“เวียดนาม” เผย ม.ค.-ก.พ. ยอดทุนต่างชาติไหลเข้า 2.55 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 4.9%YoY

กระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนาม (MPI) เปิดเผยว่าการเบิกจ่ายเงินทุนของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในเวียดนามในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 2.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 4.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อีกทั้ง จำนวนเม็ดเงินทุนจากการเบิกจ่ายในอนาคต ลดลง 38% คิดเป็นมูลค่า 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 2 เดือนเช่นเดียวกัน โดยเงินทุนข้างต้นส่วนใหญ่กว่า 70% ลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป ในขณะที่ 12.8% ลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์

ที่มา : https://www.channelnewsasia.com/business/vietnam-jan-feb-fdi-inflows-seen-down-49-y-y-255-billion-planning-ministry-3307936

ทางการกัมพูชาอนุมัติโครงการลงทุนใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 17 ล้านดอลลาร์

สภาเพื่อการพัฒนาแห่งกัมพูชา (CDC) ได้อนุมัติโครงการลงทุนใหม่ 3 โครงการ ด้วยเม็ดเงินลงทุนรวม 17.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งโครงการแรกเป็นของ บริษัท Pengjiao (Cambodia) Industrial Co., Ltd. โครงการถัดไปเป็นชอง บริษัท Zhong Shan Teng Fei (Cambodia) Packaging Material Co., Ltd. และโครงการสุดท้ายเป็นของ บริษัท SSH CB Sustainable Fashion Co., Ltd. โดยทั้งสามบริษัทจะลงทุนสร้างโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าและวัสดุบรรจุภัณฑ์ในจังหวัดตาแก้วและกัมปงสปือ ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นประมาณ 6,480 ตำแหน่ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501244833/three-more-investment-projects-worth-over-17-million-approved/

อุตสาหกรรมประกันภัยในกัมพูชาเติบโตกว่า 10.6% ในปี 2022

อุตสาหกรรมประกันภัยของกัมพูชาเติบโตต่อเนื่อง วัดจากรายรับค่าเบี้ยประกันภัยรวมที่สูงถึง 331.8 ล้านดอลลาร์ในปี 2022 หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 10.6 จากมูลค่า 299.8 ล้านดอลลาร์ ในปีก่อนหน้า รายงานโดย Insurance Regulator of Cambodia (IRC) โดยในรายงานได้ระบุเพิ่มเติมว่าปัจจุบันภายในกัมพูชามีบริษัทประกันวินาศภัย 18 แห่ง, บริษัทประกันชีวิต 14 แห่ง, บริษัทประกันรายย่อย 7 แห่ง และบริษัทรับประกันภัยต่อ 1 แห่ง ซึ่งเบี้ยประกันขั้นต้นของตลาดประกันวินาศภัยในปี 2022 อยู่ที่ 132.3 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปี 2021 ขณะที่เบี้ยประกันชีวิตอยู่ที่มูลค่ารวม 193.8 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.6 และเบี้ยประกันภัยรายย่อยอยู่ที่ 5.7 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 35 โดยเสริมว่าจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนทั้งหมดที่จ่ายโดยบริษัทประกันอยู่ที่ 46.6 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 จาก 45.6 ล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501245448/insurance-industry-in-cambodia-registers-growth-of-10-6-percent-in-2022/

“เวียดนาม” เตรียมเปิด 16 เส้นทางรถไฟ ภายในปี 2573

จากข้อมูลของกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าได้วางแผนที่จะปรับปรุงเส้นทางรถไฟในปี 2564-2573 จำนวน 7 สายที่มีอยู่เดิม รวมระยะทาง 2,440 กิโลเมตร และภายในปี 2593 คาดว่าจำนวนเส้นทางรถไฟสายใหม่ รวมกันทั้งสิ้น 25 สาย (ระยะทาง 6,354 กม.) ทั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงฯ กล่าวว่าโครงข่ายทางรถไฟได้รับการพัฒนาและมีการขยายเส้นทางที่เชื่อมต่อเข้ากับเศรษฐกิจเชิงยุทธศาสตร์และระเบียบเศรษฐกิจ ตลอดจนท่าเรือ ประตูชายแดนและสนามบินทั่วประเทศ โดยการขนส่งทางรถไฟมีข้อได้เปรียบหลายประการ เนื่องจากใช้พื้นที่ไม่มาก ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยและสามารถบรรทุกสินค้าและผู้โดยสารได้จำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีความรวดเร็ว ปลอดภัยและต้นทุนต่ำอีกด้วย

