Starbucks ตั้งเป้าการส่งออกกาแฟในสปป.ลาว

Starbucks มีแผนจะเปิดสาขาในนครหลวงเวียงจันทน์ของสปป.ลาวภายในฤดูร้อนหน้าซึ่งจะดำเนินการโดย Coffee Concepts (Laos) Ltd. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Maxim’s Caterers Ltd. Starbuck บริษัทตั้งใจที่จะใช้เครื่องข่ายระดับโลกเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกและโอกาสในการทำงานในผู้ยากไร้ในสปป.ลาว Mr.Michael Wu ประธานและกรรมการผู้จัดการ Maxim’s Caterers Limited กล่าวว่า“ เรายินดีที่จะแนะนำแบรนด์ Starbucks ในสปป.ลาวซึ่งต่อยอดความสัมพันธ์ 20 ปีกับ Starbucks เพื่อขยายอุตสาหกรรมกาแฟไปทั่วเอเชีย” ปัจจุบันพฤติกรรมของชาวสปป.ลาวจำนวนมากดื่มเครื่องดื่มกาแฟผงที่มีนมและน้ำตาลเช่นเดียวกับในชาวเอเชียส่วนใหญ่และที่สำคัญสปป.ลาวมีแหล่งเพาะปลูกกาแฟคุณภาพซึ่งจะเป็นแหล่งวัตถุดิบที่สคัญให้แก่ Starbucks สาขาในสปป.ลาว  

ที่มา : https://finance.yahoo.com/news/starbucks-targets-market-coffee-exporting-021354059.html

สปป.ลาวจับมืออาเซียนหนุนแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยในการทำงาน

สปป.ลาวและประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนจะเสริมสร้างการประสานงานในการดำเนินการตามแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยในการทำงานและการจัดการความเสี่ยงด้านสุขภาพทั่วทั้งภูมิภาค สปป.ลาวยังแสดงความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนนโยบายและมาตรการด้านแรงงานเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในสถานที่ทำงานและอำนวยความสะดวกในการกลับไปทำงานอย่างปลอดภัยหลังการแพร่ระบาด และส่งเสริมความร่วมมือการเพิ่มความคล่องตัวและความยืดหยุ่นของพนักงานในการเตรียมความพร้อมสำหรับวิกฤตสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต และขีดความสามารถที่สูงขึ้นสำหรับอนาคตของการทำงาน ข้อมูลนี้ได้รับการถ่ายทอดโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมระหว่างการประชุม ALMM + 3 ครั้งที่ 11 ผู้เข้าร่วมได้ใช้ลำดับความสำคัญ 5 ปีของความร่วมมืออาเซียนบวกสามด้านแรงงานในช่วงปี 64-68 ที่ประชุมยังเห็นพ้องกับแผนงานของอาเซียนสำหรับการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุด แนวปฏิบัติของอาเซียนว่าด้วยเพศที่เป็นกระแสหลักในนโยบายแรงงานและการจ้างงาน ด้านความปลอดภัยและการบริหารความเสี่ยงอาชีวอนามัยสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และการส่งกลับและการกลับคืนสู่สภาพเดิมของแรงงานข้ามชาติและโครงการทำงานของรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนปี 64-68 การประชุมคณะทำงานเจ้าหน้าที่แรงงานอาวุโส ปรับปรุงแผนปฏิบัติการของฉันทามติอาเซียนด้านการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิแรงงานข้ามชาติ  และยังตกลงที่จะขยายการเข้าถึงของคนงานทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ตกงานหรือได้รับรายได้น้อยไปยังโครงการประกันสังคมและความช่วยเหลือทางสังคมเพื่อดำรงชีวิตอยู่

ที่มา :  http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_213.php

กฎหมายด้านการลงทุนฉบับใหม่ของกัมพูชาจ่อสรุปผลในเดือนพฤษจิกายนนี้

ร่างกฎหมายฉบับใหม่เกี่ยวกับการลงทุนของกัมพูชามีกำหนดสรุปภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ตามที่กระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง (MEF) ระบุ โดยร่างกฎหมายฉบับใหม่คำนึงถึงความเปิดกว้าง เอื้ออำนวย และดึงดูดการลงทุน ทั้งยังสร้างสภาพแวดล้อมในการแข่งขันโดยเฉพาะการคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ลงทุน รวมถึงความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งคาดว่ากฎหมายการลงทุนฉบับใหม่จะดึงดูดนักลงทุนได้มากขึ้นเนื่องจากกัมพูชาได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับจีนร่วมด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50778372/new-investment-law-to-be-finanlised-in-november/

