รัฐบาลสปป.ลาวดันธุรกิจกระตุ้นการผลิตให้ตลาดจีน

รัฐบาลเตรียมจัดการเจรจากับผู้ประกอบการธุรกิจเพื่อกระตุ้นให้พวกเขาผลิตสินค้าที่ผู้ซื้อชาวจีนต้องการมากขึ้น แผนของรัฐบาลในการส่งเสริมการผลิตเชิงพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องกับการรถไฟลาว-จีน ซึ่งมีกำหนดจะเปิดให้บริการในเดือนหน้า เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รัฐบาลจะจัดการเจรจากับหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจลงทุนและผลิตสินค้า 9 ประเภทได้แก่ โค ข้าว กล้วย มันสำปะหลัง ชา แตงโม ถั่ว และน้ำยางพารา ซึ่งรัฐบาลจีนได้ให้โควตาการส่งออกแก่ลาว การดำเนินการนี้จะช่วยลดข้อกำหนดขั้นตอนการส่งออก

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_to219.php

ปีงบฯ 63-64 เงินลงทุนจากต่างประเทศไหลสู่เมียนมาเพียง 3.791 พันล้านดอลลาร์

จากข้อมูลของคณะกรรมการด้านการลงทุนและจดทะเบียนธุรกิจ (DICA) พบว่า ตั้งแต่เดือนต.ค.63 ถึงเดือนก.ย.64 ของปีงบประมาณ 2563-2564 มีการลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่เมียนมาเพียง 3.791 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยลงทุนในภาคเกษตรกรรม 9.988 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภาคปศุสัตว์และการประมง 19.698 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภาคการผลิต 286.023 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภาคพลังงาน 3,121.323 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภาคการขนส่งและการสื่อสาร 133.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภาคการโรงแรมและการท่องเที่ยว 81 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภาคอสังหาริมทรัพย์  8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภาคนิคมอุตสาหกรรม 28.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และภาคอื่นๆ  103.656 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งในปีงบประมาณ 2562-2563 มีโครงการลงทุนทั้งหมด 245 รายการ เม็ดลงทุนรวม 4.235 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และได้อนุมัติการลงทุนเพิ่มอีก 1.291 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 110 โครงการที่ดำเนินการอยู่ รวมทั้งสิ้น 5.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งตามแผนส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศของเมียนมาตั้งเป้าไว้สูงถึง 8.5 พันล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2564-2565 แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงต้องมีการทบทวนใหม่ ทั้งนี้เมียนมากำลังเร่งดำเนินการตามแผนส่งเสริมการลงทุน 20 ปี โดยมุ่งเป้าเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางให้ได้ภายในปี 2573

ที่มา: https://news-eleven.com/article/217365

กัมพูชารายงานถึงการฉีดวัคซีนโดสแรกในประเทศแล้วกว่า 13.9 ล้านคน

กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงกลาโหมรายงาน ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน ถึงปริมาณการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนโดสแรกแล้วกว่า 13,963,921 คน ทั่วประเทศ โดยตั้งเป้ากระจายวัคซีนให้ได้จำนวน 14.5 ล้านคน โดยเร็วที่สุด ซึ่งจำนวนผู้ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส แบ่งออกเป็น ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 10,035,265 คน, อายุ 12-18 ปีจำนวน 1,795,757 คน, เยาวชน อายุ 6-12 ปี จำนวน 1,952,768 คน และ เด็กอายุ 5 ปี จำนวน 180,131 คน ซึ่งในปัจจุบันเยาวชนอายุ 6-12 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนครบร้อยละ 100 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เข็มแรก) โดยกัมพูชาได้ทำการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนครบ 2 โดสแล้วกว่าร้อยละ 82 ของจำนวนประชากรในประเทศทั้งหมดราว 16 ล้านคน ตามข้อมูลของ ourworldindata.org

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50966706/a-total-of-13963921-people-have-received-the-first-dose-of-covid-19-vaccines-since-the-first-dose-was-administered-on-february-10/

