การประชุมความร่วมมือทางการค้าระหว่างเวียดนาม กัมพูชา

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ณ กรุงพนมเปญ กัมพูชา สำหรับการประชุมส่งเสริมทางการค้า ร่วมหารือแสดงวิสัยทัศน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการค้า และการปกป้องผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของผู้ประกอบการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างผู้ประกอบการเวียดนามกับกัมพูชาให้มีมากยิ่งขึ้น ประกอบกับประเด็นที่น่าสนใจภายในกิจกรรมครั้งนี้ ได้แก่ โอกาสทางการดำเนินธุรกิจ สภาพแวดล้อมทั้งด้านการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เงื่อนไขการเข้าร่วมเขตเศรษฐกิจพิเศษในกัมพูชา ทั้งนี้ จากตัวเลขสถิติทางการค้า ระบุว่าในปีที่แล้ว เวียดนามและกัมพูชา มียอดการค้าอยู่ที่ 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 และในปัจจุบัน เวียดนามมีโครงการลงทุนในกัมพูชา 214 โครงการ ด้วยมูลค่ากว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะเดียวกัน กัมพูชามีโครงการลงทุนในเวียดนาม 21 โครงการ ด้วยมูลค่ากว่า 64 ล้านเหรียญสหรัฐ และอยู่ในอันดับที่ 54 ของต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam–cambodia-business-cooperation-forum-to-boost-trade/164998.vnp

บิ๊กซีเปิดสาขาที่ปอยเปต

Big C Supercentre Poipet แหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในกัมพูชาติดกับชายแดนไทยเปิดตัวยิ่งใหญ่ไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขณะนี้กัมพูชาสามารถเข้าถึงสินค้าประเภทต่างๆ ในราคาไม่แพงและมีคุณภาพได้ง่ายขึ้น บิ๊กซีมีชื่อเสียงว่าเป็นแหล่งชอปปิ้งยอดนิยมสำหรับลูกค้าที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง จำหน่ายสินค้าหลากหลายรวมถึงเครื่องใช้ต่างๆ และอาหาร ศูนย์การค้าตั้งอยู่บนพื้นที่สองไร่ในหมู่บ้านกบาล สเพียน มูลค่าการก่อสร้างทั้งหมด 6.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นครั้งแรกที่เครือซุปเปอร์มาร์เก็ตไทยที่ลงทุนในกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันลงทุนไปแล้วในเวียดนามและสปป.ลาว ด้านผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่านักลงทุนมองเห็นศักยภาพของกัมพูชาว่าเป็นปลายทางของการลงทุน การเปิดตัวครั้งนี้ผู้ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดคือ ปอยเปต กลายเป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญและประชากรมากกว่า 200,000 คนรอบๆ ชายแดน และการเปิดตัวของบิ๊กซีในกัมพูชาสามารถสร้างตำแหน่งงานมากกว่า 1,200

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/50667685/thailands-big-c-opens-outlet-in-poipet/

กัมพูชาขึ้นค่าแรงลูกจ้างราชการอีก 5 เหรียญสหรัฐ ในเดือนหน้า

รัฐบาลได้ออกคำสั่งเพิ่มเงินรายเดือนของเจ้าหน้าที่สัญญาจ้างของรัฐบาลจาก 162.5 เหรียญสหรัฐ เป็น 167.5 เหรียญสหรัฐ เริ่มในเดือนถัดไปหรือปีหน้านั่นเอง ซึ่งการเพิ่มเงินเดือนของข้าราชการหรือข้าราชการตามสัญญาจ้างนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของรัฐบาลและการพิจารณาเงินเฟ้อเป็นหลัก ซึ่งเจ้าหน้าที่สัญญาจ้างสามารถรับผลประโยชน์และสวัสดิการอื่น ๆ ตามที่กระทรวงของตนกำหนด วัตถุประสงค์เพื่อยกระดับค่าครองชีพ ปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 18,000 คนในประเทศ ต.ค. ที่ผ่านมาได้ขึ้นเงินเดือนขั้นต่ำของข้าราชการจาก 275 เหรียญสหรัฐ เป็น 293 เหรียญสหรัฐ สำหรับครูและแพทย์จาก 300 เหรียญสหรัฐ เป็น 318 เหรียญสหรัฐ ซึ่งจะมีผลในปีหน้า สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มียศจ่านายสิบจาก 296 เหรียญสหรัฐ เป็น 314 เหรียญสหรัฐ ด้านสารวัตรทหารจาก 264 เหรียญสหรัฐ เป็น 295 เหรียญสหรัฐ ส่วนเจ้าหน้าที่สัญญาจ้างจะได้รับเงินค่าจ้าง 167 เหรียญสหรัฐ ซึ่งค่าแรงต่ำกว่า 325 เหรียญสหรัฐจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/667608/government-contract-officials-to-get-5-raise-in-wages-next-month/