กัมพูชาส่งออกข้าวมากกว่าครึ่งล้านตันในช่วง 10 เดือนแรกของปี

กัมพูชาได้ส่งออกข้าวสารถึง 536,305 ตัน ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ รายงานโดยกระทรวงเกษตรคิดเป็นข้าวหอมปริมาณสูงถึง 421,132 ตัน ข้าวผสม 109,012 ตันและข้าวนึ่ง 6,138 ตัน ซึ่งการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นถึง 78,365 ตัน ในปีนี้เทียบเท่ากับการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 17.11 เมื่อเทียบกับ 457,940 ตัน ในช่วง 10 เดือนแรกของปี ก่อน ในขณะที่การส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นแต่กัมพูชายังคงไม่บรรลุเป้าหมายระยะยาวในการส่งออกข้าวที่ตั้งไว้ที่ 1 ล้านตันต่อปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50778510/more-than-half-a-million-tonnes-of-milled-rice-exported-in-first-10-months/

แอป WavePay มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 ล้านคน

WavePay แอปชำระเงินบนมือถือของ Wave Money มีผู้ใช้งานมากกว่า 1.1 ล้านรายต่อเดือนโดยมีมูลค่าการโอนเงินสูงถึงเกือบ 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายใน 9 เดือนแรกของปี 63 ซึ่งคิดเป็นการเติบโตโดยเฉลี่ย 162% ตั้งแต่เดือนมกราคม 63 ซึ่งรวมถึงเงินกว่า 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่โอนไปยังผู้ได้รับผลกระทบในชนบทจากกองทุน COVID-19 ของรัฐบาล ตั้งแต่เดือนมีนาคมผู้ที่ได้รับผลกระทบหลายแสนคนรวมถึงคนงานตัดเย็บเสื้อผ้า ข้าราชการ และเกษตรกรได้รับเงินฉุกเฉินในรูปแบบดิจิทัลโดยใช้ WavePay ซีอีโอของ Wave Money กล่าวว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวบ่งชี้เชิงบวกของกาใช้เงินผ่านมือถือและรูปแบบการชำระเงินดิจิทัลมาใช้ในเมียนมาอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ Wave Money ยังจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับตัวแทนจำนวน 46 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายน 63 รายงานปี 2562 สมาคมจีเอสเอ็ม (GSMA) ระบุว่าลูกค้าใช้บัญชีเงินมือถือบ่อยขึ้นและเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมประจำวัน เมื่อสิ้นปีที่แล้ว 35.8% ของบัญชี 372 ล้านบัญชีมีการใช้งาน 90 วัน บัญชีเงินมือถือที่ใช้งานได้ถูกกำหนดให้เป็นบัญชีที่ใช้ในการทำธุรกรรมอย่างน้อยหนึ่งรายการในช่วงเวลา 30 วันหรือ 90 วัน GSMA คาดการณ์ว่าภายในปี 2568 จำนวนบัญชีลูกค้าเงินมือถือต่อเดือนจะเกิน 370 ล้านบัญชี

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/wavepay-app-reaches-more-1-million-active-users.html

ธปท.คุยเศรษฐกิจไทยดี เปิดเมือง-มีวันหยุดยาว-รัฐกระตุ้นใช้จ่าย

นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน ก.ย. ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาเกือบปกติในหลายภาคส่วน และจากปัจจัยชั่วคราวคือวันหยุดยาวพิเศษประกอบกับการใช้จ่ายภาครัฐยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ขณะที่ไตรมาส 3/63 เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ตามการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินการได้มากขึ้น โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนกลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากหดตัวสูงในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนหนึ่งจากการประกาศวันหยุดยาวพิเศษเพื่อชดเชยช่วงสงกรานต์ที่เลื่อนมา ด้านปัจจัยด้านรายได้และความเชื่อมั่นผู้บริโภคทยอยปรับดีขึ้น สำหรับปัจจัยที่ยังต้องติดตามในระยะต่อไป คือ การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในต่างประเทศ การฟื้นตัวของตลาดแรงงาน แม้จะปรับตัวดีขึ้น แต่ยังคงมีความเปราะบาง ความยั่งยืนของการฟื้นตัวภาคยานยนต์ โดยมองว่า การฟื้นตัวอย่างช้าๆของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า จะเป็นปัจจัยกดดันภาคยานยนต์ในระยะต่อไป และความไม่แน่นอนทางการเมือง อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นภาคเอกชนและอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า “แนวโน้มในไตรมาส 3 มองว่าจะปรับดีขึ้นและติดลบน้อยลงกว่าไตรมาส 2 อย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้จะต้องรอติดตามในรายละเอียดอีกครั้ง และในไตรมาส 4 มองว่าจะทยอยฟื้นตัวได้” นางสาวชญาวดีกล่าว.

ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/business/1965659