กัมพูชาขอความช่วยเหลือจากญี่ปุ่นในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่

รัฐบาลกัมพูชาได้ขอให้ญี่ปุ่นร่วมช่วยในการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งและงานสาธารณะภายในประเทศในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน ครั้งที่ 25 ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม โดยพูดถึงการลงทุนในภาคการก่อสร้างระบบการขนส่งอัตโนมัติหรือ AGT สำหรับเมืองหลวงของกัมพูชาได้ดำเนินการไปอย่างช้าๆส่วนหนึ่งเป็นเพราะขาดเงินทุนในการก่อสร้างจากนักลงทุนในการดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งระบบ AGT จะช่วยบรรเทาปัญหาจราจรติดขัดภายในเขตเมือง โดยมีต้นทุนในการก่อสร้างอยู่ที่ประมาณ 800 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงรัฐบาลกำลังตั้งสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเพื่อลดความแออัดภายในเขตเมือง ซึ่งสำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ AGT ในขณะที่บริษัทสองแห่งจากจีนกำลังดำเนินโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยวและรถไฟฟ้าใต้ดินภายในกรุงพนมเปญ โดยประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในผู้ให้ความช่วยเหลือกัมพูชาที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งเมื่อปีที่แล้วกัมพูชาได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 135 ล้านเหรียญสหรัฐจากญี่ปุ่นซึ่งอยู่ในรูปของเงินช่วยเหลือและเงินกู้ยืมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50662323/assistance-from-japan-sought-as-kingdom-mulls-new-big-ticket-projects/

ธนาคารโลกเตือนถึงความจำเป็นในการพัฒนาและเพิ่มทักษะแรงงานของกัมพูชา

ธนาคารโลกได้เปิดตัวรายงานใหม่ที่เน้นความสำเร็จของการพัฒนาเศรษฐกิจของกัมพูชา โดยให้คำแนะนำในการปฏิรูปนโยบายที่ครอบคลุมเพื่อรักษาอัตราการเติบโตของประเทศ ซึ่งมีตัวแทนจากกระทรวงพาณิชยกรรม กระทรวงแรงงานและการฝึกอาชีพเข้าร่วม เช่นเดียวกับธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียและผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนมากโดยรายงานแสดงถึงอัตราการมีส่วนร่วมของกำลังแรงงานสูงถึง 80% ของชาวกัมพูชาวัยทำงานทั้งหมด แม้ว่าจะกว่า 94% ของแรงงานทั้งหมดเป็นอาชีพที่มีทักษะค่อนข้างต่ำ ซึ่งผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศกัมพูชากล่าวในการเปิดงานว่าระหว่างปี 2010 และ 2015 มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 12% ต่อปีและหนึ่งในสามของภาคการจ้างงานมาจาก บริษัท ข้ามชาติโดยเน้นถึงความจำเป็นในการปฏิรูปภายในระบบการศึกษาเพื่อให้ตรงกับทักษะกับความต้องการของภาคเอกชน ทั้งระบบการศึกษาแบบดั้งเดิมและระบบการฝึกอบรมวิชาชีพจำเป็นต้องได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ซึ่งภาครัฐฯจะเป็นผู้กำหนดนโยบายและทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชนเพื่อจัดการกับปัญหา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50661464/world-bank-report-warns-of-need-for-diversification-and-skills-development/

BRI ส่งเสริมความสัมพันธ์จีนและกัมพูชา

บริษัทจากมณฑลหูหนานของจีนพบกับบริษัทท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างกัมพูชาและจีน โดยตัวแทนของบริษัทจากมณฑลหูหนานหลายร้อยคนในตอนกลางของจีนได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าการส่งเสริมการลงทุนและเครื่องจักร นำโดยคณะผู้แทนเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนมณฑลหูหนาน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและคมนาคมกล่าวว่างานดังกล่าวเป็นเวทีที่สมบูรณ์แบบในการเชื่อมโยงธุรกิจจากหูหนานกับกัมพูชาเพื่อแบ่งปันข้อมูลและแสวงหาโอกาสในด้านการลงทุน โดย ความสัมพันธ์มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยการเปิดตัวโครงการ Belt and Road ของจีนในปี 2556 โครงการดังกล่าวมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจกัมพูชาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อปีที่แล้วจีนให้เงินกู้ยืมมูลค่า 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐแก่กัมพูชาเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะถนนสะพานและท่าเรือ โดยการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและจีนเมื่อปีที่แล้วมีมูลค่ารวม 6.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50661446/bri-boosting-ties-with-china-hunan-rep-says/