การประชุมด้านการท่องเที่ยวจากทั่วโลกจะจัดขึ้นในกรุงพนมเปญ

MICE Biz Fair 2020 จะเริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าในกรุงพนมเปญ ซึ่ง MICE หมายถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดประชุมบริษัทข้ามชาติ การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การประชุมนานาชาติ และการจัดนิทรรศการ โดย The Tourism และ MICE Biz Fair 2020 จัดโดย B2B Park Mall และได้รับการรับรองจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชา ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของผู้ให้บริการในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้พวกเขาได้พบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ และที่สำคัญไปกว่านั้นคือการนำผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมมารวมกันเพื่อระดมสมองเกี่ยวกับอุตสาหกรรม โดยงานจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ถึง 3 มีนาคมที่ B2B Park Mall บนถนนฮานอยของกรุงพนมเปญ ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการในท้องถิ่นเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการระหว่างประเทศจากทั่วทุกมุมโลก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50666348/global-tourism-conferences-to-be-held-in-phnom-penh-in-february/

รายได้จากผู้เข้าชมนครวัดในกัมพูชาลดลงอย่างต่อเนื่อง

ผู้เยี่ยมชมอุทยานโบราณคดีอังกอร์ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 11 เดือนแรกของปี ซึ่งเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของกัมพูชา โดยจากรายงานล่าสุดของ Angkor Enterprise ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายนรายได้จากการขายบัตรผ่านประตูลดลง 14% (1.99 ล้านเหรียญสหรัฐ) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งในเดือนพฤศจิกายนมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียง 193,260 คน ที่ซื้อบัตรผ่านประตูซึ่งน้อยกว่าในปี 2561 อยู่ 17% รายได้อยู่ที่ 8.8 ล้านเหรียญสหรัฐลดลง 16% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว โดยกระทรวงการท่องเที่ยวกล่าวว่ามีสาเหตุมาจากการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมายังจังหวัดเสียมเรียบที่เป็นที่ตั้งของวัด ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวจีนอาจลดลงในเสียมเรียบแต่เพิ่มขึ้นในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ โดยเฉพาะสีหนุวิลล์กล่าวโดยโฆษกกระทรวงการท่องเที่ยว ซึ่งกระทรวงยังคงทำงานเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องโดยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมและเสริมสร้างคุณภาพการบริการท่องเที่ยว ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวระบุว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ 4.8 ล้านคนเดินทางไปกัมพูชาในช่วงเก้าเดือนแรกของปี โดยเป็นการปรับขึ้น 10% คิดเป็นคนจีน 38% (1.8 ล้านคน)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50666505/revenue-visitors-at-angkor-temples-down-again/

กัมพูชาเข้าร่วมโครงการความร่วมมือด้านการเกษตรของเวียดนาม

กัมพูชาส่งผู้แทนเข้าร่วมโครงการของเวียดนามที่พยายามกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับภาคเกษตรกรรมของเวียดนามและสปป.ลาว โดยประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตร ผู้เชี่ยวชาญการเกษตรและเกษตรกรเป็นผู้แทนประเทศกัมพูชาในการเข้าร่วมโครงการ นอกจากนี้ บริษัท กัมพูชาที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตรก็มีตัวแทนจาก บริษัท เวียดนามและสปป.ลาวด้วย ซึ่งมีบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์การเกษตรกว่า 225 รายการจากทั้งสามประเทศ ตามรายงานใน Nhan Dan Online โดยผู้เข้าร่วมในโปรแกรมได้แบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการพัฒนาการเกษตร การทำฟาร์มและกิจกรรมในชนบท ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและมิตรภาพระหว่างประชาชนของทั้งสามประเทศในขณะที่ส่งเสริมการสนับสนุนซึ่งกันและกันในหมู่เกษตรกรในการทำธุรกิจและบริโภคสินค้าเกษตร โดยมีรายงานว่าข้อตกลงความร่วมมือหลายประการจัดทำเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้เทคโนโลยี และยังขาดแคลนเทคโนโลยีการเกษตรขั้นสูงในสามประเทศ แต่ข้อจำกัดเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ในไม่ช้าโดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาการเกษตรมากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50665907/cambodia-joins-vietnamese-programme-for-agri-cooperation/

คาราวานส่งเสริมการท่องเที่ยวถึงจุดหมายปลายทางแล้ว

กองคาราวานจำนวน 33 คัน จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวในประเทศจีน สปป.ลาว และกัมพูชาไปถึงจุดหมายปลายทางสุดท้ายแล้ว โดยขบวนเดินทางออกจากคุนหมิงในมณฑลยูนนานของจีนในวันที่ 16 พ.ย. ข้ามสปป.ลาวก่อนมาถึงกัมพูชาในวันที่ 25 พ.ย. ซึ่งขบวนรถข้ามไปยังประเทศกัมพูชาผ่านประตูชายแดนที่จังหวัด Stung Treng จากนั้นเดินทางไปยังพนมเปญ, กันแลนด์และกำปงธมก่อนถึงจุดหมายปลายทางสุดท้ายคือเสียมราฐ โดยจากคุนหมิงถึงเสียมราฐรวมระยะทางประมาณ 6,000 กิโลเมตร ซึ่งชื่ออย่างเป็นทางการของคาราวาน คือ Lancang-Mekong Culture and Tourism Exchange and Historical Cities Caravan Tour from China, Laos and Cambodia. เป้าหมายของขบวนรถคือเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เยี่ยมชมตลอดทางรวมถึงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวภายใต้กรอบความร่วมมือของ Lancang-Mekong Cooperation Framework. โดยขบวนรถดังกล่าวจัดเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการวัฒนธรรมจีน-กัมพูชาปีการท่องเที่ยว 2019

