รัฐบาลและภาคเอกชนของกัมพูชาหารือเกี่ยวกับระบบพลังงานแสงอาทิตย์ไม่ได้

กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานร่วมกับบริษัทพลังงานแสงอาทิตย์ในท้องถิ่นหลายแห่งประชุมเชิงปฏิบัติการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแนวทางสำหรับระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (SHS) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมข้อมูลการตลาดวิเคราะห์ตัวอย่างของการปฏิบัติที่ดีในอุตสาหกรรมและหารือเกี่ยวกับความท้าทายที่จะได้รับจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งจัดขึ้นโดยโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) และโดยมีผู้เข้าร่วมเป็น บริษัท BNP-Power Green, Kamworks และบริษัทอื่นๆ ถือเป็นบริษัทเชิงโซลูชั่น โดยจะแบ่งปันประสบการณ์และมุมมองเกี่ยวกับตลาดโซล่าร์ในประเทศกัมพูชาซึ่งกันและกัน ซึ่ง Sokun Sum ซีอีโอของ Lighting Engineering Solution กล่าวว่าความต้องการแผงโซลาร์เซลล์บนชั้นดาดฟ้าในประเทศกำลังเติบโต โดยแผงเซลล์แสงอาทิตย์บนชั้นดาดฟ้าเริ่มเป็นที่นิยมในปี 2018 เมื่อรัฐบาลอนุญาตให้ภาคเอกชนเชื่อมต่อระบบ PV เข้ากับกริดแห่งชาติได้ ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า บริษัท ในท้องถิ่น โรงงานและครัวเรือนหลายแห่งกำลังติดตั้งระบบ PV เพื่อลดค่าไฟฟ้า โดยรัฐบาลตั้งเป้าหมายที่จะผลิตพลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ในกัมพูชาร้อยละ 15 ภายในสิ้นปีหน้า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50664003/govt-and-private-sector-to-discuss-solar-home-system-guidelines/

กัมพูชาและเกาหลีใต้ลงนามศึกษาความเป็นไปได้ของเขตการค้าเสรี

กัมพูชาและเกาหลีใต้ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อเริ่มการศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกันในการสร้างข้อตกลงการค้าเสรี โดยเป็นการลงนามระหว่าง Yoo Myung-hee รัฐมนตรีการค้าของเกาหลีใต้และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา Pan Sorasak ณ เมืองปูซานประเทศเกาหลี ซึ่งตกลงที่จะเพิ่มปริมาณการค้าทวิภาคีและสำรวจความเป็นไปได้ในการเข้าสู่เขตการค้าเสรีระหว่างกัน โดยข้อตกลงดังกล่าวเกี่ยวข้องกับขั้นตอนการเจรจาต่อรองเพื่อสร้างการศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกัน โดยข้อตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างกัมพูชาจะกลายเป็นข้อตกลงที่สำคัญที่ช่วยให้บริษัทจากเกาหลีเจาะเข้าไปในประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยศักยภาพการเติบโตที่โดดเด่น ซึ่งตัวเลขจากกระทรวงพาณิชย์แสดงให้เห็นว่าปริมาณการค้าระหว่างกัมพูชาและเกาหลีใต้อยู่ที่ 756 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้วเพิ่มขึ้นประมาณ 15% เมื่อเทียบกับปี 2560 โดยนายกรัฐมนตรีฮุนเซนสนับสนุนให้นักลงทุนเอกชนของเกาหลีเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับศักยภาพทางธุรกิจของกัมพูชาและสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศควบคู่ไปด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50663999/cambodia-and-s-korea-closer-to-signing-fta/

