กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 ในช่วง 5 เดือนแรก

การส่งออกจากกัมพูชาไปยังสหรัฐอเมริกาในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.9 สู่ 2.3 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจากสำนักสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐ โดยรายงานด้านการค้าระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 สู่ 2.4 พันล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคมกัมพูชานำเข้าผลิตภัณฑ์มูลค่า 125 ล้านดอลลาร์ จากสหรัฐอเมริกาลดลงร้อยละ 42 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งการขยายตัวในทิศทางบวกของการส่งออกนั้นเกิดจากการส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่เสื้อผ้าสำเร็จรูป เช่น ข้าวสาร จักรยานและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งการส่งออกของภาคเครื่องนุ่งห่มลดลงโดยเฉพาะในตลาดสหภาพยุโรป โดยเมื่อปีที่แล้วการค้าทวิภาคีระหว่างทั้งสองประเทศมีมูลค่ารวม 5.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 38 เมื่อเทียบกับปี 2561

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50743738/cambodias-exports-to-u-s-up-26-percent-in-first-five-months/

การส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปในกัมพูชาลดลงจากผลกระทบของ Covid-19

โฆษกกระทรวงแรงงานและฝึกอบรมด้านการส่งออกในภาคเสื้อผ้าลดลงมากกว่าร้อยละ 5 เป็นประมาณ 3.78 พันล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งปีแรก โดยโฆษกกระทรวงแรงงานกล่าวในการแถลงข่าวเกี่ยวกับมาตรการของรัฐบาลในการตอบสนองต่อผลกระทบของ COVID-19 ที่กระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน (MEF) เมื่อวานนี้ว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 การส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปของกัมพูชาอยู่ที่ราว 3.784 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 5.4 จากการส่งออกมากกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019 เหตุผลในการลดลงนั้นเป็นเพราะผลกระทบของ COVID-19 รวมถึงการจัดซื้อที่ลดลงทั่วโลก ซึ่งเลขาธิการสมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าในประเทศกัมพูชา (GMAC) กล่าวว่าการลดลงโดยทั่วไปนั้นเป็นเพราะการหยุดการดำเนินการชั่วคราวและคำสั่งซื้อที่ลดลง โดยจากรายงานครึ่งปีของธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ซึ่งกัมพูชานำเข้าลดลงร้อยละ 5 การส่งออกสินค้ากัมพูชาเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์คิดเป็นร้อยละ 45 จักรยานร้อยละ 18 ข้าวร้อยละ 29 และผลิตภัณฑ์อื่นๆ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50743103/garment-exports-fall-factories-hit-by-virus/

ความกังวลด้านเงินเฟ้อในกัมพูชาที่ส่งผลต่อราคาอาหารและเสถียรภาพภายในประเทศ

ตั้งแต่เกิดการระบาดของ COVID-19 ได้เริ่มขึ้นส่งผลให้เกิดความกังวลในด้านราคาอาหารที่อาจเพิ่มขึ้น แต่ตัวเลขล่าสุดแสดงให้เห็นว่ายังคงค่อนข้างคงที่สำหรับสินค้าอาหารส่วนใหญ่ในช่วงเจ็ดเดือนที่ผ่านมา โดยราคาสินค้าส่วนใหญ่มีการเพิ่มขึ้นบางอย่างในช่วงโควิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับราคาผักที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 60 ไข่เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.5 และหมูเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 ในช่วงปลายเดือนมีนาคม ซึ่งแม้ว่าราคาอาหารขายปลีกจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคม โดยเมษายนถึงเดือนมิถุนายนความผันผวนของราคาสินค้าได้ลดลงมาสู่ระดับปรกติ จนถึงขณะนี้ผลกระทบของการระบาดของ COVID-19 ต่อความมั่นคงด้านอาหารมีแนวโน้มที่จะมาจากด้านอุปสงค์มากขึ้นโดยมีครัวเรือนที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจร่วมด้วย จากการสูญเสียรูปแบบการดำเนินวิถีชีวิตและรายได้เนื่องจากผลกระทบของไวรัส

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50743104/fear-of-food-price-inflation-dropping-as-stability-returns/

การเพิ่มขึ้นของรายได้บริษัทประกันฯในกัมพูชา

รายงานของสมาคมประกันภัยกัมพูชา (IAC) รายงานว่าเบี้ยประกันขั้นต้นของในกัมพูชาเติบโตขึ้นร้อยละ 21.4 ในไตรมาสแรกของปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรายงานรายไตรมาสแสดงให้เห็นว่าเบี้ยประกันขั้นต้นสำหรับการประกันทั่วไปมีมูลค่าสูงถึง 32.76 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 26.98 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2562 ซึ่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์เตประกันภัย จำกัด กล่าวว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้เป็นเพราะธุรกิจมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงก่อนที่จะมีการระบาดของ COVID-19 คิดเป็นรายได้จากการประกันสุขภาพเพิ่มขึ้นร้อยละ 36.4 หรือ 7.14 ล้านดอลลาร์ จาก 5.25 ล้านดอลลาร์ ด้านรถยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 สู่ 5.9 ล้านดอลลาร์ ด้านอุบัติเหตุส่วนบุคคลและเบ็ดเตล็ดเพิ่มขึ้นร้อยละ 38