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50665906/tourism-caravan-reaches-final-destination/

กัมพูชาและประเทศแถบลุ่มแม่น้ำโขงร่วมมือด้านการท่องเที่ยว

ประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ได้ตกลงที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวรวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน, เทคนิคการตลาดและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างกัน โดยในระหว่างการประชุมคณะทำงานด้านการท่องเที่ยว GMS ครั้งที่ 44 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเสียมราฐ โดยทั้งหกประเทศที่จัดตั้ง GMS ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้นในแต่ละประเทศ ซึ่งตกลงที่จะปฏิบัติตามกลยุทธ์ (แผนปฏิบัติการร่วม) ในปี 2563-2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ ในกลุ่ม GMS รวมถึงจากประเทศนอกภูมิภาค ซึ่งเป็นแผนที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการลงทุน ความร่วมมือด้านการตลาดและการพัฒนาทุนมนุษย์ของภาค โดยโฆษกกระทรวงการท่องเที่ยว Chuk Chumno กล่าวว่าข้อตกลงนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างประเทศในกลุ่ม GMS ซึ่งจากความร่วมมือภายใน GMS กัมพูชาได้รับการสนับสนุนทางการเงินเพื่อสร้างท่าเรือท่องเที่ยวในกำปอต รวมถึงถนนเลียบชายฝั่งที่เชื่อมต่อระหว่างเวียดนามกัมพูชาและไทย และเส้นทางรถไฟจากประเทศจีน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50665908/mekong-countries-agree-to-strengthen-tourism-cooperation/

บริษัทจีนสนับสนุนการพัฒนาด้านการเกษตรในกัมพูชา

บริษัท เครื่องจักรกลการเกษตร Zoomlion ของจีน ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Zoomlion Heavy Industry Science & Technology Co., Ltd. ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อช่วยให้ภาคการเกษตรของกัมพูชามีความทันสมัยเพิ่มมากขึ้น โดยได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยการส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะตามคำแถลงของ Zoomlion เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ภายใต้ MoU นั้น Zoomlion จะให้บริการโซลูชั่นที่ชาญฉลาดและส่งช่างผู้เชี่ยวชาญมายังกัมพูชาเพื่ออำนวยความสะดวกในการยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรกรรมในท้องถิ่น เป้าหมายของ Zoomlion คือการบรรลุการพัฒนาอย่างยั่งยืนของธุรกิจอุปกรณ์การเกษตรในกัมพูชา ซึ่งความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของ Zoomlion กับกัมพูชาจะเริ่มต้นจากการส่งเสริมการปลูกและผลิตข้าวโพด ภายใต้การใช้เครื่องจักรกลอย่างเต็มรูปแบบรวมถึงการร่วมกันทำการวิจัยเทคโนโลยีการอบแห้งอัจฉริยะ โดย Zoomlion พยายามที่จะนำเสนอเทคโนโลยีการเกษตรที่ชาญฉลาดมากขึ้นผ่านโซลูชั่นเครื่องจักรกลและผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมการเกษตรของกัมพูชามีความทันสมัยในระยะยาว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50665904/chinese-company-to-support-development-of-local-agriculture/

การส่งออกมะม่วงไปเกาหลีใต้ได้รับการอนุมัติ

หลังจากการเจรจาเรื่องข้อกำหนดการส่งออกมาเป็นเวลานาน โดยการส่งออกมะม่วงในประเทศรอบแรกจะถึงเกาหลีใต้ก่อนสิ้นปีตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้ ซึ่งการประชุมระหว่างกันในครั้งนี้ถูกจัดขึ้น ณ การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในเมืองปูซานของเกาหลีใต้ โดยได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านการเกษตร ซึ่งกัมพูชาสามารถเริ่มส่งออกมะม่วงอย่างเป็นทางการไปยังตลาดเกาหลีได้ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวง Veng Sakhon อธิบายว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นผลมาจากความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างประเทศในภาคเกษตรกรรมและขอความช่วยเหลือจากเกาหลีในการปรับปรุงภาคการเกษตรของกัมพูชาให้ทันสมัย ซึ่งผู้บริโภคชาวเกาหลีมีความคาดหวังเป็นอย่างมากสำหรับมะม่วงของกัมพูชา โดยประธานสมาคมกำปงสปือได้ชื่นชมการทำงานของรัฐบาลในการขยายตลาดสำหรับผู้ส่งออกมะม่วง ซึ่งกำปงสปือสามารถผลิตผลไม้ได้ 500,000 ถึง 700,000 ตันต่อปี ราคาต่อกิโลกรัมอยู่ในช่วงตั้งแต่ 0.50 เหรียญสหรัฐ ถึง 0.86 เหรียญสหรัฐ ขึ้นอยู่กับคุณภาพ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50664792/mango-exports-to-south-korea-given-greenlight/