การก่อสร้างสถานีรถไฟจีน-สปป.ลาวยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

การเทคอนกรีตขั้นสุดท้ายของโครงสร้างหลักของสถานี Boten ซึ่งทำสัญญาโดย China Railway Construction Engineering Group แล้วเสร็จเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาแล้วขั้นตอนต่อมาจะเข้าไปสู่การติดตั้งโครงข่ายเหล็กการติดตั้งและตกแต่งระบบเครื่องกลไฟฟ้าซึ่งคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2564สถานี Boten ตั้งอยู่แขวงโบเตนในสปป.ลาวเป็นสถานีแรกในโครงการรถไฟความเร็วปานกลางจีน – สปป.ลาว โครงการรถไฟฟ้าจะนำความก้าวหน้ามาให้แก่สปป.ลาวจะทำให้สปป.ลาวเป็นประเทศที่เชื่อมต่อกับตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างจีนรวมถึงการท่องเที่ยวที่โครงการจะเป็นส่วนสนับสนุนในการเดินทางที่สะดวกขึ้นอีกด้วย

ที่มา : http://www.ecns.cn/news/economy/2020-12-24/detail-ihaexsqc6150811.shtml

โควิด-19 ดันยอดสินเชื่อบ้านพุ่งสูงขึ้น

สมาคมบริการอสังหาริมทรัพย์แห่งเมียนมาเผย ยอดสินเชื่อของธนาคารจาการ ขายอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น สินเชื่อบ้านยังคงได้รับความนิยมอย่างมากในปีนี้แม้ว่ายอดอสังหาริมทรัพย์ที่ขายในตลาดจะลดลงก็ตาม ผลจากราคาลดลงและอัตราดอกเบี้ยลดลง สินเชื่อบ้านจึงกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตลาดอสังหาฯ ส่วนใหญ่ในเขตเมืองนอกย่างกุ้งโดยพาะอพาร์ตเมนต์ที่มีราคาต่ำกว่า 50 ล้านจัต จากผลกระทบของ COVID-19 ยอดขายในครึ่งปีหลังลดลงอย่างมาก แต่หลังจากการล็อกดาวน์ COVID-19 ระรอก 2 การขายและการตลาดออนไลน์ได้เข้ามามีส่วนสำคัญเนื่องจากตัวแทนผู้ซื้อและผู้ขายแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะพบกัน พบว่าผู้ซื้อมากกว่า 90% ค้นหาที่อยู่อาศัยหรืออสังหาฯ ทางออนไลน์ของบริษัทต่างๆ จึงจำเป็นต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือ ทั้งนี้นายหน้าต้องปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อสนร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคยุคใหม่อีกด้วย

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/home-loans-rise-during-covid-19-period.html

แบงก์เวียดนามเตรียมทำกำไรต่อเนื่องในปีหน้า

คุณ Le Dat Chi รองหัวหน้าสาขาวิชาการเงิน มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์โฮจิมินห์ซิตี้ กล่าวว่าถึงแม้ธนาคารกลางเวียดนามสั่งผู้ให้กู้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยและขยายระยะเวลาเงินกู้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 จำนวนธุรกิจส่วนใหญ่ได้รับสิทธิดังกล่าว ดังนั้น รายได้และกำไรของธนาคารยังคงไม่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายการขยายตัวของ GDP ที่ร้อยละ 6 ในปีหน้า และมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายด้านสาธารณะสำหรับเมืองสำคัญ ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารมีโอกาสที่จะปล่อยกู้มากขึ้น ทั้งนี้ ตามรายงานของ VNDirect นายหน้าหลักทรัพย์โฮจิมินห์ซิตี้ เผยว่าเมื่อเศรษฐกิจเวียดนามฟื้นตัว ความต้องการเงินกู้ก็จะเพิ่มขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้และจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า ขณะที่ การเติบโตของสินเชื่อในปีนี้ อยู่ที่ราวร้อยละ 9 และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 13-14 ในปีหน้า

  ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/economy/vietnam-banks-to-continue-making-profits-next-year-experts-4210813.html

เวียดนามตั้งเป้าส่งออกอาหารทะเลปี 64 อยู่ที่ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ พุ่ง 6%YoY

ถึงแม้จะเกิดการระบาดของเชื้อไวรัส แต่กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม ได้ตั้งเป้าการส่งออกในปี 2564 ที่ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่ สมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเล กล่าวว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ การส่งออกอาหารทะเลลดลง เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตามสถานการณ์เริ่มปรับตัวดีขึ้นจากเดือนกรกฎาคมและมีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักตั้งแต่เดือนกันยายน เป็นผลมาจากการส่งออกกุ้งที่ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องและสัญญาเชิงบวกจากผลิตภัณฑ์อาหารทะเลตั้งแต่เดือนสิงหาคม