บริการจัดส่งอาหารระหว่างประเทศเข้าสู่ตลาดสปป.ลาว

ประธานกรรมการบริหาร foodpanda กล่าวว่า foodpanda ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 7 ปีก่อนในสิงคโปร์และขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) สปป.ลาวเป็นประเทศที่ 9  แม้ว่าสปป.ลาวจะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีประเพณีการกินที่น่าสนใจ โดยเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ ในสปป.ลาว หลังจากระยะเวลาทดลอง 2 สัปดาห์ เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการเชิญจากเจ้าหน้าที่ผู้มีชื่อเสียงของสปป.ลาวและแขกรับเชิญอื่น ๆ ซึ่งร้านอาหาร 50 แห่งที่เข้าร่วมแพลตฟอร์ม foodpanda จัดแสดงอาหารและเครื่องดื่มเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ซื้อและลิ้มลอง กรรมการผู้จัดการ Foodpanda สปป.ลาวกล่าวว่า ฟู้ดแพนด้าต้องการเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนมองเห็นและสัมผัสกับการส่งอาหารโดยการดูแลความต้องการของลูกค้าได้รับอาหารสด ไม่ว่าลูกค้าต้องการอะไรจะพัฒนาต่อไปเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ปัจจุบันแอปพลิเคชั่นมีร้านอาหารมากกว่า 300 แห่งในเวียงจันทน์และคาดว่าจะมีร้านอาหารอีกประมาณ 50 แห่งที่จะเข้าร่วมภายในสิ้นปีนี้ บริษัทวางแผนที่จะขยายการบริการไปยังแขวงหลวงพระบางและจำปาสักในอนาคตอันใกล้

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/international-food-delivery-service-enters-lao-market-108915  

ประเทศลุ่มแม่น้ำโขงมารวมตัวกันที่เวียงจันทน์เพื่อขับเคลื่อนวาระการพัฒนาชุมชน

ตัวแทนของประเทศลุ่มแม่น้ำโขงส่งเสริมความเข้าใจและแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในงานสัมมนา ล้านช้าง-แม่โขง เรื่องการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยชุมชนที่จัดขึ้นในเวียงจันทน์ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในด้านการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยชุมชนในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพของการพัฒนาชนบทและการขจัดความยากจน ที่ประชุมทราบว่าสปป.ลาวกำลังอยู่ในระหว่างการร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 9 โดยมุ่งพัฒนาสถานะของประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด ก้าวไปสู่ประเทศที่มีรายได้ปานกลาง-สูง ภายในปี 73 ซึ่งกรอบความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนและความเจริญรุ่งเรืองของทุกประเทศในภูมิภาค ในสปป.ลาวการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยชุมชนได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากรัฐบาลผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทุนเพื่อการลดความยากจน เป็นโครงการสำคัญของรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารโลกและพันธมิตรทางการเงินเพื่อขจัดความยากจนในปี 63 ซึ่งกองทุนลดความยากจนมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดความยากจนในสปป.ลาวโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเพิ่มการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/mekong-countries-gather-vientiane-drive-community-development-agenda-108912

แอร์เอเซียมีแนวโน้มขยายตัวในกัมพูชา

แอร์เอเชียกำลังมองหาความเป็นไปได้ที่จะขยายเข้าไปในกัมพูชาผ่านการเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทในท้องถิ่น ซึ่งรายงานของ Nikkei Asian Review รายงานว่ากัมพูชาเป็นหนึ่งในสามประเทศในเอเชียที่แอร์เอเซียมองหาพันธมิตรในท้องถิ่น โดยแอร์เอเชียมีเที่ยวบินไปยังกัมพูชาแล้วแต่ในปัจจุบันยังไม่มีเครือข่ายในท้องถิ่นต่างจากอินโดนีเซีย ไทยและประเทศอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกัมพูชาในฐานะที่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวทำให้ผู้ให้บริการจากต่างประเทศจำนวนมากมองไปที่การขยายตัวภายในประเทศ โดยปัจจุบันมี บริษัท สายการบินกว่า 49 แห่ง ที่ให้บริการในตลาดการบินของกัมพูชา ในขณะที่สายการบินเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นสายการบินต่างประเทศ ซึ่งกัมพูชาเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเป็นอันดับสามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากเวียดนามและอินโดนีเซีย โดยในปี 2561 กัมพูชาได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ 6.2 ล้านคน โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 6.7 ล้านคน ซึ่งกัมพูชาผลักดันให้มีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศมากขึ้น โดยกัมพูชาตั้งเป้าหมายว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 12 ล้านคนภายในปี 2568

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50663646/malaysias-airasia-looks-to-expand-into-the-kingdom/

