เศรษฐกิจ สปป.ลาว ขยายตัว ภายใต้ภาวะหนี้ท่วมท้น กับครึ่งทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ

เมื่อ สปป.ลาว มาถึงจุดกึ่งกลางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะ 5 ปี (NSEDP) ครอบคลุมปี 2564-2568 ได้รับการออกแบบ เพื่อให้สอดคล้องกับมติของรัฐสภา และพัฒนายุทธศาสตร์แห่งชาติด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมปี 2559-2568 และวิสัยทัศน์ปี 2573 ของ สปป.ลาว จากการรายงานเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารแห่งประเทศลาว ปี 2565 ก็ได้เน้นย้ำถึงภาคส่วนต่างๆ ที่ฟื้นตัวได้ดี โดยอุตสาหกรรมการเกษตร มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นถึงร้อยละ 3.4 การเติบโตนี้เป็นผลมาจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่เพาะปลูกและการส่งออกโคไปยังจีนและประเทศเพื่อนบ้านที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีผลผลิตโค 2,425,000 ตัว รายงานเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารแห่งประเทศลาวประจำปี 2565 ก็ได้เน้นย้ำถึงภาคส่วนต่างๆ ที่ฟื้นตัวได้ดี โดยอุตสาหกรรมการเกษตรมีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นถึงร้อยละ 3.4 การเติบโตนี้เป็นผลมาจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่เพาะปลูกและการส่งออกโคไปยังจีนและประเทศเพื่อนบ้านที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีผลผลิตโค 2,425,000 ตัว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีโสเนเซย์ สีพันโดน กล่าวปราศรัยในการประชุมสมัชชาแห่งชาติครั้งที่ 6 เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการให้บริการหนี้ โดยเฉพาะหนี้ต่างประเทศ PM Sonexay ยังกล่าวพาดพิงถึงการขายหุ้นในโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเพื่อแบ่งเบาภาระทางการเงิน ตรงกันข้ามกับภาคอุตสาหกรรมและบริการ ภาคการเงินของลาวเผชิญกับความท้าทายด้านเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จนถึงปี 2568 ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงถึงร้อยละ 41.26 แต่ความพยายามล่าสุดของธนาคารแห่งลาว (BOL) มีเป้าหมายที่จะนำเหลือตัวเลขหลักเดียวภายในสิ้นปี 2567

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/11/23/booming-sectors-looming-debts-laos-nears-halfway-point-of-socio-economic-development-plan/

สปป.ลาว ตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2567 ที่ 4.5%

ในการประชุมสามัญครั้งที่ 6 ของสภานิติบัญญติ สปป.ลาว สมาชิกสภาได้อนุมัติเป้าหมายมหภาคที่นำเสนอโดยรัฐบาล สปป.ลาว โดยตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ร้อยละ 4.5 ​​ในปี 2567 เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ร้อยละ 4.2 ในปี 2566 นายไชยสมพอน พรหมวิหาร ประธานรัฐสภาลาวกล่าวปิดการประชุมเมื่อวันอังคารว่าการประชุมรัฐสภาประสบความสำเร็จในระหว่างการประชุม รัฐบาลลาวกล่าวว่าตระหนักดีว่าเป้าหมายระดับมหภาคนั้นมีความทะเยอทะยานอย่างมากท่ามกลางความท้าทายที่กำลังเผชิญอยู่ลาวเกิดจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก ความซับซ้อนนี้ควบคู่ไปกับปัญหาทางเศรษฐกิจและการเงินที่สะสมลาวทนทุกข์ทรมานมานานหลายปี จะทำให้ยากต่อการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้สำหรับปี 2567 นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว กล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลากอัตราเงินเฟ้อลงมาสู่เป้าหมายร้อยละ 9 ในปี 2567 จากอัตราปัจจุบันเกือบร้อยละ 30 จะเป็นความท้าทายอย่างมาก การรักษาอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินให้อยู่ในระดับที่ดีก็เป็นเป้าหมายที่สำคัญเช่นกัน

