ด้วยความช่วยเหลือจากหัวเว่ย 5G ในกัมพูชาจะเปิดตัวตามแผนที่วางไว้

บริษัท โทรคมนาคมรายใหญ่ของกัมพูชากำลังพัฒนาเครือข่าย 5G ตามแผนที่วางไว้โดยความช่วยเหลือของ บริษัท หัวเว่ย ของจีน โดยจะใช้เทคโนโลยีของจีนที่จัดทำโดย Huawei, Metfone, Cellcard และ Smart Axiata ซึ่งในเดือนเมษายนที่ผ่านมา Huawei ได้ทำข้อตกลงกับกระทรวงโทรคมนาคมของกัมพูชาเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 5G โดย โทมัสฮันต์ซีอีโอของ Smart Axiata กล่าวในระหว่างงานว่าภารกิจของ บริษัท คือการเพิ่มคุณภาพชีวิตของชาวกัมพูชานับล้านผ่าน-เครือข่ายระดับโลกและประสบการณ์ดิจิทัลที่ยอดเยี่ยม ซึ่งจะลงทุนถึง 70-80 ล้านเหรียญในทุกปีโดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายเพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อบรอดแบนด์มือถือทั่วกัมพูชาและจะปรับปรุงบริการ 4.5G ที่มีอยู่เพื่อเตรียมพร้อมเทคโนโลยี 5G

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50641998/with-huaweis-help-5g-in-cambodia-rolling-out-as-planned/

โควตาการนำเข้าข้าวของจีนจากกัมพูชา

สหพันธ์ข้าวกัมพูชามั่นใจว่ากัมพูชาจะส่งออกข้าวสารในตลาดจีนได้ถึงโควตา โดยสมาคมดังกล่าวได้รับการยืนยันจากการเยี่ยมชมของ COFCO ผู้แปรรูปอาหารรายใหญ่ที่สุดของจีน ซึ่งกัมพูชาไม่สามารถส่งได้ตามโควตาในปีที่แล้วโดยมีการส่งออกจากกัมพูชาเพียง 170,000 ตัน จากโควตา 300,000 ตัน โดยประธาน CRF กล่าวว่าสมาคมกำลังมุ่งเน้นการขยายการส่งออกไปยังประเทศจีนและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเพื่อลดการพึ่งพาสหภาพยุโรป ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 การส่งออกข้าวสารของกัมพูชาเพิ่มขึ้น 3.7% เป็น 281,538 ตัน การจัดส่งไปยังประเทศจีนคิดเป็น 42% ของการส่งออกทั้งหมดประมาณ 118,400 ตัน แต่อย่างไรก็ตามในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาการส่งออกข้าวสารจากกัมพูชาไปยังสหภาพยุโรปลดลงเกือบ 50% ตามข้อมูลของ CRF การลดลงนี้เป็นผลมาจากการเก็บภาษีศุลกากรจากกลุ่มที่กำหนดไว้สำหรับข้าวในกัมพูชาเมื่อต้นปีนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50641689/chinas-rice-import-quota-to-be-met-crf/

กระทรวงฯส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวของกัมพูชาในเวียดนาม

กระทรวงการท่องเที่ยวส่งเสริมให้ประเทศกัมพูชาเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยว โดยระหว่างงาน International Travel Expo ครั้งที่ 15 ณ นครโฮจิมินห์ของเวียดนามได้หารือร่วมกันเพื่อส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวภายใต้สโลแกน “สองมณฑลหนึ่งปลายทาง” ซึ่งกัมพูชาและเวียดนามได้ตกลงร่วมมือกันในการท่องเที่ยวทางทะเลเมื่อท่าเรือใหม่ในจังหวัดกัมปอตเสร็จสิ้น โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2564 ซึ่งความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวทางทะเลเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยกัมพูชาตั้งเป้าที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามปีละ 1 ล้านคนขณะที่เวียดนามคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาอยู่ที่ 5 แสนคน ซึ่งต้องการสร้างผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวใหม่และพัฒนาจุดหมายปลายทางที่มีอยู่เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเมื่อปีที่แล้วกัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ 6.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในจำนวนนี้มีประมาณ 8 แสนคนเป็นนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50641198/ministry-promotes-kingdoms-tourism-market-in-vietnam/

การส่งเสริมการค้าระหว่างกัมพูชาและซาอุดิอาระเบีย

กัมพูชาและซาอุดิอาระเบียตกลงที่จะลงนามข้อตกลงที่สำคัญเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน โดยลงนามในข้อตกลงว่าด้วยการคุ้มครองการค้าและการลงทุน ซึ่งเอกอัครราชทูตกัมพูชากระตุ้นให้ บริษัทของซาอุดิอาระเบีย ให้พิจารณาการลงทุนในประเทศกัมพูชา โดยอธิบายว่ากัมพูชามีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวในรูปแบบอื่นๆอีกมาก ซึ่งในการประชุมซาอุดิอาระเบียแสดงความสนใจในการนำเข้าสินค้าเกษตรจากกัมพูชาโดยเฉพาะข้าวสาร, มันสำปะหลัง, ยางพาราและพริกไทย โดยกระทรวงการค้ากล่าวว่าระหว่างกัมพูชาและซาอุดิอาระเบียมีมูลค่าการค้าถึง 12.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2561 คาดว่าเมื่อข้อตกลงทางการค้าและการลงทุนมีผลบังคับใช้แล้ว จะทำให้การค้าระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/641197/cambodia-saudi-arabia-to-boost-trade/

