รมว.อุตสาหกรรมของไทยหารือร่วม JETRO และ JCC ถกแนวโน้มทางเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น
นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมหารือกับนายคุโรดะ จุน ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น และนายยามาชิตะ โนริอากิ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพ และคณะกรรมาธิการวิจัยทางเศรษฐกิจของหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ ในประเด็นเข้ารายงานสรุปผลการสำรวจแนวโน้มความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย พบว่า แนวโน้มดัชนีเศรษฐกิจ (ID) คาดการณ์อยู่ที่ -16.0 อันเนื่องมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก และอุปสงค์การส่งออกที่ลดลง แต่มีการปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 10 ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 เนื่องจากมีการขยายตัวเรื่องการท่องเที่ยว และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมได้ไปเยือนญี่ปุ่น มีโอกาสเข้าร่วมหารือกับกระทรวง METI เพื่อยกระดับภาคอุตสาหกรรม ใน 4 มิติ ได้แก่ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การกำจัดซากรถยนต์ และการศึกษาเพื่อพัฒนาเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์สมัยใหม่ เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันและเกิดโอกาสใหม่ ๆ ในการลงทุน
ที่มา: https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/9/iid/261166
‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ชี้ปี 67แรงกดดันเงินเฟ้อของเวียดนามอยู่ภายใต้การควบคุม
นาย Nguyen Duc Do รองผู้อํานวยการสถาบันเศรษฐกิจและการเงิน กล่าวว่าแรงกดดันเงินเฟ้อของเวียดนามไม่น่าจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องมาจากเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจีนที่มีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัว ถึงแม้ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะมีทิศทางที่ชะลอตัว และมีผลให้การส่งออกของเวียดนามในปีนี้ขยายตัวอย่างค่อนเป็นค่อยไป ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรม การก่อสร้างและเศรษฐกิจโดยรวมจะได้รับผลกระทบและคาดว่าจะขยายตัวในระดับต่ำในปีนี้ ตลอดจนตลาดอสังหาฯ ของเวียดนามที่ยังคงอยู่ในภาวะซบเซา
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญชี้ให้เห็นว่าเวียดนามควรจับตามองปัจจัยต่างๆ ของภาวะเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเบิกจ่ายโครงการลงทุนภาครัฐ และสินเชื่อที่เพิ่มสูงขึ้น
‘Brand Finance ‘ เผยมูลค่าแบรนด์ระดับชาติของเวียดนามโตเร็วที่สุดในโลก ปี 62-66
‘Brand Finance’ บริษัทให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และการประเมินมูลค่าแบรนด์จากสหราชอาณาจักร รายงานว่ามูลค่าของแบรนด์ระดับชาติของเวียดนามโตสูงขึ้น 102% ตั้งแต่ปี 2562-2566 นับว่าเป็นการเติบโตเร็วที่สุดในโลก และยังเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดด้านมูลค่าอันดับที่ 33 ของโลก เพิ่มขึ้น 1 อันดับจากปีที่แล้ว โดยแบรนด์โทรคมนาคมของเวียดนาม มีมูลค่า 13.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 31% ของมูลค่ารวมของแบรนด์เวียดนาม 100 อันดับแรก จำแนกออกเป็น 3 บริษัท ได้แก่ บริษัทเวียดเทล (Viettel), บริษัทวินาโฟน (Vinaphone) และบริษัทโมบิโฟน (MobiFone) ตามมาด้วยแบรนด์กลุ่มธนาคาร แบรนด์อาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เปิดเผยว่าแบรนด์ชั้นนำของเวียดนามมีความก้าวหน้าอย่างมาก สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของแบรนด์ระดับโลก
ไทย-สปป.ลาว เตรียมผลักดันด่านชายแดนถาวรแห่งใหม่ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการค้า