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50742571/insurers-income-rising-for-now/

ADB อนุมัติเงินกู้ยืม 250 ล้านดอลลาร์แก่กัมพูชาเพื่อต่อสู้กับ COVID-19

ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้อนุมัติเงินกู้ยืมจำนวน 250 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือรัฐบาลกัมพูชาในการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของ COVID-19 โดยการเสริมสร้างระบบการดูแลสุขภาพของประเทศเพิ่มความช่วยเหลือทางสังคมแก่คนยากจนและผู้อ่อนแอ รวมถึงองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลาง ซึ่งธนาคารได้มอบเงินช่วยเหลือภายใต้โครงการสนับสนุนการตอบสนองและการใช้จ่าย (CARES) ต่อ COVID-19 ของ ADB โดยโปรแกรมดังกล่าวรวมถึงกรอบการมีส่วนร่วมของประเทศ จะทำให้มั่นใจได้ว่ารัฐบาลและ ADB จะดำเนินการเจรจานโยบายต่อไปเกี่ยวกับการดำเนินการและติดตามการตอบสนองต่อ COVID-19 ในกัมพูชา รวมถึงการปรึกษาหารือกับภาคเอกชนและองค์กรภาคประชาสังคม ซึ่งโปรแกรมนี้ยังเชื่อมโยงกับการสนับสนุนของ ADB ในการปฏิรูปการบริหารการคลังสาธารณะเพื่อเสริมสร้างการกำกับดูแลและความโปร่งใส ไปจนถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพในการพัฒนางบประมาณและนโยบายการติดตามค่าใช้จ่ายและการตรวจสอบ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50742799/adb-approves-250-million-loan-to-cambodia-to-combat-covid-19/

ภาครัฐบาลและภาคเอกชนกัมพูชาเร่งปรับปรุงการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ชายแดนระหว่างประเทศต้องปิดตัวลง การท่องเที่ยวภายในประเทศจึงเป็นทางเลือกเดียวสำหรับทั้งคนท้องถิ่นและชาวต่างชาติในกัมพูชา โดยในการตอบสนองหน่วยงานท้องถิ่นและชุมชนได้รับการผลักดันเพื่อปรับปรุงคุณภาพของการให้บริการด้านการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับการปฏิบัติด้านสุขอนามัยเพื่อสนับสนุนการเดินทางมายังกัมพูชาของนักท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึงภาครัฐฯและภาคเอกชนมองว่าแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศทั่วประเทศกำลังจะกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นหลายแห่ง โดยกำลังขอให้รัฐบาลเพิ่มโอกาสด้วยการสร้างแพ็คเกจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มากขึ้น ผ่านการลงทุนโดยภาคเอกชนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสำหรับโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50742181/public-and-private-sector-needed-to-improve-eco-tourism-development/

กัมพูชาอนุมัติเงินลงทุน 3.8 พันล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งปีแรก

ตามรายงานของกระทรวงการจัดการที่ดินการวางผังเมืองและการก่อสร้าง ระบุว่ามีโครงการก่อสร้างที่ได้รับอนุมัติราว 2,522 โครงการ กำลังดำเนินการอยู่ทั่วประเทศรวมเป็นเงินลงทุน 3.842 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงหกเดือนแรกของปี โดยมูลค่าของโครงการก่อสร้างที่ได้รับอนุมัติเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.26 เมื่อเถียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งข้อมูลที่เผยแพร่จากกระทรวงการจัดการที่ดินกล่าวว่าประมาณ 2,097 โครงการ เป็นโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัย ในขณะที่มีโครงการก่อสร้างโรงงานและคลังสินค้า 45 โครงการ โดยภาคการก่อสร้างสร้างงานได้ 170,059 ตำแหน่งทั่วประเทศ ซึ่งประธานสมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินและตัวแทนภาคอสังหาริมทรัพย์กัมพูชา (CVEA) กล่าวว่าสถานการณ์และกิจกรรมของภาคอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามภาคการก่อสร้างคาดหวังว่าจะยังคงเติบโตเหมือนปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50742206/3-8-bln-in-capital-investment-approved-during-the-first-six-months-of-the-year/

