นักลงทุนต่างชาติจำเป็นต้องเปิดบัญชีธนาคารในประเทศลาว

ธนาคารแห่ง สปป. ลาว ได้ออกมติเกี่ยวกับการควบคุมเงินตราต่างประเทศ ซึ่งกำหนดให้นักลงทุนต่างประเทศต้องเปิดบัญชีธนาคารเฉพาะในประเทศลาวเพื่อดำเนินการธุรกรรมทางการเงินของตน การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลพบว่ากระแสการลงทุนจากต่างประเทศในระบบธนาคารนั้นต่ำกว่ามูลค่าเงินลงทุนที่ตกลงกันไว้มาก การเคลื่อนไหวของธนาคารกลางเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลเพื่อให้แน่ใจว่าสกุลเงินต่างประเทศจะเข้าสู่ระบบธนาคารมากขึ้น และใช้เพื่อแก้ไขการขาดแคลนในดุลการชำระเงินโดยรวม โดยเชื่อว่าการรักษาเสถียรภาพของมูลค่าเงินกีบจะช่วยแก้ไขปัญหาทางการเงินของประเทศได้

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_07_Foreign_y24.php

สปป.ลาว เผยยอดผู้สนใจเข้าร่วมการประชุมการท่องเที่ยวอาเซียน 2024 (ATF) กว่า 100 ราย

การประชุมการท่องเที่ยวอาเซียน 2024 (ATF) ซึ่งจะจัดขึ้นที่นครหลวงเวียงจันทน์ ระหว่างวันที่ 22-27 มกราคม 2567 ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนแล้ว 105 คน จาก 8 ประเทศ ตามข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ได้แก่ บรูไน 2 คน ลาว 24 คน มาเลเซีย 30 คน เมียนมาร์ 1 คน สิงคโปร์ 1 คน ไทย 5 คน และเวียดนาม 11 คน ตัวแทนการท่องเที่ยวได้ยื่นขอจัดตั้งบูธแสดงสินค้าเกือบ 90 คูหา โดยมีบูธจัดแสดงสินค้าการท่องเที่ยวลาวประมาณ 22 คูหา นอกจากนี้ กระทรวงคาดว่าประมาณ 108 คนจะเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลมาตรฐานการท่องเที่ยวอาเซียน โดยการประชุมการท่องเที่ยวอาเซียนในปีนี้จะใช้หัวข้อ “การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและความรับผิดชอบ – การรักษาอนาคตของอาเซียน”

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_06_More_y24.php

แขวงเซกอง สปป.ลาว อนุมัติโครงการโรงงานไฟฟ้าพลังน้ำกว่า 50 แห่ง

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ลาวเศรษฐกิจรายวันอ้างคำพูดของผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและการลงทุนแขวงเซกอง ที่กล่าวว่า ขณะนี้มีการวางแผนก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังน้ำ 54 แห่ง และอยู่ระหว่างการลงนามเพื่อเริ่มการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังน้ำ 28 แห่ง แขวงเซกอง ซึ่งอยู่ห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 530 กม. ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 3 แห่ง โดยมีกำลังการผลิตรวม 353 เมกะวัตต์ สามารถผลิตได้มากกว่า 1,383 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี โดยมีประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตนี้ มีจำนวน 18,633 หลังคาเรือน ใน 164 หมู่บ้าน และมีไฟฟ้าใช้ คิดเป็น 83.51% ของบ้านทั้งหมดในเขตนี้ รายงานระบุว่าประชาชนในพื้นที่ชนบทได้รับประโยชน์จากโครงการพัฒนาเหล่านี้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ที่มา: https://english.news.cn/20240109/3b2bd74c9d0a4e10b5f3a8482507d4e7/c.html

ประธานาธิบดี สปป.ลาว ให้คำมั่นว่าจะเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของประเทศให้เป็นอิสระ