การท่องเที่ยวภายในประเทศกัมพูชาเริ่มเห็นการฟื้นตัว

สถานการณ์การท่องเที่ยวภายในประเทศกัมพูชาเริ่มเห็นการฟื้นตัว โดยปริมาณนักท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคิดเป็นจำนวนรวม 174,543 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาจำนวน 169,532 คน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 5,011 คน ในช่วงวันที่ 6-7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทางด้าน รมว.ท่องเที่ยว ระบุถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของกัมพูชาในช่วงดังกล่าวที่ได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว ได้แก่ จังหวัดพระสีหนุจำนวน 37,641 คน, พนมเปญ 35,210 คน, จังหวัดกำปอต 16,501 คน, จังหวัดเสียมราฐ 15,100 คน, และจังหวัดโพธิสัตว์ 10,447 คน เป็นสำคัญ หลังรีสอร์ทที่พักและสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศได้กลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวใหม่อีกครั้ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50966669/weekend-domestic-tourism-still-active-in-cambodia-but-far-cry-from-when-it-was-open-for-foreign-tourism/

‘สแตนชาร์ต’ มองเวียดนามเป็นจุดหมายที่มีศักยภาพเติบโตสูงสุดในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่

นาย Jose Vinals ประธานธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าเวียดนามถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางทางด้านเศรษฐกิจที่มีความสำคัญในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ เนื่องจากมีศักยภาพในการพัฒนาและชูนโยบายเปิดประเทศ (open-door policy) ขณะที่ นาย เหงวียน ฮ่ง เญียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กล่าวว่าเวียดนามได้ก่อตั้งสถาบัน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งเศรษฐกิจในประเทศและยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของผู้ประกอบการเวียดนาม ตลอดจนช่วยธุรกิจในการใช้ประโยชน์ของการทำข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ กระทรวงฯ จะเดินหน้าเร่งกับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในทุกด้านการผลิตและการค้า ในขณะเดียวกันก็ดำเนินการตามรูปแบบการส่งเสริมอย่างยั่งยืน การวางนโยบายอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนอุตสาหกรรม 4.0

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/standard-chartered-vietnam-a-priority-destination-among-emerging-economies-903554.vov

 

‘เวียดนาม’ เผยกิจการ 96% ในเขตอุตสาหกรรมโฮจมินห์ กลับมาดำเนินกิจการอีกครั้ง หลังผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม

การนิคมอุตสาหกรรมและการแปรรูปเพื่อการส่งออกนครโฮจิมินห์ (HEPZA) รายงานว่ากิจการราว 96% ใน 17 เขตอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปเมืองโฮจิมินห์ กลับมาดำเนินกิจการอีกครั้ง หลังจากยกเลิกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมไปแล้ว 1 เดือน โดยคนงานมากกว่า 230,500 คน หรือ 80% ของคนงานรวมทั้งหมด ได้กลับมาทำงาน ทั้งนี้ Hua Quoc Hung ผู้อำนวยการของหน่วยงานบริหารจัดการเขตเศรษฐกิจพิเศษ กล่าวว่ากิจการเตรียมประกาศรับสมัครแรงงานมากขึ้น เนื่องจากโรงงานเร่งจัดการยอดคำสั่งซื้อที่มาจากในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะช่วยสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ แรงงานที่อยู่ในเขตอุตสาหกรรมดังกล่าวได้รับการเข้าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สูงถึง 94.4% ชี้ให้เห็นว่าแรงงานมีความพร้อมในการดำเนินงานแบบวิถีชีวิตใหม่

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/nearly-96-percent-of-firms-in-hcm-citys-ips-resume-operations-after-social-distancing/214060.vnp

 

เที่ยวไทยฟื้นตัวปีหน้า หาก‘โควิด’ไม่ระบาดหนักซ้ำ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดปี 2565 ตลาดไทยเที่ยวไทยจะกลับเข้าสู่เส้นทางการฟื้นตัว” โดยระบุว่า หลังจากที่ทางการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโควิดและการเดินทางข้ามจังหวัด การฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมประชากรมากขึ้น รวมถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ทำให้คนไทยเริ่มออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น กว่า 73.7% ของกลุ่มตัวอย่างคนกรุงเทพฯ ต้องการเดินทางท่องเที่ยวมากถึงมากที่สุด ทำให้ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2564 โดยเบื้องต้น คาดว่า หากไม่มีการระบาดหนักอีก ตลาดไทยเที่ยวไทยในปี 2565 น่าจะมีจำนวนประมาณ 109-155 ล้านคน/ครั้ง ฟื้นตัวจากปี 2564 ที่ราว 66.71 ล้านคน/ครั้ง

ที่มา: https://www.naewna.com/business/614385