เมื่อเร็วๆ นี้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจากทั้งไทยและ สปป.ลาว ได้หารือเกี่ยวกับการปรับปรุงจุดตรวจเชื่อมระหว่างหมู่บ้านปักสะพาน เมืองละคอนเพ็ง แขวงสาละวัน สปป.ลาว กับบ้านปากแสง อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย จุดตรวจนี้เกิดขึ้นจากข้อจำกัดสำหรับสินค้าบางประเภทที่จำกัดการขายและการขนส่ง ณ จุดตรวจ คาดว่าการพัฒนาในครั้งนี้จะปูทางไปสู่การเปิดการค้าข้ามพรมแดนโดยสมบูรณ์ โดยมีกำหนดจะเริ่มการพัฒนาภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยประเมินมูลค่าการค้าบริเวณจุดตรวจนี้มีมูลค่าเกิน 2.8 พันล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 77.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และในอนาคตมีแผนที่จะสร้างสะพานมิตรภาพลาว-ไทยแห่งที่ 6 ที่จะย่นเส้นทางการค้าจากไทยไปยังเมืองดานัง ประเทศเวียดนามลงอย่างมาก โดยลดเหลือ 137 กิโลเมตร เพื่อส่งเสริมการค้าในระดับภูมิภาค และคาดว่าจะช่วยปรับปรุงการเคลื่อนย้ายสินค้า ผู้คน และบริการ ส่งเสริมการค้าระหว่างลาว ไทย และเวียดนามได้มากขึ้น
รัฐบาล สปป.ลาว ไฟเขียวโครงการพลังงานลม 1,200 เมกะวัตต์ ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน
รัฐบาล สปป.ลาว ได้ลงนามในข้อตกลงการพัฒนาโครงการพลังงานลม PDA กับบริษัท Savan Vayu Renewable Energy Co., Ltd. (SVARE) โดยเป็นโครงการพลังงานลมขนาด 1,200 เมกะวัตต์ ในพื้นที่เมืองเซปอน แขวงสะหวันนะเขต ถือเป็นการพัฒนาพลังงานลมที่ใหญ่ที่สุดของ สปป.ลาว ในปัจจุบัน ใช้เงินลงทุนประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ และมีส่วนสนับสนุนความมั่นคงด้านพลังงานของภูมิภาค โครงการนี้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จครั้งสำคัญของ สปป.ลาว ในการนำพาประเทศสู่การผลิตและใช้พลังงานสะอาดและการพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่เพียงแต่สนับสนุนความต้องการพลังงานภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างสถานะของลาวในฐานะผู้ส่งออกพลังงานไฟฟ้าที่น่าเชื่อถือได้ในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกไฟฟ้าไปยังเวียดนาม ซึ่งมีส่วนสนับสนุนความมั่นคงและความร่วมมือด้านพลังงานในภูมิภาค ทั้งนี้ คาดว่าโครงการพลังงานลมนี้จะเปิดดำเนินการได้ภายในต้นปี 2569 ซึ่งจะช่วยส่งเสริมกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนของลาวอย่างมีนัยสำคัญ และสนับสนุนเป้าหมายในการบรรลุเป้าหมายพลังงานหมุนเวียนภายในปี 2573
ที่มา: https://laotiantimes.com/2024/02/16/lao-government-green-lights-largest-wind-power-project-to-date/
สถานเอกอัครราชทูตไทยประกาศแผนดำเนินการวีซ่าใหม่ เริ่ม 21 กุมภาพันธ์นี้
สถานทูตไทยในย่างกุ้ง ประกาศเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ว่า มีการให้บริการผู้สมัครวีซ่ากว่า 400 รายต่อวัน โดยรูปแบบการให้บริการปัจจุบันจะดำเนินต่อไปจนถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ หลังจากนั้นจะมีการปรับให้บริการรูปแบบใหม่ สถานทูตได้ประกาศว่าจะดำเนินการให้กับผู้สมัครเพียง 400 คนต่อวัน โดยจัดให้มีระบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง (โทเค็น) เนื่องจากมีผู้มาสมัครวีซ่าอย่างท่วมท้น ทั้งนี้ในประกาศระบุว่าระบบจะเริ่มในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ และโทเค็นจะพร้อมใช้งานในวันที่ 16, 19, 20 และ 21 กุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม สถานทูตจะออกหมายเลขโทเค็นสำหรับผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าเริ่มตั้งแต่เวลา 08.30 น. ผู้รับผิดชอบจะออกโทเค็นหลังจากตรวจสอบหนังสือเดินทางของผู้สมัครอย่างละเอียดถี่ถ้วนและยืนยันความถูกต้องแล้วเท่านั้น โดยโทเค็นเหล่านั้นไม่สามารถโอนไปยังบุคคลอื่นได้ และหมายเลขโทเค็นแต่ละหมายเลขสามารถใช้ได้สำหรับหนึ่งคนเท่านั้น ซึ่งหากมีการปลอมแปลงหรือใช้หมายเลขโทเค็นในทางที่ผิดจะส่งผลให้คำร้องขอวีซ่าถูกปฏิเสธ และผู้สมัครจะถูกเพิกถอน นอกจากนี้ ตามการระบุของสถานทูตผู้ที่ถือหนังสือเดินทางพลเมืองเมียนมาจะได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศไทยได้ 14 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า
ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/thai-embassy-to-announce-new-visa-processing-scheme-starting-21-feb/