นายทองลุน สีสุลิด เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคปฏิวัติประชาชนลาวและประธานาธิบดี สปป.ลาว ให้คำมั่นว่าจะเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของประเทศให้เป็นอิสระและเป็นเจ้าระบบเศรษฐกิจอย่างแท้จริง โดยเขาได้กล่าวในที่ประชุมภาคการเงินทั่วประเทศที่จัดขึ้นที่นครหลวงเวียงจันทน์ว่า “นับจากนี้ไป คณะกรรมการกลางพรรคและกรมการเมือง จะกำหนดนโยบายเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ จากสถานการณ์ที่ต้องพึ่งพาภายนอกอย่างมากในปัจจุบันไปสู่พื้นฐานความเป็นอิสระและความเป็นเจ้าระบบเศรษฐกิจของลาวเอง” ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่า สปป.ลาว จะต้องผลิตทุกอย่างใช้เอง แต่แนวคิดนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าสินค้าของประเทศ โดยหันมาใช้ทรัพยากรภายในประเทศและพื้นที่ที่มีศักยภาพอื่นๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้ชาวลาวมีส่วนร่วมในกระบวนการนี้มากขึ้น การทำการค้าและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างยั่งยืน และเพื่อส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังตลาดโลกในวงกว้าง ทุนจากต่างประเทศ ความรู้ และเทคโนโลยีควรได้รับการส่งเสริมเพื่อนำทรัพยากรไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ในขณะเดียวกันก็ต้องเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์เหล่านี้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_05_President_y24.php

ไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ช่วยขับเคลื่อนตลาดแรงงานข้ามพรมแดนของลาว

เมื่อประชากรไทยมีอายุมากขึ้น แรงงานต่างด้าวก็มีโอกาสงานใหม่ๆ เกิดขึ้น โดยเฉพาะจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการแรงงานข้ามชาติจากบริษัทต่างๆ ในไทยที่เพิ่มขึ้น ประเทศไทยได้ดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าประเทศ เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลไทยได้ขยายเวลาการอยู่ต่อให้กับแรงงานข้ามชาติจากเมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม จนถึงวันที่ 20 มกราคม 2567 ในระหว่างที่แรงงานเหล่านี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการขอใบอนุญาตทำงาน สถานการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญ เมื่อลาวต้องต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ อัตราเงินเฟ้อที่สูง และค่าเงินกีบที่อ่อนค่าลง ภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายทำให้โอกาสในการทำงานในประเทศไทยเป็นที่สนใจมากขึ้นสำหรับแรงงานข้ามชาติชาวลาว

ที่มา: https://laotiantimes.com/2024/01/04/thailands-aging-population-drives-lao-labor-market-across-the-border/

สปป.ลาว-จีน หารือลดเวลาพิธีการศุลกากร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรถไฟ

นายจินดาวงศ์ ไซยาสิน ที่ปรึกษาด้านการศึกษาและวัฒนธรรม สถานทูตลาวประจำประเทศจีน เปิดเผยในการสัมภาษณ์พิเศษกับไชนาเดลี่ว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาวเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อหาวิธีลดเวลาที่ใช้ในการผ่านพิธีการศุลกากรเมื่อเดินทางด้วยรถไฟ โดยมุ่งเน้นไปที่การลดเวลาการผ่านด่านชายแดนจาก 2 ชั่วโมง ให้ลดลงเหลือ 1 ลดระยะเวลาจาก 9 ชั่วโมง 26 นาที เหลือ 8 ชั่วโมง 26 นาที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและฟื้นฟูการค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_04_Railway_y24.php

สปป.ลาว เตรียมประชุมสภาชุมชนสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 31

นางสวนสะหวัน วิกนาเกตุ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สปป.ลาว เผยการเตรียมความพร้อมการประชุมสภาชุมชนสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนครั้งที่ 31 โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของประเทศแก่ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวของอาเซียน การประชุมจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-30 มีนาคม 2567 ที่เมืองหลวงพระบาง หัวข้อการประชุมจะเน้น 3 หัวข้อ ได้แก่ 1) การส่งเสริมบทบาทของวัฒนธรรมและศิลปะในอาเซียน เพื่อทำให้ประเด็นเหล่านี้มีความครอบคลุมและยั่งยืน 2) การอภิปรายเกี่ยวกับความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ 3) มุ่งเน้นไปที่ความก้าวหน้าการส่งเสริมสิทธิสตรีและเด็กในประเทศอาเซียน ทั้งนี้ สปป.ลาว มีแนวคิดที่จะใช้เวทีการประชุมดังกล่าวในการกระชับความร่วมมือ เพื่อปรับปรุงการท่องเที่ยวของลาว สำหรับดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น และในขณะเดียวกันก็เพื่อมีส่วนร่วมมากขึ้นต่อชุมชนท้องถิ่นและเสริมความยั่งยืน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_03_Asean_y24.php