ที่มา : https://english.news.cn/20231122/553c4e91e3e04d54a56f09dda3d291a6/c.html

‘สปป.ลาว จัดงาน Digital Week’ เพื่อแสดงผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร สปป.ลาว จะจัดงานสัปดาห์ดิจิทัลขึ้นในวันที่ 10-14 มกราคม 2567 เพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการผลิตและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของลาว เพื่อให้ประเทศสามารถแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น ภายใต้หัวข้อหลักของงาน คือ “การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่มากขึ้นและการเชื่อมต่อที่ยืดหยุ่น” โดยกิจกรรมภายในงานจะมีการประชุมพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล ตลอดจนนิทรรศการผลิตภัณฑ์โทรคมนาคมและนวัตกรรมที่พัฒนาโดยสตาร์ทอัพของ สปป.ลาว และประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง โดยมีบูธแสดงนิทรรศการกว่า 100 บูธ นอกจากนี้ จะมีการอภิปรายเกี่ยวกับอุตสาหกรรม 4.0 เศรษฐกิจดิจิทัล เทคโนโลยีอัจฉริยะ และเทคโนโลยีดิจิทัล และการจับคู่ทางธุรกิจและกิจกรรมการสร้างเครือข่ายเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันและความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีและการสื่อสาร ทั้งนี้ การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสในการส่งเสริมความร่วมมือและการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมการประยุกต์ใช้การวิจัยทางเทคโนโลยี และขับเคลื่อนนวัตกรรม การพัฒนาอุตสาหกรรม และการส่งมอบบริการในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ

ที่มา : https://english.news.cn/20231121/9999859670804b6e8993489f1a620b4c/c.html

สปป.ลาว แสวงหาการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อ ‘ส่งเสริมการส่งออกปศุสัตว์’

ปศุสัตว์มีบทบาทสำคัญในภาคเกษตรกรรมของ สปป.ลาว ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มมากกว่าหนึ่งในสามของผลิตภัณฑ์ตามการระบุของเจ้าหน้าที่อาวุโส นายกวิพล ภูธาวงศ์ อธิบดีกรมปศุสัตว์และประมง กล่าวในระหว่างการประชุมระดับชาติว่าด้วยการลงทุนในการปฏิรูปปศุสัตว์อย่างยั่งยืนในประเทศลาวว่า การส่งออกปศุสัตว์ของลาวในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามีมูลค่ามากกว่า 61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้กล่าวเน้นย้ำว่า สปป.ลาว มีศักยภาพอย่างมากในการเพิ่มการผลิตปศุสัตว์เพื่อการส่งออกภายหลังการเปิดทางรถไฟลาว-จีนในปี 2564 ประเทศนี้มีที่ดินขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับโครงการผลิตปศุสัตว์ที่มุ่งสู่ตลาดส่งออก ความต้องการปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ รวมถึงเนื้อสัตว์ นม และไข่ กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งในประเทศและในตลาดเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะจีนและเวียดนาม

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2023/11/20/laos-seeks-more-investments-to-boost-livestock-exports?fbclid=IwAR2Qz4mZsmQeozsmqfdFhEho-J-gJgddYfbG06n7zObSEwrgY6IkxLKqCrA

‘สปป.ลาว มีแผนเสริมสร้างภาคอุตสาหกรรมและบริการ’ เพื่อก้าวสู่ความทันสมัย

คำเจน วงโพธิ์ รัฐมนตรีกระทรวงการวางแผนและการลงทุน สปป.ลาว กล่าวในการประชุมสามัญครั้งที่ 6 ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยระบุว่ารัฐบาลกระตือรือร้นที่จะก้าวไปสู่ความทันสมัยและการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยรับประกันการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยส่วนแบ่งของภาคอุตสาหกรรมและบริการขยายตัว และส่วนแบ่งของภาคเกษตรกรรมลดลง โดยรัฐบาลมีเป้าหมายที่กำหนดไว้ว่าภายในปี 2568 ภาคเกษตรกรรมและป่าไม้จะมีสัดส่วน 15.3% ของจีดีพี ภาคอุตสาหกรรม 33.3% ของจีดีพี ภาคบริการ 41.3 ของจีดีพี และส่วนที่เหลือมาจากภาษีและภาษีศุลกากร โดยในช่วงเก้าเดือนที่ผ่านมาของปี 2566 ภาคเกษตรกรรมขยายตัว 3.4% คิดเป็น 17.3% ของจีดีพี ขณะเดียวกัน ภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 3.5% คิดเป็น 34.5% ของจีดีพี ภาคบริการขยายตัว 5.6% คิดเป็น 37.2% ของจีดีพี ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ได้แนะนำรัฐบาล โดยจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมมากขึ้นกว่าปัจจุบัน นอกจากนี้ จำเป็นต้องทบทวนนโยบายที่เกี่ยวข้องกับแรงงานเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ชาวลาวหลายพันคนเดินทางออกนอกประเทศเพื่อหางานที่ดีกว่าในต่างประเทศ