Prime Road Alternative ได้รับสิทธิ์ในการสร้างโรงการโซล่าฟาร์ม

บริษัท Prime Road Alternative จำกัด ได้รับสิทธิ์ในการก่อสร้างโครงการโซลาร์ฟาร์มขนาด 60 เมกะวัตต์ ในการประมูลตามที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เปิดเผย แสดงให้เห็นว่าการประมูลซึ่งดำเนินการโดย Electricite du Cambodge (EdC) สิ้นสุดลงด้วยการเสนอราคาต่ำสุดของ Prime Road Alternative $ 0.3877 ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง โดยโครงการซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก ADB นั้นได้ดึงผู้เข้าร่วมประมูลถึง 26 รายรวมถึงบริษัทระดับโลกหลายแห่ง ซึ่งเป็นการพัฒนาพลังงานทดแทนในกัมพูชาและภูมิภาคโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศในการเพิ่มการเข้าถึงแหล่งพลังงานราคาไม่แพงและเชื่อถือได้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนรูปแบบอื่นๆ ของ ADB สำหรับภาคพลังงานของกัมพูชา คือการจัดหาเงินทุน ร่วมวางแผนพัฒนาด้านพลังงานในกัมพูชา และการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนช่วยในการพัฒนา

ที่มา : https://www.phnompenhpost.com/business/prime-road-alternative-wins-rights-60mw-solar-farm

กัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพงานแสดงสินค้าสิ่งทอและเครื่องแต่งกายในอาเซียน

กัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มภายในเดือนหน้า ที่กรุงพนมเปญในวันที่ 28-29 คุลาคม จะจัดขึ้นโดย SZ & W Group โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างโอกาสแก่พันธมิตรในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม และเป็นการสร้างความมั่นใจในการเติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการแบ่งปันแนวคิดที่ดีเพื่อเร่งการเติบโตและพัฒนาอุตสาหกรรม ซึ่งผู้จัดงานได้เชิญผู้นำในอุตสาหกรรมและผู้เชี่ยวชาญจากทั่วทุกมุมโลกมาพูดในงานเพื่อเป็นการถ่ายทอดความรู้ โดยผู้จัดงานคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 100-500 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐและตัวแทนจาก บริษัท ในอินเดีย เมียนมา เวียดนามจีนและประเทศอื่นๆ และผู้เข้าร่วมอีกกว่า 10-50 คนที่คาดว่าจะจัดแสดงผลิตภัณฑ์และบริการของพวกเขาในงาน โดยในประเทศกัมพูชาอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเป็นภาคเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุด ซึ่งอุตสาหกรรมมีสัดส่วนมากกว่า 40% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และมีพนักงานมากกว่า 800,000 คน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50641199/cambodia-to-host-southeast-asia-textile-and-apparel-expo/

กัมพูชาเรียกร้องให้บริษัทจีนลงทุนในที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยา

โดยเทศบาลเมืองพนมเปญได้ขอให้กลุ่มนักธุรกิจชาวจีนลงทุนในโครงการบ้านราคาย่อมเยา ซึ่งกำหนดเป้าหมายไปที่ข้าราชการและผู้มีรายได้น้อย โดยโครงการดังกล่าวจะได้รับการสนับสนุนจากศาลากลางจังหวัด ซึ่งโครงการที่อยู่อาศัยดังกล่าวจะตั้งอยู่ในเขตชานเมืองของกรุงพนมเปญ ห่างจากตัวเมือง 45-60 นาที โดยหากสมาคมธุรกิจจีนตกลงที่จะลงทุน เทศบาลเมืองพนมเปญจะขอให้รัฐบาลช่วยเหลือผู้ลงทุนโดยจะนำเข้าวัสดุโดยไม่เสียภาษี ซึ่งที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และดึงดูดความสนใจมากขึ้นเพราะสามารถซื้อได้ในราคาที่ต่ำกว่า 30,000 เหรียญสหรัฐ โดยในปี 2559 บริษัท WorldBridge Land เริ่มก่อสร้างโครงการบ้านจัดสรรสาธารณะแห่งแรกในกัมพูชาตั้งอยู่บนพื้นที่ 45 เฮกตาร์ในเขต Saang ของ Kandal ซึ่งทำการขายไปได้แล้วกว่า 2,300 ยูนิต หรือคิดเป็นกว่า 60%

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50640179/chinese-firms-urged-to-invest-in-affordable-housing/

