ร่างกฎหมายเก็บภาษีสุราใกล้มีผลบังคับใช้

กฎหมายการผ่อนปรนการห้ามนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเมียนมา ได้ถูก่งไปยังอัยการสูงสุดเพื่อขออนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้ชงเรื่องไป การนำเข้าสุราเป็นไปอย่างเข้มงวดในพม่าตั้งแต่ปีพ. ศ. 2505 ต่อมาอนุญาตให้นำเข้าไวน์ในปลายปี 2558 แต่ให้นำเข้าโรงแรมและร้านปลอดภาษีเท่านั้นทั้งสุราและเบียร์ ธุรกิจที่ต้องการนำเข้าจัดจำหน่ายและขายเหล้าทุกชนิดจะต้องได้รับการอนุมัติจากกระทรวงมหาดไทยที่ควบคุมโดยฝ่ายบริหารงานทั่วไป (CAD) และคณะกรรมการนโยบายสรรพสามิตใหม่ บริษัทต่างๆต้องการให้มีการแก้ไขใบเรียกเก็บเงินเพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับขั้นตอนและข้อจำกัดในการนำเข้า การเปิดเสรีตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นครั้งแรกภายใต้รัฐบาลของนางอองซานซูจีเพื่อต้อนรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ข้อจำกัดในการนำเข้าส่งผลให้มีการลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมายมาจำหน่ายในประเทศ ส่งผลต่อรายได้ภาษีของรัฐบาล

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/draft-bill-alcohol-imports-nears-completion.html

เมียนมามีแผนดึงนักท่องเที่ยวมาเยือนเจดีย์ Zalon Taung

เมียนมาวางแผนจะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมายังเจดีย์ Zalon Taung ซึ่งมีจำนวนผู้แสวงบุญในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น โดยในปี 60 มีผู้มาเยี่ยมชมมากกว่า 200,000 คน และมากกว่า 400,000 คนในปี 61 จำนวนผู้แสวงบุญเดินทางมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 60 และรัฐบาลกำลังเจรจากับระดับภูมิภาคหน่วยงานของรัฐเพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเยี่ยมชมเจดีย์ตั้งแต่ปี 2561 เจดีย์ Zalon Taung ตั้งอยู่บนภูเขาประมาณ 3,090 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 12 ไมล์ทางเหนือของบ้านเมาะ ในเขตซะไกง์ ประวัติความเป็นมาของเจดีย์ Zalon Taung กล่าวกันว่าเป็นสถานที่ของพระพุทธเจ้าองค์ที่ห้าหรือ พระศรีอริยเมตไตรย นั่นเอง

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/myanmar-plans-to-attract-tourists-to-zalon-taung-pagoda

เวียดนามจัดงานแสดงสินค้าในเมียนมา

งานแสดงส่งเสริมสินค้านานาขาติเวียดนามประจำปี 2562 “Vietnam Expo 2019” จัดขึ้นในกรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ระหว่างวันที่ 19-22 ธันวาคม มีคณะธุรกิจเวียดนามกว่า 80 รายและซุ้มแสดงส่งเสริมสินค้า 120 บูธ โดยมีการแสดงสินค้าที่หลากหลาย ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องจักร สินค้าอุปโภคบริโภค และการให้บริการของธนาคาร เป็นต้น สำหรับวัตถุประสงค์ภายในกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อผลักดันความร่วมมือทางด้านธุรกิจและส่งเสริมแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก รวมไปถึงขยายระบบการกระจายสินค้าและเรียนรู้เกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจ การลงทุนในประเทศคู่ค้า ทั้งนี้ เวียดนามเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในเมียนมา อยู่ในอันดับที่ 7 และมีมูลค่าการค้าระหว่างประเทศราว 860 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2561 ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 1.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2562

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/8246402-vietnamese-products-promoted-in-myanmar.html

YACL เปิดให้เอกชนเข้าประมูลกายกระดับสนามบินเกาะสอง

บริษัท Yangon Aerodrome Company Limited (YACL) ไฟเขียวให้เอกชนเข้าร่วมยกระดับการบริการของสนามบินนานาชาติเกาะสองแล้ว ผ่านระบบหุ้นส่วนมหาชน-เอกชน (Public–private partnership)  ซึ่งหากไม่มีการลงทุนภาคเอกชนจะต้องขอความช่วยเหลือจากงบประมาณของรัฐ อย่างไรก็ตาม บริษัทเอกชนบางแห่งมีความกระตือรือร้นในการเข้าร่วมครั้งนี้ YACL เข้าควบคุมการดำเนินงานและการจัดการของสนามบินนานาชาติย่างกุ้งในเดือนตุลาคม 58 ภายใต้สัญญา PPP จากกรมการบินพลเรือนและกระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร แผนกำลังดำเนินการยกระดับสนามบินภายในประเทศสามแห่ง ได้แก่ สนามบินเฮโฮ ในรัฐฉาน, สนามบินเกาะสองในเขตตะนาวศรีi และสนามบินเมาะลำเลิงในรัฐมอญให้เป็นมาตรฐานสากลโดยร่วมมือกับภาคเอกชน คาดว่าการยกระดับสนามบินเฮโฮ จะอยู่ที่ 40 ล้านเหรียญสหรัฐ สนามบินเกาะสอง 36 ล้านเหรียญสหรัฐ และสนามบินเมาะลำเลิง 20 ล้านเหรียญสหรัฐตามลำดับ

