เวียดนามจัดงานแสดงสินค้าในเมียนมา

งานแสดงส่งเสริมสินค้านานาขาติเวียดนามประจำปี 2562 “Vietnam Expo 2019” จัดขึ้นในกรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ระหว่างวันที่ 19-22 ธันวาคม มีคณะธุรกิจเวียดนามกว่า 80 รายและซุ้มแสดงส่งเสริมสินค้า 120 บูธ โดยมีการแสดงสินค้าที่หลากหลาย ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องจักร สินค้าอุปโภคบริโภค และการให้บริการของธนาคาร เป็นต้น สำหรับวัตถุประสงค์ภายในกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อผลักดันความร่วมมือทางด้านธุรกิจและส่งเสริมแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก รวมไปถึงขยายระบบการกระจายสินค้าและเรียนรู้เกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจ การลงทุนในประเทศคู่ค้า ทั้งนี้ เวียดนามเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในเมียนมา อยู่ในอันดับที่ 7 และมีมูลค่าการค้าระหว่างประเทศราว 860 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2561 ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 1.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2562

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/8246402-vietnamese-products-promoted-in-myanmar.html

เกาหลีใต้จัดตั้งกองทุน 860 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเวียดนาม

สำนักงานเงินบำนาญแห่งชาติเกาหลี (National Pension Service) พึ่งเปิดตัวกองทุนหุ้นส่วนของกลุ่มบริษัท SK Group เกาหลีใต้ ทำให้สามารถเพิ่มเงินทุนในกลุ่มบริษัท Masan Group และ Vingroup ของเวียดนาม ซึ่งการเป็นหุ้นส่วนดังกล่าวนั้น จะทำให้บริษัท SK Group สามารถร่วมทุนกับบริษัทเวียดนามในสาขาธุรกิจใหม่และการดำเนินธุรกิจที่ดีที่สุด ผ่านการควบรวมและการซื้อกิจการในบริษัท Masan และ Vingroup โดยในช่วงเดือน พ.ค. กลุ่มบริษัท SK Group ได้ลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อหุ้นในกลุ่มบริษัทเวียดนามข้างต้น นอกจากนี้ นโยบายใหม่ของรัฐบาลเกาหลีใต้ ระบุว่าอาเซียนและเวียดนามถือเป็นจุดมุ่งหมายของการลงทุนที่สำคัญที่สุด สำหรับสาขาธุรกิจที่นักลงทุนเกาหลีใต้ส่วนใหญ่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีก การเงินและอุตสาหกรรมพลังงานสีเขียว ในส่วนของอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร ต้องการเงินทุนจากผู้ประกอบการเกาหลีอยู่ในปัจจุบัน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/rok-group-sets-up-860-mln-usd-investment-fund-for-vietnam/165908.vnp

เวียดนามคาดว่ายอดการส่งออกสินค้าป่าไม้ 11.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2562

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าภาคป่าไม้ของเวียดนามยังคงเติบโตสูงถึง 5% ในปีนี้ มีมูลค่าการส่งออก 11.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ด้วยอัตราการส่งออกอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้เวียดนามเกินดุลการค้า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำให้ภาคการเกษตรขยายตัว โดยตลาดส่งออกสำคัญของผลิตภัณฑ์ไม้เวียดนาม ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน สหภาพยุโรป และเกาหลีใต้ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรวมกัน 80% ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้ทั้งหมด ทั้งนี้ มีจำนวนผู้ประกอบการแปรรูปไม้กว่า 4,500 ราย และสถานประกอบการในประเทศมีอยู่มากกว่า 1,800 แห่ง นอกจากนี้ ภาคการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI), อุตสาหกรรมไม้แปรรูปได้พัฒนาในลักษณะของโครงการขนาดใหญ่และมีการส่งเสริมเทคโนโลยีให้ทันสมัยมากขึ้น ขณะที่ ผลิตภัณฑ์แปรรูปไม้นั้นมีรูปแบบและชนิดหลากหลายขึ้น ทำให้ได้รับมาตรฐานในการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/forestry-exports-expected-to-beat-us113-billion-during-2019-407762.vov

