กัมพูชาสำรวจความเป็นอยู่ของแรงงานภาคอุตสาหกรรมผลิตเครื่องนุ่งห่ม

กระทรวงแรงงานและการฝึกอบรมอาชีพ (MLVT) กำลังทำการสำรวจเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ของแรงงานต่อผลกระทบของ COVID-19 จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม ตามประกาศของ MLVT โดยได้แจ้งเจ้าของหรือผู้อำนวยการของสถานประกอบการ / สถานประกอบการและคนงานในอุตสาหกรรมสิ่งทอเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะทำการสุ่มตัวอย่างข้อมูลพนักงานในเขตจังหวัดพนมเปญ โดยมีจุดประสงค์ของการสำรวจเพื่อจัดสรรมาตรการของรัฐบาลในการช่วยเหลือผู้ถูกเลิกจ้างที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ต่อไป ซึ่งจากข้อมูลในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา อ้างอิงจากตัวเลขของ MLVT พบว่ามีโรงงานมากกว่า 410 แห่งที่ถูกระงับส่งผลกระทบต่อคนงานแล้วกว่า 240,000 คน เนื่องจากผู้ซื้อจากต่างประเทศยังไม่ได้วางคำสั่งซื้อใหม่และสถานการณ์ในปัจจุบันยังไม่ดีสำหรับภาคการตัดเย็บเสื้อผ้า รวมถึงการที่กัมพูชาเสียสิทธิพิเศษทางการค้า (EBA) จากสหภาพยุโรปร่วมด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50746694/survey-on-garment-workers-lives/

EXIM BANK ปล่อยกู้ลงทุนโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาว

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และนายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) (บีซีพีจี) ร่วมลงนามกับ ดร.จื้อกัง หลี่ ประธานกรรมการ ธนาคาร ไอซีบีซี (ไทย) ในสัญญาสนับสนุนทางการเงินจำนวน 172 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว นอกจากนี้ยังร่วมลงนามกับนายมานาบุ อิโนอุเอะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคาร ซูมิโตโม มิตซุย ทรัสต์ (ไทย) (SMTBT) ในสัญญาสนับสนุนทางการเงินจำนวน 6,465.07 ล้านเยน (ประมาณ 1,900 ล้านบาท) ให้แก่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ชิบะ 1 (Chiba 1) ในประเทศญี่ปุ่น ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 ซึ่งความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK กับ บีซีพีจี ซึ่งเป็นผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพเข้าไปลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานทดแทนเพื่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศเพื่อนบ้านอย่างยั่งยืน โดยมี ไอซีบีซี (ไทย) และ ไอซีบีซี เวียงจันทน์ ร่วมให้การสนับสนุนทางการเงินจำนวน 172 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แก่บริษัท บีซีพีจี อินโดไชน่า จำกัด สำหรับลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3A และ Nam San 3B ใน สปป. ลาว กำลังการผลิตรวม 114 เมกะวัตต์ โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือภายใต้บันทึกข้อตกลงระหว่างรัฐบาลของเวียดนาม และ สปป.ลาว ในการก่อสร้างสายส่งเชื่อมต่อชายแดนของทั้งสองประเทศ เพื่อขายไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ไปยังประเทศเวียดนาม

ที่มา : https://www.posttoday.com/finance-stock/news/628866

เวียดนามปิดเส้นทางการบินของสายการบินใหม่ในปัจจุบัน

จากรายงานของหน่วยงานภาครัฐ เผยว่านาย Trinh Dinh Dung รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามเห็นด้วยกับข้อปฏิบัติในการระงับเที่ยวบินชั่วคราวตามที่กระทรวงคมนาคมยื่นข้อเสนอไปในช่วงกลางเดือนพ.ค. ซึ่งเหตุผลของข้อเสนอดังกล่าว เพื่อหาทางออกของบริษัทการบินในประเทศที่เผชิญกับการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี สำหรับการฟื้นตัวของตลาดการบินภายในปี 2562 อีกทั้ง ทางกระทรวงฯ คาดว่าอุตสาหกรรมการบินของเวียดนามจะรองรับจำนวนผู้โดยสาร 42.7 ล้านคนในปีนี้ ลดลงร้อยละ 46 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ในขณะที่ ผู้ให้บริการสายการบินคาดว่าจะรองรับจำนวนผู้โดยสาร 32.6 ล้านคน ลดลงร้อยละ 40 นอกจากนี้ เมื่อปีที่แล้ว สนามบินเวียดนามรองรับจำนวนผู้โดยสารประมาณ 116 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์กับสายการบินเวียดเจ็ทแอร์ เป็นผู้ครองตลาดการบินเวียดนามรายใหญ่ที่สุด