การท่องเที่ยวกัมพูชาระหว่างการระบาดของ Covid-19

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาข้อมูลจากทางภาครัฐแสดงให้เห็นว่า COVID-19 ได้ส่งผลให้ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวปิดตัวเกือบ 3,000 แห่ง และส่งผลกระทบต่อแรงงานกว่า 45,045 คน โดยการว่างงานและหนี้สินที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจสังคม ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวคาดการณ์ว่าภาคการท่องเที่ยวจะมีรายรับ 3 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายนมีโรงแรม 18 แห่ง และเกสต์เฮาส์ 96 แห่งปิดทำการอย่างถาวร โดยยังคงมีโรงแรม 172 และเกสต์เฮาส์ 99 แห่งได้หยุดดำเนินกิจการชั่วคราวในขณะนี้ ซึ่งในปัจจุบันมีโรงแรม 40 แห่งและเกสต์เฮาส์ 66 แห่ง เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ โดยรัฐบาลจะปรับมาตรการกักกันและเตรียมการพิเศษ ซึ่งหน่วนงานกำลังตั้งคำถามหากสถานการณ์ยังคงดำเนินต่อไป ภาครัฐจะสามารถจัดการได้อย่างไรและภาคธุรกิจจะเป็นอย่างไร รวมถึงการว่างงานจะสูงขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50740504/tourism-savaged-by-covid-19/

สมาคมธุรกิจเรียกร้องให้สหภาพยุโรปยืดการถอดถอนสิทธิพิเศษทางการค้าของกัมพูชา

สมาคมภาคธุรกิจสามแห่งในหมวด เสื้อผ้า รองเท้าและสินค้าด้านการท่องเที่ยว และเชิงพาณิชย์ ได้ทำการส่งจดหมายไปยังรัฐสภายุโรปอีกครั้งเพื่อขอเลื่อนการถอดถอน สิทธิพิเศษทางการค้า (EBA) บางส่วนออกไปก่อน เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของ COVID-19 ต่อภาคการผลิตเสื้อผ้าและรองเท้าในกัมพูชา ถูกส่งโดยสมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าในกัมพูชา (GMAC) สมาคมรองเท้าในกัมพูชา (CFA) และหอการค้ายุโรปแห่งกัมพูชา (EuroCham) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้สำหรับการถอดถอนบางส่วนของ EBA ในกัมพูชาในวันที่ 12 สิงหาคม โดยเนื้อความบนจดหมายจากสมาคมกล่าวว่าตั้งแต่มีการระบาดใหญ่มีโรงงานได้รับผลกระทบถึง 400 แห่ง ในภาคเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม รองเท้าและสินค้าการท่องเที่ยวของกัมพูชาต้องหยุดการดำเนินงานชั่วคราว ซึ่งธุรกิจภาคการผลิตเสื้อผ้า รองเท้าและสินค้าการท่องเที่ยว ถือเป็นกลุ่มผู้จ้างงานที่ใหญ่ที่สุดในกัมพูชาและให้การสนับสนุนแรงงานถึงประมาณ 1 ล้านคน ในกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50740483/industry-makes-another-appeal-against-eu-tariffs/

คลองชลประทานภายในกัมพูชาเข้าถึงพื้นที่การเพาะปลูกกว่าร้อยละ 62

ในช่วงกลางปี 2563 ระบบชลประทานของกัมพูชาสามารถเข้าถึงได้โดยประมาณร้อยละ 62 ของพื้นที่เพาะปลูก 2,957,400 เฮกตาร์ทั่วประเทศ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรน้ำและอุตุนิยมวิทยาคาดว่าจะเพิ่มความครอบคลุมต่อไปเมื่อโครงการพัฒนาชลประทานขนาดใหญ่ 12 โครงการเสร็จสมบูรณ์ในปี 2566 ซึ่งในปี 2562 น้ำชลประทานครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรม 1,835,422 เฮกตาร์ ทั่วประเทศกัมพูชารวมถึง 537,077 เฮกตาร์ สำหรับปลูกข้าวในฤดูแล้งและ 1,298,345 เฮกตาร์สำหรับปลูกข้าวในฤดูฝน  หากเปรียบเทียบกับความครอบคลุมของการชลประทานระหว่าง 2510-2562 การเข้าถึงของคลองชลประทานเพิ่มขึ้นร้อยละ 81รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยังเน้นย้ำถึงความพยายามของรัฐบาลกัมพูชาในการฟื้นฟูและพัฒนาระบบชลประทานของกัมพูชาเพื่อสนับสนุนและขยายการพัฒนาการเกษตรของประเทศต่อไปในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50739924/water-from-cambodias-irrigation-canals-accessible-by-62-of-total-farm-land/