จัดเก็บภาษีเพิ่มสูงขึ้น จากผลกระทบของการค้าเสรี

จากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าจากการลงนามและการดำเนินงานตามข้อตกลงการค้าเสรีนั้น จะมีการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นของเวียดนามในปีนี้ ซึ่งมูลค่าการจัดเก็บภาษีทั้งหมดอยู่ที่ 335.6 ล้านล้านดง (14.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 11.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และยังคงสูงกว่าที่กระทรวงการคลังตั้งเป้าไว้ ผลกระทบของการค้าเสรี จะขยายไปในทิศทางที่เป็นบวกทั้งการค้าและการลงทุนของเวียดนาม สำหรับงานแถลงข่าวในวันพุธที่ผ่านมา ระบุว่าข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม เกาหลีใต้ (RoK) และ ASEAN ในเรื่องข้อตกลงหุ้นส่วนทางการค้า CPTPP ส่งผลเกิดการพัฒนาของธุรกิจเวียดนามและสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกทางการค้าดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ มูลค่าการจัดเก็บภาษีส่งออก-นำเข้า อยู่ที่ 105.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 7.97% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ รถยนต์และน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ทางสำนักงานศุลกากรเวียดนามได้ปราบปรามการลักลอบการนำเข้าและการทุจริตทางการค้า

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/570061/free-trade-agreements-increase-tax-collection.html

จังหวัดบิ่นห์เยือง ดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติมากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากข้อมูลของคณะกรรมการประชาชนประจำจังหวัด (Provincial People’s Committee) เปิดเผยว่าจังหวัดบิ่นห์เยืองได้ดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) มากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งขยายตัวร้อยละ 49 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ประกอบกับจังหวัดดังกล่าวอยู่ในอันดับที่ 2 ของเป้าหมายการลงทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะการลงทุนขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ บิ่นห์เยืองได้ดำเนินการตั้งโครงการ FDI ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะใช้แรงงานน้อยลง พร้อมกับสร้างมูลค่าสูงขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/binh-duong-lures-over-3-billion-usd-in-foreign-investment/165675.vnp

เวียดนามยังคงเป็นจุดมุ่งหมายในการลงทุนข้ามพรมแดน

จากการสำรวจของบริษัท PwC เปิดเผยถึงผลสำรวจนักธุรกิจชั้นนำกว่า 1,000 คน ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจการประกอบธุรกิจข้ามพรมแดนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี 2562-2563 (Doing business across borders in Asia Pacific 2019-2020) โดยผลของการสำรวจในครั้งนี้ พบว่าบริษัทเวียดนามมีรายได้เพิ่มขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และกลุ่มธุรกิจมีแนวโน้มทิศทางเป็นบวกมากกว่าธุรกิจในภูมิภาคความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 34 ของธุรกิจที่อื่นๆทำรายได้ในระดับสูงได้ โดย 4 ใน 5 ของนักธุรกิจชั้นนำของเวียดนาม ระบุว่าได้วางแผนในการเพิ่มเงินทุนด้านระบบควบคุมอัตโนมัติและทักษะแรงงาน ขณะที่ ผู้ประกอบการร้อยละ 80 มองว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี คือกุญแจสำคัญที่จะประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ นักธุรกิจเวียดนามส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มเงินลงทุนในประเทศในอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ เป็นต้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnam-remains-a-top-destination-for-crossborder-investment-407715.vov

เวียดนามเผยยอดส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไปยังจีนพุ่งสูงขึ้น

เวียดนามส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไปยังจีนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าสินค้าเกษตรหลายรายการของเวียดนามจะขนส่งไปยังตลาดใกล้เคียง ปัจจุบันเวียดนามเผชิญกับความท้าทายในการส่งออกสินค้าไปยังจีน เนื่องมาจากการเข็มงวดของคุณภาพสินค้าและการค้าข้ามพรมแดน อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม ระบุว่าปริมาณส่งออกเม็ดม่วงหิมพานต์ไปยังจีนเพิ่มสูงขึ้นกว่า 58,100 ตัน คิดเป็นมูลค่า 447.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ที่มีการเพิ่มขึ้นทั้งในด้านปริมาณและมูลค่า ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกา จีน และเนเธอร์แลนด์ เป็นผู้นำเข้าเม็ดมะม่วงหิมพานต์รายใหญ่ของเวียดนาม ซึ่งจีนยังคงเป็นผู้นำเข้าสินค้าเกษตรรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 26.9 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด รองลงมาสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป อาเซียน และญี่ปุ่น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/cashew-nut-exports-to-china-rise-sharply-407644.vov

