รายได้จากการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลกัมพูชายังคงแข็งแกร่ง

การจัดเก็บภาษีของรัฐบาลยังคงแข็งแกร่งแม้ในช่วงของการระบาดของ โควิด-19 ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 2.25 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ตามรายงานของ General Department of Taxation (GDT) โดยรายงานแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.71 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และถือเป็นร้อยละ 78.10 ของเป้าหมายในการจัดเก็บภาษีประจำปี อย่างไรก็ตาม GDT เก็บเงินได้เพียง 162.22 ล้านดอลลาร์ ในเดือนกันยายนลดลงร้อยละ 18.75 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่รัฐบาลได้เสนอให้มีการยกเว้นภาษีสำหรับธุรกิจท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และอุตสาหกรรมการบิน เนื่องจากภาคส่วนต่างๆได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโควิด-19 โดย GDT ยังคงกระตุ้นให้มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบ e-VAT และจัดให้มีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ภาษีเพื่อให้พร้อมสำหรับการดำเนินการด้านภาษีโดยเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50772989/tax-collection-strong/

สนามบินนานาชาติสีหนุของกัมพูชาอัพเกรดรันเวย์ใหม่

สนามบินนานาชาติสีหนุพัฒนารันเวย์ขยายจาก 2,500 เมตร เป็น 3,300 เมตร เพื่อทำการรองรับเที่ยวบินในอนาคต ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ เช่น B-777-300ER หรือ A-350-1000 ที่ให้บริการเที่ยวบินตรงระยะไกลไปและกลับจากสนามบินนานาชาติสีหนุ โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาสีหนุวิลล์ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวและเป็นที่ตั้งของท่าเรือน้ำลึกที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ซึ่งในระหว่างปี 2015-2019 สีหนุได้ให้กี่ต้อนรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 94,000 คน สู่ 1.6 ล้านคน ซึ่งการเดินทางผ่านสนามบินพนมเปญ เสียมราฐ และสีหนุวิลล์ลดลงถึงร้อยละ 75 ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาจากผลกระทบของโควิด-19 แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้ประกาศมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับบางภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบเพื่อเป็นการรับมือกับการแพร่ระบาดของ โควิด-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50772830/sihanouk-airport-upgrades-runway-flights-due-to-begin-from-the-58-million-investment-before-the-end-of-the-year/

IMF ฟันธง “เศรษฐกิจไทย” รอดตำแหน่งบ๊วยอาเซียน

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2563 จะติดลบ 7.1% ในปีนี้ ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ว่าจะติดลบ 7.7% ขณะที่เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์จะติดลบ 8.3% ในปีนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขคาดการณ์ต่ำที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ส่วนปี 2564 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 4.0% ส่วนเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศอาเซียน-5 ซึ่งประกอบด้วยไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม คาดเศรษฐกิจอินโดนีเซียจะหดตัว 1.5% ในปีนี้ และขยายตัว 6.1% ในปีหน้า, มาเลเซียจะหดตัว 6.0% ในปีนี้ และขยายตัว 7.8% ในปีหน้า, ฟิลิปปินส์จะหดตัว 8.3% ในปีนี้ และขยายตัว 7.4% ในปีหน้า ส่วนเวียดนามเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มีการขยายตัวในปีนี้ โดยอยู่ที่ระดับ 1.6% ขณะที่ปีหน้าขยายตัว 6.7% IMF ยังคาดการณ์ว่าไทยมีอัตราการว่างงานต่ำที่สุดในอาเซียน โดยทรงตัวที่ระดับ 1.0% ในปีนี้ และปีหน้า เช่นเดียวกับในปี 2562

ที่มา : https://www.thansettakij.com/content/money_market/452697

สปป.ลาวและจีนเร่งส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค

จีนได้เปิดทางด่วนอีกเส้นที่เชื่อมทางตอนใต้ของประเทศกับชายแดนสปป.ลาวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างความเชื่อมโยงในภูมิภาคและส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีน – อาเซียน ทางด่วนเวียงจันทน์ – บอเต็นที่กำลังก่อสร้างอยู่ จะลดเวลาในการเดินทางระหว่างสองประเทศ เชื่อกันว่าจะช่วยปรับปรุงเครือข่ายถนนในภูมิภาคส่งเสริมการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวไม่เพียงแต่ระหว่างสปป.ลาวและจีนเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาค ทางด่วน Xiaomengyang-Mohan สร้างขึ้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของทางหลวงคุนหมิง – กรุงเทพฯผ่านสปป.ลาว ทางด่วนสายที่ 2 มณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนไปยังชายแดนสปป.ลาวก็เปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้ เวียงจันทน์ – วังเวียงเป็นด่านแรกของทางด่วนเวียงจันทน์ – บอเต็นและมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมปีนี้ เมื่อสร้างเสร็จจะลดเวลาเดินทางระหว่างเวียงจันทน์และวังเวียงเหลือเพียง 1.5 ชั่วโมง ส่วนที่วางแผนไว้อีกสามส่วนล ได้แก่ วังเวียง – หลวงพระบาง หลวงพระบาง – อุดมไซและอุดมไซ – โบเต็น ยังขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากรัฐบาลสปป. ขณะนี้ทางรถไฟสปป.ลาว – ​​จีนสร้างเสร็จแล้วมากกว่า 90% คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการรถไฟประมาณ 14 ล้านคนต่อปี จีนมีความตั้งใจที่จะให้ทางรถไฟเชื่อมต่อเมืองหลวงของอาเซียนโดยที่คุนหมิงทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค รัฐบาลสปป.ลาวถือว่าทางรถไฟและทางด่วนเป็นหัวใจสำคัญในการเปลี่ยนประเทศจากการไม่มีทางออกสู่ทะเลเป็นการเชื่อมต่อทางบกภายในภูมิภาคลดต้นทุนการขนส่งและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2020/10/13/laos-and-china-keen-to-boost-regional-connectivity