รัฐบาล สปป.ลาว ขึ้นภาษีสรรพสามิตสินค้าฟุ่มเฟือย 6 หมวดสินค้า

นายทองลุน สีสุลิด ประธานาธิบดี สปป.ลาว ได้ลงนามในกฤษฎีกาฉบับใหม่ เพื่อขึ้นภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าฟุ่มเฟือยและไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เพื่อพยายามส่งเสริมการส่งออก และสำรองเงินตราโดยการลดรายจ่าย หลังประสบปัญหาการขาดแคลนเงินตราต่างประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สมาชิกสภาแห่งชาติที่เข้าร่วมการประชุมรัฐสภาครั้งล่าสุด ได้เสนอแนะให้เพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าฟุ่มเฟือยและสินค้าที่ไม่จำเป็น เพื่อกีดกันการนำเข้าและประหยัดรายจ่ายที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ทั้งนี้ คำสั่งประธานาธิบดีทองลุน ได้กำหนดให้มีการขึ้นภาษีสรรพสามิต 18 รายการ ใน 6 หมวดหมู่ ตั้งแต่ยานพาหนะที่ใช้พลังงานฟอสซิลไปจนถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มอื่นๆ ยาสูบ และเครื่องเล่นเกม โดยภาษีสรรพสามิตสำหรับรถ SUV ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,000cc เพิ่มขึ้นจาก 26% เป็น 31% ภายใต้กฎหมายใหม่ซึ่งมีผลบังคับใช้ทันที

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_03_Govt_y24.php

แขวงหลวงน้ำทา หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน 1 ล้านคน ในปี 2567

นายเวียงสะหวัด สีพันดอน เจ้าแขวงหลวงน้ำทา ตั้งเป้าหมายที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนหนึ่งล้านคนในปี 2567 เนื่องจากเป็นพื้นที่ชายแดนที่เชื่อมต่อกับตอนใต้ของจีน และเป็นต้นทางของเส้นทางรถไฟลาว-จีน เจ้าแขวงหลวงน้ำทาได้ขอให้ทางการจีนสิบสองปันนาช่วยส่งเสริมให้ชาวจีนเดินทางมาเยือนลาวมากขึ้น โดยได้กล่าวกับทางการจีนท้องถิ่นว่า “ทางการสิบสองปันนามีแผนจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจาก 15 ล้านคน เป็น 50 ล้านคน ในปี 2567 และผมขอให้ชาวจีนของผมช่วยสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวบางส่วนมาที่ลาว” นอกจากนี้ “หากสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนได้หนึ่งล้านคนในปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวมาเฉลี่ยวันละ 2,700 คน จำนวนนี้ค่อนข้างมาก และหลวงน้ำทามีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมที่จะรองรับผู้มาเยือน” เจ้าแขวงหลวงน้ำทากล่าว

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_02_LuangNamtha_y24.php

การลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษทั่ว สปป.ลาว เติบโตในปี 2566

แม้ สปป.ลาว เผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจในปี 2566 แต่การลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษทั่วประเทศยังเติบโตได้ โดยมีบริษัทประมาณ 178 แห่ง เข้าไปลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) ทั่วประเทศ ทำให้เกิดโอกาสในการทำงานมากกว่า 3,600 ตำแหน่ง การลงทุนประกอบด้วยบริษัทในภาคบริการ 127 แห่ง ภาคอุตสาหกรรม 18 แห่ง ภาคการค้า 30 แห่ง และภาคเกษตรกรรม 3 แห่ง การลงทุนรวมกันมีมูลค่าเป็นเงิน 520 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีทุนจดทะเบียน 178 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ เขตเศรษฐกิจพิเศษยังสนับสนุนให้เกิดร้านค้าและสถานประกอบการกว่า 2,645 แห่ง สร้างรายได้ต่อปีสูงถึง 174 พันล้านกีบ (มากกว่า 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับงบประมาณของรัฐบาล โดยธุรกิจเหล่านี้จ้างคนงาน 3,644 คน แบ่งเป็นแรงงานลาว 3,572 คน และแรงงานต่างด้าว 72 คน

ที่มา: https://laotiantimes.com/2024/01/03/laos-sezs-surge-with-major-investments-fueling-economic-growth-amid-lingering-concerns-for-worker-safety