สถานทูตสิงคโปร์เสนอจัดเทศกาลศิลปะบนท้องถนนในกัมพูชา

กระทรวงการท่องเที่ยวและสถานทูตสิงคโปร์กำลังพิจารณาจัดเทศกาล Street Art ณ กรุงพนมเปญในเดือนกุมภาพันธ์เพื่อฉลองครบรอบ 55 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต โดยเทศกาลนี้จะมุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกัมพูชา ซึ่งในการประชุมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกับเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำกัมพูชากล่าวว่าสิงคโปร์กำลังมองหาการสนับสนุนจากกระทรวงการท่องเที่ยวของกัมพูชาและกระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์เพื่อจัดงาน โดยผู้คนจะสามารถเข้าร่วมงานแสดงศิลปะจากศิลปินหลากหลายท่านและเพลิดเพลินไปกับอาหารและเครื่องดื่มภายในงาน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวยินดีรับพิจารณาเพราะความคิดริเริ่มของโครงการนี้คล้ายกับสิ่งที่กระทรวงกำลังดำเนินการอยู่ในบางประเด็นเช่นเดียวกับเทศกาล Food Street Festival ที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเชื่อว่าเทศกาลสตรีทอาร์ตจะส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในกัมพูชาและจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ ในขณะที่กระทรวงกำลังจัดทำโครงการ Food Street ซึ่งจะรวบรวมผู้ค้าอาหารในท้องถิ่น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50663743/singapore-embassy-proposes-street-art-festival/

ภาคการขนส่งเวียดนาม ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานกว่า 2 ล้านคน

จากข้อมูลของสมาคมโลจิสติกส์เวียดนาม (VLA) เปิดเผยว่าภาคโลจิสติกส์เวียดนามมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ร้อยละมากกว่า 10 ต่อปี และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ซึ่งตัวเลขสถิติ แสดงให้เห็นว่าในปัจจุบัน เวียดนามมีบริษัทรับจัดส่งสินค้า 30,000 แห่ง รวมถึง 4,000 แห่ง ที่ดำเนินธุรกิจขนส่งสินค้าในประเทศและระหว่างประเทศ หากจำแนกออกเป็นขนาดธุรกิจ พบว่าส่วนใหญ่ธุรกิจโลจิสติกส์เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม อย่างไรก็ตาม ปัญหาการขาดแคลนแรงงานกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องมาจากเวียดนามเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และการตกลงความร่วมมือการค้าเสรี (FTA) โดยคาดว่าในอีก 3 ปีข้าวหน้า ธุรกิจโลจิสติกส์เวียดนามต้องการพนักงานใหม่ 18,000 คน ทำให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องส่งเสริมคุณภาพการฝึกอบรมแรงงานในภาคโลจิสติกส์ ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล นอกจากนี้ ตลาดโลจิสติกส์และคลังสินค้าเวียดนาม คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) อยู่ที่ร้อยละ 13.3 ในช่วงปี 2561-2565

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnams-logistics-sector-faces-labor-shortage-of-2-million-people-406638.vov

การรถไฟเวียดนามปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน

จากข้อมูลของการรถไฟแห่งเวียดนาม (VNR) ได้ทำการวางแผนที่จะปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟที่ตอบสนองต่อความต้องการผู้ใช้บริการ รวมถึงการสร้างตู้รถไฟโดยสารใหม่ 300 คัน และสั่งซื้อหัวรถจักรเพิ่มมากขึ้น ในปี 2566 เนื่องมาจากตู้รถไฟโดยสารล้าสมัย ส่งผลต่อการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและค่าบำรุงรักษาที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ทางการรถไฟแห่งเวียดนามได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่างประเทศ ในการส่งเสริมการลงทุนตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ด้วยการที่หุ้นส่วนจะสร้างรถไฟ และเสนอให้ทางการรถไฟเวียดนามทำการลงนามข้อตกลงสัญญาเช่าซื้อ ขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะลดลงร้อยละ 10 ตัวอย่างเช่น ค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 300 พันล้านด่อง (12.9 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อสร้างตู้รถไฟและค่าบำรุงรักษา ด้วยมูลค่า 40 พันล้านด่อง ด้วยเหตุนี้ ทางการรถไฟเวียดนามต้องใช้เงินราว 300 พันล้านด่อง แทนที่จะต้องเสียเงิน 340 พันล้านด่อง โดยไม่จำเป็นต้องกู้เงิน ซึ่งจะประหยัดเงินทุนอย่างมาก

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnam-railways-to-upgrade-infrastructure-406655.vov