ที่มา : https://english.news.cn/20231120/bf08707a214a49439b1653b65908aaf7/c.html

‘สปป.ลาว เปิดตัวโลโก้ในฐานะประธานอาเซียนปี 2024’ อย่างเป็นทางการ

กระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว ได้เปิดตัวโลโก้ เว็ไซต์ และธีม ในฐานะประธานอาเซียนประจำปี 2567 อย่างเป็นทางการ เพื่อเตรียมพร้อมรับตำแหน่งประธานอาเซียนที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 มกราคม 2567 โดยการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องกับอาเซียนครั้งที่ 44 และ 45 จะจัดขึ้นในเดือนตุลาคมปีหน้า ภายใต้หัวข้อ “อาเซียน: การเสริมสร้างการเชื่อมต่อและความยืดหยุ่น” สะท้อนถึงความปรารถนาของประธานอาเซียนในการส่งเสริมและกระชับความร่วมมือของกลุ่มในทุกด้านของการเชื่อมโยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในระหว่างดำรงตำแหน่งประธานของ สปป.ลาว จะมีการให้ความสำคัญสูงสุดในการเสริมสร้างการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐาน ลดช่องว่างในการหลบหนี และส่งเสริมการบูรณาการทางเศรษฐกิจที่มากขึ้นและการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน ส่วนความสัมพันธ์กับประเทศภายนอกอาเซียน สปป.ลาว จะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับคู่เจรจาของกลุ่ม ขณะเดียวกันก็รักษาความเกี่ยวข้องและการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ทั้งนี้ โลโก้ที่ สปป.ลาว เปิดตัวสื่อถึงลูกโลกและสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์และความร่วมมือของอาเซียนกับพันธมิตรภายนอกทั่วโลก ซึ่งมี 4 สี ได้แก่ น้ำเงิน แดง เหลือง และขาว ที่เป็นสีของธงสัญลักษณ์ของอาเซียน 

ที่มา : https://www.thaipbsworld.com/laos-officially-launched-the-asean-chairs-logo-and-theme-of-2024/

‘รถไฟบรรทุกสินค้าด่วนพิเศษ จีน-ลาว-ไทย’ ขบวนแรกเดินทางออกจากเฉิงตู

ถไฟบรรทุกสินค้าด่วนพิเศษต้นทางประเทศจีน ผ่านมายัง สปป.ลาว และสิ้นสุดที่ประเทศไทย ขบวนแรกออกเดินทางจากสถานีรถไฟนานาชาติเฉิงตู เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน พร้อมขนส่งสินค้าไปยังลูกค้าในประเทศไทย การเปิดตัวบริการรถไฟด่วนพิเศษเส้นทางนี้ ช่วยลดเวลาในการขนส่งสินค้าจากเมืองเฉิงตูมายังประเทศไทยให้เหลือไม่เกิน 5 วัน ถือเป็นก้าวสำคัญในการปรับปรุงการเชื่อมต่อและส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันระหว่างทั้งสามประเทศ  

ที่มา : https://news.cgtn.com/news/2023-11-19/First-China-Laos-Thailand-express-freight-train-departs-from-Chengdu-1oQZOYRv8cw/index.html