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/yacl-applies-for-kawthaung-airport-upgrade-tenders

ธนาคารกลางเมียนมาเตรียมออกธนบัตร 1,000 จัต เป็นภาพนายพลอองซาน

ธนาคารกลางเตรียมออกธนบัตร 1,000 พันจัตเริ่มต้นในวันที่ 4 ม.ค.ปีหน้า โดยจะมีภาพของนายพลอองซาน (Bogyoke Aung San) ผู้เปรียบเสมือนเป็นวีรบุรุษเพื่ออิสรภาพของเมียนมา ธนบัตรที่มีความยาว 150 มม. และกว้าง 70 มม. สีในส่วนบนของบันทึกย่อจะมีการพิมพ์“ ธนาคารกลางเมียนมา” ภาพอาคารรัฐสภาจะอยู่ที่ด้านหลังของธนบัตรและ“ธนาคารกลางเมียนมา”: ใส่ที่ด้านบนของธนบัตร การพิมพ์ธนบัตร 1,000 จัตครั้งนี้ เพื่อใช้หมุนเวียนในระบบการเงินของประเทศ

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/central-bank-to-circulate-bogyoke-aung-san-1000-kyat-note

การขยายวีซ่าเดินทางไม่ส่งผลกับนักเดินทางชาวเมียนมา

การขยายระยะเวลาการยกเว้นวีซ่าให้กับเมียนมาและเวียดนามจาก 14 วันเป็น 30 วันอาจไม่ส่งผลดีต่อนักเดินทางเมียนมามากนัก ส่วนใหญ่นักเดินทางชาวเมียนมาที่ไปทัวร์กับเวียดนามใช้เวลาประมาณห้าวันหรือหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งการใช้เวลารวมทั้งการเดินทางเข้า – ออก สองอาทิตย์ก็เพียงพอแล้ว ในทำนองเดียวกันชาวเวียดนามที่เดินทางมาจะอยู่ได้นานสุดประมาณห้าวัน ชาวเวียดนามไม่ได้อยู่ที่ย่างกุ้งนานนัก มักใช้เวลาประมาณสามวันในการเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ เช่น ย่างกุ้ง และพระธาตุอินทร์แขวน หรือไปที่พุกามซึ่งก็อยู่ได้ไม่นานนัก จากตัวเลขของกระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวตั้งแต่เดือน ม.ค.- ต.ค. 62 มีชาวเวียดนาม 43,146 เดินทางมาเข้ามา ซึ่งลดลง 691 คนเมื่อเทียบปีที่แล้วที่มีจำนวน 43,842 คน

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/extended-free-visa-with-vietnam-does-not-benefit-myanmar-travellers-much-tourism-official

การลงทุนจากต่างประเทศสูงกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐภายในสองเดือน

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งเมียนมา (MIC) ระบุว่าปริมาณการลงทุนจากต่างประเทศอยู่ที่ 1.148 พันล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งรวมถึงการลงทุนกว่า 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา ภายในสองเดือนครึ่งในปีงบประมาณนี้ เขตย่างกุ้งอนุญาตให้มีการลงทุนจากต่างประเทศ 11 ราย และภูมิภาคหงสาวดีได้รับอนุญาต 4 การลงทุนจากต่างประเทศในสัปดาห์นี้ มีการลงทุนในภาคการผลิตไฟฟ้าและการพัฒนาที่อยู่อาศัยและ 15 รายการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม การลงทุนจาก 14 ธุรกิจมีมูลค่า 84.171 ล้านเหรียญสหรัฐและสร้างงาน 8,538 ตำแหน่งให้กับคนในท้องถิ่น ตามกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษการลงทุนต่างประเทศทั้งหมดในติละวา อยู่ที่ 15.203 ล้านเหรียญสหรัฐตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมถึง 14 ธันวาคมในปีงบประมาณนี้ การลงทุนที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ พลังงาน การผลิต การขนส่งและการสื่อสาร ที่อยู่อาศัย โรงแรมและการท่องเที่ยว เหมืองแร่ ปศุสัตว์และการประมง การเกษตร เขตอุตสาหกรรม การก่อสร้างและ ภาคบริการอื่น ๆ ภายใน 31 ปี