แบงก์ชาติกัมพูชาผลักดันการใช้เงินเรียลในท้องถิ่น

แบงก์ชาติกัมพูชารณรงค์ส่งเสริมให้แลกเปลี่ยนเงินเรียลที่มีสภาพเก่าหรือชำรุดตั้งแต่ปลายเดือนนี้ โดยกระตุ้นให้ผู้คนเริ่มแลกธนบัตรที่เก่าหรือชำรุดมาเป็นธนบัตรใหม่ได้ทุกธนาคารตลอดทั้งปี ซึ่งเกิดจากธนบัตรหมุนเวียนในระบบของกัมพูชาที่มีการใช้งานมาเป็นเวลานาน จึงเกิดการชำรุดหรือมีสภาพที่ค่อนข้างเก่า จึงส่งผลทำให้ผู้ค้าบางรายเลือกที่จะปฏิเสธเงินเหล่านั้น แล้วหันมาใช้เงินสกุลอื่นแทนทำให้การใช้เงินสกุลเรียลลดน้อยลง โดยทั้งรองประทานสมาคมไมโครไฟแนนซ์ และประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ในกรุงพนมเปญ กล่าวว่าการรณรงค์ในครั้งนี้จะสร้างความมั่นใจให้ผู้ที่ใช้สกุลเงินเรียลให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้คนส่วนใหญ่เริ่มหันกลับมาใช้สกุลเงินเรียลหรือเงินสกุลท้องถิ่นดังเดิม โดยแบงก์ชาติกัมพูชาอนุญาตให้นำเงินที่ชำรุดหรือธนบัตรเก่ามาแลกเป็นธนบัตรใหม่ได้ ความหมายคือเงินเหล่านั้นจะไม่สูญเปล่า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50640354/nbc-to-push-for-local-currency-use/

การเพิ่มขึ้นของสัญญาระหว่างเกษตรกรและผู้ค้าในกัมพูชา

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่ารูปแบบการทำสัญญาที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งช่วยเพิ่มผลผลิตและการเข้าถึงตลาดให้กับเกษตรกร โดยกระทรวงต่างประเทศประกาศว่าระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคมมีการทำสัญญาโครงการของเกษตรกรรมรวม 91 โครงการ ทั้งภาคการผลิต ข้าว, อ้อย และปศุสัตว์ ซึ่งมีเกษตรกรรายย่อยเข้าร่วมถึง 7,897 ราย ร่วมทำสัญญาทั่วประเทศ โดยในการทำสัญญาผู้ซื้อจะลงนามในข้อตกลงกับเกษตรกรสำหรับการผลิตและการส่งมอบพืชผลที่จะส่งมอบในอนาคต ซึ่งจะกำหนดปริมาณคุณภาพและราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยรัฐบาลกัมพูชามองว่าการทำสัญญาเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มผลิตภาพ ในขณะที่เอื้อประโยชน์ต่อคนทุกฝ่าย ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงเกษตรกรกับ บริษัท ต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ผลิตข้าวที่เป็นสมาชิกสหพันธ์ข้าวของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50639917/contract-farming-schemes-rising-ministry/

กัมพูชาติดอันดับหนึ่งในห้าผู้ส่งออกข้าวอินทรีย์ไปยังสหภาพยุโรป

ความต้องการข้าวอินทรีย์ในสหภาพยุโรปและตลาดสำคัญอื่นๆ เช่นสหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย และจีนพุ่งสูงขึ้นเนื่องจากผู้บริโภคมีความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมและใส่ใจสุขภาพมากขึ้น จากตัวเลขของสหพันธ์ข้าวกัมพูชา รายงานว่าการส่งออกข้าวอินทรีย์ของกัมพูชาอยู่ที่ 8,467 ตัน ไปยังสหภาพยุโรปคิดเป็น 3.9% ของการนำเข้าข้าวอินทรีย์ทั้งหมด โดยสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ส่งออกข้าวอินทรีย์รายใหญ่ที่สุดไปยังสหภาพยุโรปคิดเป็นเกือบ 70% ของตลาดทั้งหมด ตามด้วยปากีสถาน 10% และอินเดีย 9% ซึ่งประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 4 โดยมีการส่งออกอยู่ที่ 4.9% ของตลาด (10,522 ตันในการส่งออก) กว่าประมาณ 90% ของการส่งออกข้าวอินทรีย์ทั้งหมดของกัมพูชาเมื่อปีที่แล้วมาจาก Amru Rice Cambodian ซึ่งเมื่อปีที่แล้วกัมพูชาส่งออกข้าว 626,225 ตัน ลดลง 1.5% เมื่อเทียบกับปี 2560 โดยตลาดที่ใหญ่ที่สุดในการส่งออกข้าวของกัมพูชาคือสหภาพยุโรป คิดเป็นเกือบ 270,000 ตัน คิดเป็น 42.9%

ที่มา:https://www.khmertimeskh.com/50639919/cambodia-among-top-five-exporters-of-organic-rice-to-the-eu/