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnam-closes-skies-to-new-airlines-for-now-416334.vov

จัดเที่ยวบินเช่าเหมาลำสำหรับนักธุรกิจชาวเกาหลีใต้เดินทางไปยังเวียดนาม

จากรายงานของสำนักข่าว Yonhap News Agency เปิดเผยว่าสาธารณรัฐเกาหลีหรือเกาหลีใต้ (Republic of Korea : ROK) มีแผนที่จะส่งนักธุรกิจจำนวนมากไปยังเวียดนามและจีนผ่านเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ซึ่งแผนการดังกล่าวมาจากกระทรวงการค้า อุตสาหกรรมและพลังงานที่จะนำนักธุรกิจจำนวน 240 คน จากบริษัท 240 แห่ง เดินทางไปยังเวียดนามผ่านเที่ยวบินเช่าเหมาลำภายในวันที่ 22 ก.ค. หลังจากการจราจรทางอากาศทั่วโลกระงับเป็นเวลานาน ยิ่งกว่านั้น เกาหลีใต้ยังมีแผนที่จะส่งคนงานจำนวน 1,500 ไปยังเวียดนามในเดือนสิ.ค. ทั้งนี้ หลังจากที่นักธุรกิจเดินทางถึงจุดมุ่งหมายแล้ว ต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ก่อนจะได้รับอนุญาตเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางสุดท้าย ขณะที่ เกาหลีใต้ยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับพาร์ทเนอร์รายใหญ่ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางการค้า ท่ามกลางการระบาดของเชื้อไวรัส

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/chartered-flights-to-bring-businessmen-into-vietnam-from-rok-416340.vov

รัฐบาลเมียนอนุญาติให้เปิด ชายหาดอิรวดีและโรงแรมอีกครั้ง

รัฐบาลอนุญาตให้ชายหาดโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวอื่น ๆ ในภูมิภาคอิรวดีซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูธุรกิจในพื้นที่ โดยธุรกิจจะต้องผ่านการตรวจสอบโดยหน่วยงานท้องถิ่นและต้องปฏิบัติตามแนวทางการป้องกัน COVID-19 ของกระทรวงสาธารณสุขและการกีฬา ในบรรดาชายหาดที่มีชื่อเสียงที่เปิดให้บริการอีกครั้งได้ คือ Chaung Tha, Ngwe Saung, เกาะ Gaw Yin Gyi และ Shwe Thaung Yan ชายหาดถูกปิดในวันที่ 24 มีนาคม 2563 หนึ่งวันหลังจากที่มีรายงานการติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 2 ราย ขณะนี้มีเพียงโรงแรมบนชายหาดเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการในอิรวดี ผู้ประกอบการกล่าวว่าธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวคาดว่าจะเพิ่มราคาสูงขึ้นเนื่องจากต้องปฏิบัติตามระเบียบ COVID-19 แม้ว่าจะกลับมาเปิดโรงแรม เที่ยวบิน และการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวในท้องถิ่น แต่ก็ยังคงปิดให้บริการแก่ชาวต่างชาติและเที่ยวบินระหว่างประเทศและน่าจะกลับมาเปิดได้ในเดือนตุลาคม โดยโรงแรมในประเทศประมาณ 60% ได้เปิดให้บริการอีกครั้งหลังจากได้ผ่อนคลายข้อบังคับลงในเดือนพฤษภาคม แต่ธุรกิจยังคงซบเซา เช่น ร้านอาหารผลประกอบการลดลงมากถึง 50% ในขณะที่ผู้คนยังคงระมัดระวังในการไปในที่สาธารณะ สมาคมผู้ประกอบการโรงแรมในเมียนมาเผย โรงแรมบางแห่งไม่มีลูกค้ามากพอและอาจสูญเสียรายได้ดังนั้นจึงยังไม่เปิดทำการ การท่องเที่ยวของเมียนมาคิดเป็น 6.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ มีรายได้รวม 4.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2560 และแรงงาน 1.4 ล้านคน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/ayeyarwady-beaches-hotels-reopen-after-inspection.html