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-to-have-16-more-railway-lines-by-2030-2113787.html

ราคาถั่วดำและถั่วแระ พุ่ง ! จากความต้องการของต่างประเทศที่สูงขึ้น

หอการค้าแห่งภูมิภาคย่างกุ้ง เผย เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ราคาของถั่วแระอยู่ที่ 1,930,000 จัตต่อตัน ในขณะที่ราคาถั่วดำอยู่ที่ 1,762,000 จัตต่อตัน แต่ ณ ปัจจุบัน (25 กุมภาพันธ์ 2566) ความต้องการจากตลาดจีนและอินเดียเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ราคาถั่วแระขยับขึ้นเป็น 2,126,500 จัตต่อตัน ส่วนราคาถั่วดำขยับขึ้นเป็น 1,860,000 จัตต่อตัน โดย 10 เดือนที่ผ่านมาในปีงบประมาณปัจจุบัน 2565-2566 (เดือนเมษายน 2565 ถึง เดือนมกราคม 2566) เมียนมามีรายได้จากการส่งออกถั่วทั้งหมด 1.5 ล้านตัน มีมูลค่ากว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นการส่งอออกถั่วดำ 595,886.762 กิโลกรัม (489.688 ล้านดอลลาร์) และถั่วแระ 185,505.772 กิโลกรัม (144.611 ล้านดอลลาร์) ที่เหลือเป็นถั่วชนิดอื่นๆ โดยถั่วดำและถั่วแระส่วนใหญ่ถูกส่งออกไปยังอินเดียและจีนเป็นหลัก

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/prices-of-black-grams-pigeon-peas-on-upward-trajectory-amid-robust-foreign-demand/#article-title

สปป.ลาว – ไทย ลงนาม MoU ขนส่งผ่านทางรถไฟข้ามชายแดน

เมื่อวันที่ 23 ก.พ.2566 ที่ผ่านมา การรถไฟแห่งชาติ สปป.ลาว (LNR) ได้ลงนาม MoU ด้านการขนส่งทางรถไฟข้ามชายแดน ไทย-ลาว-จีน กับ บริษัท เก้าเจริญ เทรน ทรานสปอร์ต จำกัด จากประเทศไทยซึ่งได้รับอนุญาตจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้สามารถขนส่งสินค้าทางรถไฟผ่านชายแดนไทย-สปป.ลาว-จีน ได้ ซึ่งภายใต้ MoU นี้ LNR จะเป็นผู้ประสานงานและทำการจองขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าจาก รฟท. เพื่อให้ บจก.เก้าเจริญ เทรน ทรานสปอร์ต ใช้ในการขนส่งทางรางข้ามชายแดน ทั้งนี้ บจก.เก้าเจริญ เทรน ทรานสปอร์ต จะต้องปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับของ รฟท. อย่างเคร่งครัด และต้องรายงานข้อมูลการส่งสินค้าให้กับ LNR ทราบล่วงหน้าก่อน 15 วัน