กัมพูชาได้รับการจัดอันดับด้าน “FinTech” เป็นครั้งแรก

กัมพูชาได้รับการยอมรับเป็นครั้งแรกในปี 2019 จากรายงาน Fintech100 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง H2 Ventures และ KPMG โดยทำการประเมินบริษัทฟินเทคทั่วโลกจากการริเริ่มสร้างผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม และการบริการต่างๆ ซึ่งมีเทคโนโลยีเป็นตัวช่วยในการพัฒนา โดยรายงานจาก Fintech100 มีทั้งรางวัล “Top 50” และ “Emerging 50” ซึ่งจุดประสงค์เพื่อจัดอันดับบริษัทจากทั่วโลกในอุตสาหกรรมบริการด้านการเงิน โดยทาง Clik ที่เป็นผู้รวบรวมบริการชำระเงินแบบดิจิทัลตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญเป็นตัวแทนของประเทศกัมพูชาที่ได้รับการจัดอันดับ ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Clik ได้รับการยอมรับในด้านนวัตกรรมการชำระเงินแบบดิจิทัล โดยเมื่อเดือนที่แล้วได้รับการขนานนามว่าเป็น “ Best AI และ Machine Learning Startup” ที่งาน Asean Rice Bowl Startup Awards. โดยตลาดฟินเทคในภูมิภาคเป็นตลาดที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วที่สุดในโลก คาดว่าจะมีมูลค่าถึง 72 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563 ตาม Fintech Outlook ประจำปีของ Frost & Sullivan

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50661022/local-startup-earns-spot-in-fintech-ranking/

รายรับคลังพุ่งเกินเป้าหมายปี 2019 สูงกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้จากการจัดเก็บภาษีศุลกากรและภาษีสรรพสามิตเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้สำหรับปี 2019 ที่เป้าหมาย 700-800 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี เกินจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 400-500 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ซึ่งกว่าครึ่งมาจากการจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ โดยนายกฮุนเซนกล่าวว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้ภาครัฐถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเพื่อที่จะนำรายได้ไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะภายในประเทศ ซึ่งล่าสุดรัฐบาลได้พัฒนาโครงการลงทุนสาธารณะในจังหวัดพระสีหนุและการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในจังหวัดกันดาล โดนในอดีตรถยนต์และรถจักรยานยนต์มีสัดส่วนเพียง 33% ของรายได้ทั้งหมดจากจัดเก็บภาษี แต่ปีนี้ตัวเลขเพิ่มเป็น 52% จากปริมาณการซื้อรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในประเทศ ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน GDT มีรายรับ 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 492 ล้านเหรียญสหรัฐจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรายรับจากกรมศุลกากรและสรรพสามิตเพิ่มขึ้นกว่า 35% สู่ 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50661039/fiscal-revenue-to-surpass-2019-target-by-1-billion-prime-minister/

สีหนุวิลล์จะได้รับการปรับปรุงถนนด้วยงบประมาณ 294 ล้านเหรียญสหรัฐ

https://www.khmertimeskh.com/wp-content/uploads/2019/11/PM-Hun-Sen-drived-buldozere-at-road-the-ground-breaking-ceremony-in-Sihanouk-Ville-1.jpg