อุตสาหกรรมนมโคเวียดนาม มีอัตราการเติบโต 10% ต่อปี

ตามข้อมูลของสมาคมนมโคเวียดนาม คาดว่าอุตสาหกรรมนมเวียดนามจะมีอัตราการเติบโตร้อยละ 9-10 ในปีหน้า และปริมาณการบริโภคนมของคนเวียดนามต่อหัวจะเพิ่มขึ้นเป็น 28 ลิตร ภายในปี 2563 โดยการขยายตัวของอุตสาหกรรมดังกล่าวนั้น เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้และการพัฒนาระบบโซ่อุปทานที่ทันสมัย และการเพิ่มขึ้นของประชากรในวัยหนุ่มสาวและชนชั้นกลางในเขตพื้นที่เมือง อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์นมที่บริโภคส่วนใหญ่จะอยู่ในลักษณะนมเหลว นมผง โยเกิร์ต และนมข้นหวาน เป็นต้น ขณะที่ การบริโภคผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้แก่ ชีส และเนยไขมันต่ำ เป็นต้น ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์หลัก 2 กลุ่มของตลาดนมภายในประเทศ คือ นมเหลวและนมผง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 3 ใน 4 ของมูลค่าตลาดทั้งหมด ด้วยการผลิตนมโคสด 1.5 ล้านลิตร และปริมาณการผลิตนมผง 138,000 ตัน นอกจากนี้ อุตสาหกรรมนมในประเทศมีการขยายตัวได้ดี ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยธุรกิจได้มีการปรับปรุงเครื่องมือการผลิตและสิ่งอำนวยความสะดวก รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาคุณภาพการผลิตนมและผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnamese-dairy-industry-to-gain-annual-growth-rate-of-10-per-cent-407656.vov

รัฐบาลเวียดนามยังคงสนับสนุนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง

จากคำแถลงการณ์ในที่ประชุมผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมของรองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดในประเทศ ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เปิดเผยว่ากองทุนเสถียรภาพราคาเชื้อเพลิง ช่วยให้รัฐบาลกลางเวียดนามสามารถบริหารราคาเชื้อเพลิงในประเทศได้ สำหรับอนาคตเร็วๆนี้ โดยผู้ค้าน้ำมันและกลุ่มบริษัทขนส่งได้โต้แย้งถึงกองทุนว่าการบริหารกองทุนนั้น จะต้องคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นส่วนสำคัญที่สุดและการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง จะไม่ส่งผลประโยชน์หรือได้รับประโยชน์ที่น้อยมากทั้งผู้ค้าและผู้บริโภค รวมไปถึงจะสร้างช่องว่างระหว่างราคาเชื้อเพลิงในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการฉ้อโกงและการลักลอบขนส่งข้ามพรมแดน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงใช้กองทุนเป็นเครื่องมือในการบริหารราคาน้ำมันในประเทศ เพื่อให้สามารถควบคุมเงินเฟ้อและสร้างความมั่งคงทางเศรษฐกิจมหภาค นอกจากนี้ ตามรายงานของกระทรวง ระบุว่ากองทุนดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายราว 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาเชื้อเพลิง ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2562

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/state-to-continue-support-for-fuel-price-fund-407614.vov

ภาคอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มของเวียดนาม มียอดเกินดุลการค้า 16.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามรายงานของสมาคมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเวียดนาม (VITAS) เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มียอดเกินดุลการค้า 16.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อยู่ที่ 2.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสิ่งที่น่าสนใจ คือ ตัวเลขมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดทั้งปี ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.55 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ มูลค่าการนำเข้าเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ อยู่ที่ประมาณ 22.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เวียดนามอยู่ในอันดับที่ 3 ของประเทศที่ส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มรายใหญ่ที่สุดทั่วโลก รองจากจีนและอินเดียเท่านั้น รวมถึงยังสามารถสร้างงานได้อีกประมาณ 3 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของกำลังแรงงานทั้งหมดของอุตสาหกรรม

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/garment-and-textile-sector-enjoys-trade-surplus-of-us166-billion-407615.vov