกษาทางการเงิน และสนับสนุน สปป.ลาว ที่มุ่งหวังการมีเศรษฐกิจสีเขียว ทั้งนี้ ภายในงาน รัฐบาลลาวและผู้ถือหุ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำเทิน 2 ได้ลงนามข้อตกลงการพัฒนาโครงการสำหรับ น้ำเทิน 2-โซลาร์ โดยโครงการนี้กำหนดให้เป็นโครงการลงทุนพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในลาว โดยมีกำลังการผลิตสูงสุด 240 เมกะวัตต์ (MWp) ที่จะถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ผิว 3.2 ตารางกิโลเมตรของอ่างเก็บน้ำน้ำเทิน 2

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/12/13/uk-australia-boost-laos-green-energy-with-floating-solar-workshop/

ค้าชายแดนผ่านแดนหดตัว เหตุเศรษฐกิจลาวตกต่ำ-เมียนมาสู้รบ

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่าการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือนตุลาคม 2566 มีมูลค่า 139,695 ล้านบาท ลดลง 5.85% แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 70,042 ล้านบาท ลดลง 14.55% และการนำเข้ามูลค่า 69,653 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.90% โดยไทยได้ดุลการค้า มูลค่า 389 ล้านบาท หากแยกเป็นการค้าชายแดนกับ 4 ประเทศ มาเลเซีย สปป.ลาว กัมพูชา และเมียนมามีมูลค่า 74,778 ล้านบาท ลดลง 14.50% แยกเป็นการส่งออกมูลค่า 46,223 ล้านบาท ลดลง 15.43% และนำเข้ามูลค่า 28,555 ล้านบาท ลดลง 12.95% ได้ดุลการค้า 17,667 ล้านบาท ส่วนการค้าผ่านแดนไปประเทศที่ 3 จีน สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่นๆ มีมูลค่า 64,917 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 23,820 ล้านบาท ลดลง 12.80% และนำเข้ามูลค่า 41,098 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.34% ขาดดุลการค้า 17,278 ล้านบาท ทั้งนี้ การค้าชายแดนเดือนตุลาคม 2566 ที่หดตัว เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านยังมีความเปราะบาง ไม่ว่าจะเป็น สปป.ลาว ที่อัตราเงินเฟ้อสูงและค่าเงินกีบยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง สถานการณ์การสู้รบในเมียนมา ส่งผลต่อการส่งออกของไทยไปยังทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งมากกว่า 80% เป็นการค้าชายแดน โดยการส่งออกชายแดนไป สปป.ลาว และเมียนมา หดตัว 14.5% และ 9.9% ตามลำดับ ขณะที่การส่งออกผ่านแดนไปจีนขยายตัว 9% ขยายตัวเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน สินค้าที่ขยายตัวสูง เช่นทุเรียนสด เพิ่ม 162.8% ไม้แปรรูป เพิ่ม 131.7% และยาง T.S.N.R. เพิ่ม 48.7%

อย่างไรก็ดี การค้าชายแดนและผ่านแดนช่วง 10 เดือนของปี 2566 (มกราคม-ตุลาคม) มีมูลค่า 1,451,068 ล้านบาท ลดลง 2.62% แบ่งเป็นการส่งออก มูลค่า 825,248 ล้านบาท ลดลง 3.26% นำเข้า มูลค่า 625,820 ล้านบาท ลดลง 1.75% ได้ดุลการค้า มูลค่า 199,427 ล้านบาท หากแยกเป็นการค้าชายแดน มีมูลค่า 776,182 ล้านบาท ลดลง 12.49% แบ่งเป็นการส่งออก มูลค่า 485,443 ล้านบาท ลดลง 10.57% นำเข้า มูลค่า 290,739 ล้านบาท ลดลง 15.53% ได้ดุลการค้า มูลค่า 194,703 ล้านบาท และการค้าผ่านแดน มูลค่า 674,886 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.92% แบ่งเป็นการส่งออก มูลค่า 339,805 ล้านบาท เพิ่มขึ้น9.53% นำเข้า มูลค่า 335,081 ล้านบาท เพิ่มขึ้น14.44% ได้ดุลการค้า 4,724 ล้านบาท

ที่มา : (เว็บไซต์แนวหน้า) : https://www.naewna.com/business/774985

ธนาคารแห่ง สปป.ลาว ลงนามความร่วมมือขับเคลื่อนประเทศสู่อนาคตเศรษฐกิจสีเขียว

ธนาคารแห่ง สปป.ลาว (BOL) และบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (IFC) ลงนามข้อตกลงเพื่อส่งเสริมความร่วมมือพัฒนาธุรกิจการเงินสีเขียว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมอย่างเข้มข้นในการปฏิรูปที่สำคัญ รวมถึงการพัฒนาแนวปฏิบัติและมาตรฐาน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสูงสุด คือ การดึงดูดทุนสีเขียว ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ สร้างงาน และมีส่วนร่วมในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืน จากการที่ลาวต้องพึ่งพาทรัพยากรที่ไวต่อสภาพภูมิอากาศ เช่น น้ำ ป่าไม้ และเกษตรกรรม เศรษฐกิจของประเทศจึงได้รับผลกระทบอย่างมากจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สปป.ลาว ได้ตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 60% ภายในปี 2573 และลดคาร์บอนเป็นกลางภายในปี 2593 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านี้ ประเทศวางแผนที่จะลงทุนเกือบ4.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในการบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดังที่ระบุไว้ในการสนับสนุนที่กำหนดระดับชาติ (NDC)

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/12/13/landmark-partnership-propels-laos-towards-greener-future/