          รัฐบาลใช้งบประมาณ 294 ล้านเหรียญสหรัฐในโครงการฟื้นฟูและขยายถนนมากกว่า 30 แห่งในสีหนุวิลล์บนชายฝั่งของประเทศกัมพูชา โดยนายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่าโครงการใหญ่จะปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งมีเป้าหมายสูงสุดในการทำให้เมืองชายฝั่งเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่น่าสนใจ โดยโครงการครอบคลุมถนน 34 สาย (รวม 84 กิโลเมตร), 3 วงเวียนและ 6 สะพาน ซึ่งบริษัทก่อสร้างหลายแห่งจะมีส่วนร่วมในการก่อสร้างและโครงการทั้งหมดจะใช้เวลา 8 เดือนจึงจะเสร็จสมบูรณ์ โดยเมื่อเสร็จสิ้นแล้วสีหนุวิลล์จะกลายเป็นเมืองที่ทันสมัยและน่าดึงดูด เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สองของกัมพูชาอยู่ด้านหลังพนมเปญและหน้าเสียมเรียบ ซึ่งประธานสมาคมผู้ขนส่งสินค้าทางอากาศแห่งกัมพูชากล่าวว่าโครงการจะช่วยบรรเทาปัญหาด้านโลจิสติกส์ในประเทศ โดยเฉพาะมันจะทำให้ง่ายขึ้นสำหรับรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่จะเดินทางไปยังท่าเรือสีหนุวิลล์ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกแห่งเดียวของประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50660723/sville-to-get-294m-road-revamp/

กรุงพนมเปญได้รับรางวัลสนามบินระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดในเอเชียแปซิฟิกโดย CAPA

สนามบินนานาชาติพนมเปญได้รับรางวัลสนามบินระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดของปีในเอเชียแปซิฟิก โดย Center for Asia Pacific Aviation. (CAPA) ซึ่งรางวัลนี้มอบให้ในระหว่างการประชุมสุดยอด CAPA Asia ซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์เป็นการรวมตัวของผู้นำในภาคการบินและการท่องเที่ยว โดย CAPA เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านข้อมูลการตลาดสำหรับอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว ซึ่งกัมพูชาได้รับรางวัลสนามบินระดับภูมิภาคแห่งปีที่มีความโดดเด่นที่สุดในเชิงกลยุทธ์ โดยสนามบินนานาชาติพนมเปญในฐานะที่เป็นสนามบินเล็กๆ สามารถปรับตัวและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างง่ายดาย ซึ่งผู้บริหารของสนามบินกัมพูชากล่าวว่ารางวัลนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความร่วมมือและเกี่ยวข้องของทุกภาคส่วนในรูปแบบบูรณาการ โดยสร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการเติบโตของผู้โดยสารที่แข็งแกร่งจากโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน โดยสนามบินกัมพูชากำลังลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของสนามบินเพื่อรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นและในปีนี้คาดว่าจะมีผู้โดยสารถึง 6 ล้านคน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50660722/phnom-penh-named-best-regional-airport-in-asia-pacific-by-capa/

MoneyGram และ Wing เปิดตัวบริการกระเป๋าเงินบนมือถือใหม่ในกัมพูชา

Money Gram International, Inc. หนึ่งใน บริษัท โอนเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกประกาศเป็นพันธมิตรกับ Wing (กัมพูชา) จำกัด Specialized Bank ผู้ให้บริการธนาคารบนมือถือชั้นนำของประเทศกัมพูชาเพื่อเสนอบริการใหม่ที่จะช่วยให้ลูกค้าได้รับเงินโดยตรงในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของพวกเขา โดยประธานและซีอีโอของ MoneyGram กล่าวว่า 80% ของการทำธุรกรรมออนไลน์ทำบนอุปกรณ์พกพา ซึ่ง Wing อยู่ในระดับแนวหน้าของการให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยอนุญาตให้ผู้ใช้งานส่งเงินข้ามเขตแดนได้อย่างสะดวกและเชื่อถือได้ผ่านแอพพลิเคชั่น Wing Money ซึ่งลูกค้ายังมีตัวเลือกในการจ่ายเงินโดยใช้ช่องจ่ายเงินสด Xpress WING กว่า 7,000 แห่งในกัมพูชา โดยธนาคารแห่งประเทศกัมพูชาระบุว่าเงินที่ส่งกลับเข้ามาในประเทศจากแรงงานข้ามชาติชาวกัมพูชามีมูลค่ารวม 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2561 ตัวเลขดังกล่าวคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากเงินที่ส่งกลับบ้านจากชาวกัมพูชาที่ทำงานในต่างประเทศ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญ