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/foreign-investment-volume-reaches-over-us1-b-within-over-two-months

มูลค่าส่งออกข้าวหักมากกว่า 48 ล้านเหรียญสหรัฐ ในสองเดือน

ข้อมูลของสหพันธ์ข้าวแห่งเมียนมา (MRF) ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. –  29 พ.ย.ในปีงบประมาณ 62 – 63 เมียนมามีรายรับ 48.413 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการส่งออกข้าวหักจำนวน 0.1866 ล้านตันไปยัง 38 ประเทศ มีรายได้มากกว่า 17 ล้านเหรียญสหรัฐจากการส่งออกข้าวหัก 64,900 ตัน ไปยังอินโดนีเซีย นอกจากนี้ยังส่งออกไป 27,500 ตันมูลค่ากว่า 7 ล้านเหรียญสหรัฐไปยังเบลเยียม จำนวน 5,000 ตันมูลค่ามากกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐไปยังมาลี และประมาณ 5,000 ตัน มูลค่ากว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐมายังไทย การส่งออกไปยังตลาดอียูและแอฟริกาผ่านทางเรือ และไปจีนผ่านชายแดนมูเซ ในปี 61-62 มีรายรับ 709.693 ล้านเหรียญสหรัฐจากการส่งออกข้าวสารและข้าวหัก 2.355 ล้านตัน ส่วนปี 60-61 การส่งออกข้าวและข้าวหักทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกือบ 3.6 ล้านตันในรอบ 50 ปี

ที่มา:https://elevenmyanmar.com/news/broken-rice-export-fetches-over-48-m-in-two-months

ILO ชูงานวิจัยความยั่งยืนของตลาดภาคเกษตรในเมียนมา

องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และพันธมิตรอย่าง Myanmar Women’s Coffee Alliance (MWCA) ร่วมวิจัยเกี่ยวกับความรับผิดชอบในการทำงานและความยั่งยืนของตลาดในภาคเกษตรกรรมของเมียนมา โดยพิจารณาว่าธุรกิจการเกษตรดำเนินการตามมาตรฐานความรับผิดชอบหรือไม่ การวิจัยจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 63 โดยให้ความสำคัญกับปลูกพืชและการผลิตอาหารทะเล ตั้งแต่เมียนมาส่งออกวัตถุดิบความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นปัจจัยสำคัญในห่วงโซ่การผลิต ผู้ซื้อจากต่างประเทศจะพิจารณามากกว่าแบรนด์สินค้าแต่ยังรวมถึงความรับผิดชอบของสินค้านั้นด้วย

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/ilo-lead-research-market-sustainability-agriculture.html

SEAC ชวนเช็คสุขภาพเศรษฐกิจเมียนมา เดินหน้าพัฒนาศักยภาพธุรกิจอาเซียน ในงาน Scaling Your

เมียนมาเป็นหนึ่งในประเทศในอาเซียนที่มีสถิติการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ตั้งแต่ปี 2557–2561 สูงถึง 7.2% และคาดการณ์ว่าในปีนี้ จะเติบโตขึ้นอีก 6.6% ปัจจัยมาจากองค์ประกอบหลายส่วน ทั้งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในทิศทางที่ดีขึ้น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเขตเศรษฐกิจพิเศษ และกฎหมายการลงทุนของชาวต่างประเทศ ทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ดัชนีความน่าเชื่อถือและสภาพเศรษฐกิจมวลรวมของประเทศดีขึ้น แต่ยังคงเผชิญกับปัฐหาอีกมากมาย ทั้งนี้ กรรมการผู้จัดการ SEAC (Southeast Asia Center) ระบุว่า SEAC ต้องการเข้าไปพัฒนาศักยภาพของคนและองค์กร โดยทางองค์กรได้มีโอกาสเข้าไปดำเนินธุรกิจในเมียนมา ทำให้เข้าใจภาพรวมของธุรกิจ ซึ่งการปรับขยาย (Scale) คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างแท้จริง ประกอบการปรับวิธีและรูปแบบการทำงานให้ใช้ทรัพยากรที่น้อย โดยมี 3 ส่วนสำคัญ คือ กรอบความคิด (Mindset) การทดลองและลงมือทำตามวิถี (Design Thinking) และการพัฒนาทักษะที่จำเป็น สำหรับอาเซียนถือเป็นภูมิภาคที่มีขีดความสามารถ หากเลือกกลยุทธ์ทางธุรกิจได้ถูกต้องและทันต่อเหตุการณ์สำคัญ ทาง SEAC พร้อมจะช่วยเติมศักยภาพให้กับคนและองค์กรในภูมิภาคนี้

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/prg/3078088