ที่มา : https://e.nhipcaudautu.vn/economy/vietnam-targets-2021-seafood-exports-to-reach-9-bln-up-6-yoy-3338706/

ถนนเชื่อมระหว่างกัมพูชาและไทยใกล้แล้วเสร็จตามกำหนดการ

ถนนเชื่อมระหว่างจังหวัดตราดของประเทศไทยกับอำเภอเวลแวงของกัมพูชาในจังหวัดโพธิสัตว์แล้วเสร็จกว่าร้อยละ 90 และคาดว่าจะพร้อมใช้งานในเร็วๆนี้ โดยรัฐบาลไทยใช้เงินเกือบ 2 ล้านดอลลาร์ในการสร้างถนนเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศเพื่อสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นถนนขนาด 4 เลน กว้าง 14 เมตร ยาว 1.9 กิโลเมตร อยู่ระหว่างด่านพรมแดนในจังหวัดตราดของประเทศไทยและถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 55 โดยการก่อสร้างเกิดจากความเห็นชอบของรัฐสภาไทยตามคำร้องขอจากผู้ว่าราชการจังหวัดตราดเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2019 โดยเส้นทางการค้านี้จะกลายเป็นช่องทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่เชื่อมโยงการค้าและธุรกิจของประเทศต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถนนแห่งชาติสาย 55 ของกัมพูชาเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเชื่อมต่อกับ National Road 5 กับจังหวัดตราด ที่มีความยาว 182 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างชายแดน กัมพูชา-ไทย มูลค่าการก่อสร้างรวม 132.8 ล้านดอลลาร์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนร่วมกับกองทุนเงินทดแทนของรัฐบาลกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50796224/thailand-cambodia-road-link-almost-complete/

กัมพูชาคาดการณ์ GDP ต่อหัวสำหรับปี 2021

กัมพูชาคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศต่อหัวของประเทศไว้ที่ 1,771 ดอลลาร์ ในปี 2021 เพิ่มขึ้นจาก 1,600 ดอลลาร์ ในปี 2020 ประกาศโดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง โดยการเติบโตดังกล่าวเกิดจากความพยายามต่างๆของรัฐบาล รวมถึงการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตลอดจนอุตสาหกรรมหลักของประเทศมีการพัฒนา ซึ่งรัฐบาลได้จ่ายงบประมาณแผ่นดินไปแล้วกว่า 200 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับหนุนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต COVID-19 และจะจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบภายในประเทศหากวิกฤตยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าการส่งออกด้านการผลิตโดยรวมจะได้รับผลกระทบจากโรคระบาด แต่การส่งออกจักรยาน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนยานยนต์ รวมถึงอุปกรณ์เสริมก็มีปริมาณที่เพิ่มขึ้น โดยเศรษฐกิจของกัมพูชาคาดว่าจะหดตัวลงร้อยละ 2 ในปี 2020 แต่จะกลับมาเติบโตอีกร้อยละ 4 ในปี 2021 ตามการคาดการณ์ล่าสุดของธนาคารโลก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50796394/cambodia-anticipates-1771-per-capita-gdp-for-2021/

DITP รุกตลาดเอเชีย จัดเจรจาการค้าออนไลน์ เร่งส่งออกสินค้าไทยเข้าห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำกว่า 600 สาขา

ภายใต้แนวคิด “ Taste of Thailand” หลังเห็นลู่ทางสดใส จัดเจรจาธุรกิจออนไลน์ 5 วัน คาดการณ์มูลค่าการสั่งซื้อกว่า 200 ล้านบาท รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ให้เร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” ซึ่งมอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) หรือทูตพาณิชย์ ทำหน้าที่เป็นพนักงานขายหรือเซลส์แมนประเทศ เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าไทย ซึ่งกรมฯ เล็งเห็นถึงโอกาสของสินค้าอุปโภคบริโภคของไทยภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงจัดกิจกรรม “Taste of Thailand”  โดยมีกิจกรรมสำคัญ 2 กิจกรรม คือ การเจรจาการค้าออนไลน์ (Online Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการไทยและผู้ซื้อ/ผู้นำเข้าที่มีอำนาจในการสั่งซื้อของห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ในประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย จีน และมาเลเซีย เพื่อจัดซื้อ (Sourcing) สินค้าไทยเพิ่มเติม

ที่มา : https://www.posttoday.com/pr/641009