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/50660686/moneygram-and-wing-to-launch-a-new-mobile-wallet-service-in-cambodia/

การทดสอบความผิดปกติของทองคำในดินในมณฑลคีรีให้ผลลัพธ์ที่เป็นบวก

โปรแกรมที่มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบความผิดปกติของทองคำในดินที่ใบอนุญาต Koan Nheak ในจังหวัดมณฑลคีรีให้ผลลัพธ์ที่เป็นบวก โดยบริษัทของแคนาดาถือใบอนุญาตในการสำรวจ แต่โปรแกรมการสำรวจและขุดเจาะที่เกิดขึ้นจริงนั้น ดำเนินการโดย Emerald Resources ผ่านทาง Renaissance Minerals ในเครือกัมพูชา ภายใต้ข้อตกลง Earn-In ที่ชัดเจนเป็นครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน ซึ่งโปรแกรมการฝึกซ้อมมีจุดประสงค์เพื่อทดสอบความผิดปกติของทองคำในดินและความผิดปกติของโพลาไรเซชันที่เกิดขึ้นทางธรณีฟิสิกส์ในอนาคต โดยโปรแกรมการฝึกซ้อมประกอบด้วย 15 หลุม เจาะลงไปที่ความลึกเฉลี่ย 80 เมตร ซึ่งแบ่งเขตควอทซ์เบคคาเรียกับแร่ซัลไฟด์ โดยแต่ละโซนเหล่านี้ยืนยันการมีอยู่ของแร่ทองคำ ซึ่งใบอนุญาต Koan Nheak เป็นหนึ่งในห้าใบอนุญาตสำรวจแร่ครอบคลุม 983 ตารางกิโลเมตรที่ Angkor Resources Corp ถืออยู่ในประเทศกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50660695/gold-in-soil-anomaly-test-in-mondulkiri-yields-positive-results/

ผู้ส่งออกตกลงราคาข้าวเปลือกอินทรีย์ในชุมชนกัมพูชา

ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ในภูมิภาคเอเชียได้ตกลงลงนามซื้อข้าวเปลือกจากชุมชนเกษตรกรรมในพระวิหารบนราคาเดียวกันในฤดูเก็บเกี่ยวครั้งสุดท้ายแม้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ระหว่างประเทศจะลดลงก็ตาม  โดยราคาที่ตกลงกันสำหรับข้าวขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้าวแต่ละชนิด เช่นข้าวขาวปกติจะถูกซื้อในราคา 1,200-1,300 เรียลต่อกิโลกรัม ส่วนราคาของข้าวหอมมะลิถูกตั้งไว้ที่ 1,450-1,650 เรียลต่อกิโลกรัม ซึ่งบริษัทได้เข้าร่วมโครงการทำสัญญากับชุมชนในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการเข้าถึงตลาดให้กับเกษตรกรและช่วยให้พวกเขาเข้าถึงห่วงโซ่อุปทานในท้องถิ่น ซึ่งจะส่งออกข้าวไปยังยุโรปนอกจากนี้ยังมีผู้ซื้อในสหรัฐฯและออสเตรเลีย โดยบริษัทกำลังมองหาซัพพลายเออร์ข้าวอินทรีย์ในจังหวัดบันทายมีชัยและจังหวัดเสียมราฐเพิ่มเติม ซึ่งระบุว่าข้าวอินทรีย์มีปริมาณมากกว่าข้าวธรรมดาทั่วไป 25-30% ในตลาดต่างประเทศ ซึ่งAmru Rice คือผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่รายหนึ่งประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ว่า บริษัท ได้เข้าร่วมโครงการทำสัญญากับเกษตรกรประมาณ 5,000 รายและตั้งเป้าที่จะส่งออกข้าวอินทรีย์กว่า 20,000 ตันไปยังตลาดต่างประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50659140/exporter-communities-agree-price-for-organic-paddy-rice/