ผู้ค้าแตงโมเมียนมาประเมินความต้องการในฤดูการส่งออก

สมาคมผู้ปลูก ผู้ผลิต และผู้ส่งออกแตงโมเมลอนเมียนมา เผยกลยุทธ์ที่จะผลิตเพื่อการส่งออกและคาดการณ์ว่าจะสูญเสียรายได้ในปีที่จะมาถึงนี้  จากผลของ COVID-19 ผู้ส่งออกแตงโมมีผลขาดทุนเป็นจำนวนมากจากการสูญเสียและความต้องการที่ลดลงในเขตชายแดนเมียนมา- จีนในปีนี้ โดยปกติฤดูกาลส่งออกแตงโมจะเริ่มในเดือนกันยายนและอย่างเร็วในระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงพฤษภาคม มีการคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอดีตที่ผ่านมามีการส่งออกแตงโมมากกว่า 800,000 ตันและตอนนี้เหลือเพียง 500,000 ตันเท่านั้น ผลไม้ส่วนใหญ่ส่งออกไปยังจีนที่เขตชายแดน ก่อนการระบาดของ COVID-19 แตงโมและแตงกวาคือการส่งออกผลไม้หลักและรายได้เพิ่มขึ้นทุกปีเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ในปีนี้การส่งออกลดลงถูกชดเชยด้วยอุปสงค์กล้วยที่เพิ่มขึ้นในช่วงต้นปีตามรายงานของกระทรวงพาณิชย์ รายได้จากการส่งออกผลไม้ของเมียนมาสูงถึง 370 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณปัจจุบันซึ่งมีแม้จะมีการระบาดของ COVID-19 หากไม่มีการระบาดเมียนมาจะมีรายได้จากการส่งออกผลไม้เพิ่มขึ้นในปีนี้หากมีการจัดเก็บรักษาที่เหมาะสมของชายแดนเมียนมา – จีน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-traders-gauge-demand-melons-upcoming-export-season.html

กัมพูชาอาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้า

กัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่มเผื่อการส่งออกในปริมาณมาก ซึ่งอาจได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงในด้านอุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้าภายในประเทศเผื่อการส่งออก โดยจากรายงานล่าสุดของฟิทช์โซลูชั่นส์ กล่าวว่ากัมพูชา เวียดนามและเมียนมา เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในเอเชียที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม จากการเป็นซัพพลายเออร์ที่ทำการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศทั่วโลก โดยกัมพูชาคิดเป็นร้อยละ 1.4 ของตลาดในปี 2019 ภาคการผลิตเครื่องนุ่งห่มเติบโตขึ้นต่อปีที่ร้อยละ 13 ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากส่วนใหญ่มาจากต้นทุนแรงงานที่ค่อนข้างต่ำและนโยบายการลงทุนที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน ซึ่งการส่งออกเครื่องแต่งกายของเวียดนามเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 ในปีที่แล้ว เพิ่มส่วนแบ่งทั่วโลกสู่ร้อยละ 8.7 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 6.8 ในปี 2018

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50746403/cambodia-may-gain-from-shifts-in-apparel-manufacturing-says-fitch-solutions/

บริษัทจากเวียดนามลงทุนในกัมพูชาประมาณ 2.7 พันล้านดอลลาร์

ผู้ประกอบการเวียดนามลงทุนประมาณ 2.7 พันล้านดอลลาร์ ในกัมพูชา ซึ่งเป็นอันดับสามรองจากลาว โดยได้รับเงินลงทุนมากที่สุดจากผู้ประกอบการเวียดนามที่มีทุนจดทะเบียนเกือบ 5 พันล้านดอลลาร์ จาก 208 โครงการ ตามด้วยรัสเซียได้รับเงินลงทุนประมาณ 2.8 พันล้านดอลลาร์ ตามด้วยกัมพูชาและเวเนซุเอลาประมาณ 1.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วนักธุรกิจเวียดนามมีการลงทุนราว 21 พันล้านดอลลาร์ในโครงการต่างประเทศมากกว่า 1,300 โครงการ โดยมีกำไรจากการโอนกลับมายังประเทศเวียดนามถึง 3 พันล้านดอลลาร์ ตามรายงานของกระทรวงวางแผนและการลงทุนของเวียดนาม ซึ่งในโครงการดังกล่าวมีโครงการที่สำคัญหลายโครงการ เช่นโครงการเครือข่ายโทรคมนาคมของ Viettel ในกัมพูชามูลค่า 22.1 ล้านดอลลาร์ โดย Metfone ของ Viettel มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณร้อยละ 50 ครอบคลุมเครือข่ายกว่าร้อยละ 99 และมีผู้ใช้บริการมากกว่า 10 ล้านรายซึ่งอยู่ใน 3 อันดับแรกของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมในกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50746400/vietnamese-enterprises-invest-approximately-2-7-billion-in-cambodia/