ที่มา: https://kpl.gov.la/En/detail.aspx?id=71651

กรอ. ดัน 6.9หมื่นโรงงาน รุกเซอร์คูลาร์-กรีน ขยะเป็นศูนย์ หนุนสินค้าลดคาร์บอน

นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) เปิดเผยว่า เพื่อสนับสนุนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจบีซีจี หรือ โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน 3 ด้านหลัก คือ เศรษฐกิจชีวภาพ (ไบโอ อีโคโนมี) เศรษฐกิจหมุนเวียน (เซอร์คูล่าร์ อีโคโนมี) และเศรษฐกิจสีเขียว (กรีน อีโคโนมี) กรอ.จะเร่งส่งให้โรงงานทั่วประเทศ 6.9 หมื่นโรงงาน มุ่งสู่บีซีจี โดยในส่วนของโรงงานเดินหน้า 2 ด้านหลักได้ทันที คือ เซอร์คูล่าร์ อีโคโนมี ลดของเสียในโรงงานให้เป็นศูนย์ และอีกด้านคือ กรีน อีโคโนมี เน้นอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชน ผลิตภัณฑ์ที่ได้ต้องรักษาสิ่งแวดล้อม ลดคาร์บอน จะมีการกำหนดกรีนจีดีพีขึ้นมาโดยวัดจากการปล่อยคาร์บอนของสินค้านั้นเป็นหลัก เพื่อรับการแข่งขันของโลก

ล่าสุด ได้หารือร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เพื่อหาแนวทางการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเพิ่มมูลค่าและนำกากอุตสาหกรรมไปใช้ประโยชน์เป็นวัสดุหมุนเวียน ตามกรอบแนวคิดการสิ้นสุดการเป็นของเสีย นำไปสู่การพัฒนาความร่วมมือเพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำกากอุตสาหกรรมไปใช้ประโยชน์ ตามนโยบาย บีซีจีของกระทรวงอุตสาหกรรม

ที่มา: https://www.matichon.co.th/economy/news_3843252

“เวียดนาม” เผย ก.พ. 66 ยอดการค้าระหว่างประเทศ พุ่ง 72 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงกลางเดือน ก.พ. 2566 ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของเวียดนาม อยู่ที่ 72 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และการส่งออกที่ 37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เวียดนามเกินดุลการค้าราว 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ จำนวนสินค้าส่งออก 4 รายการที่ทำรายได้เกินกว่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน เครื่องจักรและอะไหล่ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ในขณะเดียวกัน สินค้านำเข้า 2 รายการที่ทำรายได้เกินกว่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐ  ได้แก่ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน เครื่องจักรและอะไหล่ นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาข้อมูลในปี 2565 พบว่ายอดการค้าระหว่างประเทศของเวียดนาม มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 730.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-trade-value-reaches-72-bln-usd-by-mid-february/248814.vnp

“การบินเวียดนาม” ต้อนรับผู้โดยสารพุ่ง 90% ช่วง ม.ค.-ก.พ.

สำนักงานการบินพลเรือนเวียดนาม (CAAV) ส่งรายงานถึงกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับข้อมูลการขนส่งในปีนี้ ทั้งจำนวนเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และตามรายงานแสดงให้เห็นถึงจำนวนเที่ยวบินตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 78,800 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 62% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รวมถึงผู้โดยสารที่เดินทางมายังสนามบินท้องถิ่น มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 19.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 91.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยแบ่งออกเป็นผู้โดยสารต่างประเทศ 4.7 ล้านคน และผู้โดยสารในประเทศ 14.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.95% และ 48% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามลำดับ

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/air-passengers-soar-over-90-in-jan-feb/

MNA พร้อมให้บริการเที่ยวบินตรงจาก มัณฑะเลย์-เชียงใหม่ เริ่ม 2 มี.ค.66 นี้

สายการบินแห่งชาติเมียนมา (MNA) พร้อมให้บริการเที่ยวบินตามปกติจากมัณฑะเลย์ไปเชียงใหม่ โดยทำการบินทุกวันพฤหัสบดี เริ่มวันที่ 2 มีนาคม 2566 นี้ ซึ่งเที่ยวบินจะออกจากท่าอากาศยานนานาชาติมัณฑะเลย์ เวลา 15.45 น. และถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ เวลา 17.35 น. (ตามเวลาท้องถิ่นในประเทศไทย) และจะออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ เวลา 18:35 น. และถึงท่าอากาศยานนานาชาติมัณฑะเลย์ เวลา 19:25 น. ทั้งนี้ MNA จะจำหน่ายราคาตั๋วเครื่องบินเที่ยวเดียวอยู่ที่ 172 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนราคาตั๋วเครื่องบินไป-กลับ อยู่ที่ 280 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/mna-to-launch-mandalay-chiang-mai-direct-flight-on-2-march/#article-title