สปป.ลาว เตรียมเปิดแคมเปญการท่องเที่ยว ‘Visit Laos Year 2024’ สัปดาห์หน้า

นางสวนสะหวัน วิกนาเกตุ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สปป.ลาว แถลงข่าวเตรียมเปิดตัวแคมเปญ “Visit Laos Year 2024” ครั้งที่ 4 ภายใต้สโลแกน “สวรรค์แห่งวัฒนธรรมลาว ธรรมชาติ และประวัติศาสตร์” และกำหนดให้ช้างเป็นสัตว์นำโชคสำหรับแคมเปญนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ อีกทั้งยังมุ่งเน้นการปรับปรุงคุณภาพการบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย การรณรงค์ส่งเสริมการท่องเที่ยวจะประกอบด้วย 79 กิจกรรม โดย 14 กิจกรรมเป็นกิจกรรมระดับชาติ และ 65 กิจกรรมจะดำเนินการในจังหวัดต่างๆ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ที่หลากหลายระหว่างการท่องเที่ยวลาวตลอดทั้งปี 2567 ตั้งแต่การสำรวจโบราณสถานและวัดวาอาราม ไปจนถึงการเดินป่าอันเขียวชอุ่มและพายเรือคายัคไปตามแม่น้ำที่ใสราวคริสตัล นอกจากนี้ ยังจะมีโอกาสมากมายในการสัมผัสวัฒนธรรมลาว รวมถึงเทศกาล ดนตรี และการแสดงเต้นรำ ทั้งนี้ รัฐบาล สปป.ลาว หวังว่านักท่องเที่ยวต่างชาติและลาวอย่างน้อย 4.6 ล้านคน จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศลาวตลอดทั้งปี 2567 และคาดว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 712 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://kpl.gov.la/EN/detail.aspx?id=78164

การค้าสปป.ลาว-รัสเซีย มองเห็นความหวังในการเติบโต แม้ปัจจุบันจะซบเซาลง

การค้าระหว่าง สปป.ลาว-รัสเซีย หดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มทำสงครามกับยูเครนเมื่อต้นปี 2565 การชะลอตัวนี้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทั่วโลก ตามรายงานของ Russia Briefing การค้าระหว่างทั้งสองประเทศในเดือนมกราคม 2566 มีมูลค่า 312,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 83.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว การนำเข้าจากรัสเซียไปยังลาวมีมูลค่าเพียง 118,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การส่งออกไปยังรัสเซียมีมูลค่า 194,000 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 88% จากเดือนมกราคม 2565 อย่างไรก็ตาม รายงานการเปลี่ยนแปลงทางการค้าและการลงทุนประจำปี 2023/24 ได้ให้ข้อมูลเชิงบวกบางประการสำหรับการเพิ่มขึ้นของการค้าระหว่างลาวกับรัสเซีย เนื่องจากรถไฟลาว-จีน กลายเป็นความจริงในระดับภูมิภาคและการค้าขายระหว่างรัสเซียและจีนก็เติบโต จึงมีความเชื่อร่วมกันว่าการเข้าถึงตลาดรัสเซียและลาวจะราบรื่นยิ่งขึ้น คาดว่าจะประกาศแนวโน้มการค้าทวิภาคีระหว่างสองประเทศที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ลาวนำเข้าสินค้าจากรัสเซียส่วนใหญ่ ได้แก่ ไม้ ผลิตภัณฑ์เยื่อกระดาษและกระดาษ อุปกรณ์เครื่องจักร ยานพาหนะ และผลิตภัณฑ์เคมี ในขณะที่สินค้าส่งออกส่วนใหญ่ ได้แก่ สิ่งทอ อาหาร และวัตถุดิบทางการเกษตร

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/11/15/laos-russia-bilateral-trade-sees-hope-for-growth-despite-current-dip/

สปป.ลาว วางแผนปราบปราม ‘บริษัท Crypto ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด’

รัฐบาล สปป.ลาว ประกาศแผนการที่จะดำเนินการอย่างเข้มงวดกับบริษัทคริปโตที่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับการค้าสกุลเงินดิจิทัล การดำเนินการนี้จะถูกบังคับใช้กับบริษัท 15 แห่ง ที่ได้รับอนุญาตเริ่มต้นธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ครอบคลุมการขุดและการค้าสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งสองแห่งในนั้นไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินธุรกิจและอีกหลายแห่งล่าช้าในการชำระค่าธรรมเนียมให้กับรัฐบาล โดยค่าธรรมเนียมคงค้างในปัจจุบันมีมูลค่ารวม 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รัฐบาลถือว่าการชำระเงินล่าช้าเกิดจากการเสื่อมราคาของมูลค่าสกุลเงินดิจิทัล เพื่อเป็นการตอบสนอง นายกรัฐมนตรี โสเนชัย สีพันโดน ได้ประกาศในระหว่างการประชุมสามัญสมัยสามัญครั้งที่ 6 ว่ารัฐบาลได้เลือกที่จะลดค่าธรรมเนียมคงค้างลง 50% ทั้งนี้ รัฐบาลได้กล่าวเตือนว่าจะระงับและปรับ รวมถึงเพิกถอนใบอนุญาตของบริษัทคริปโตที่ไม่ได้จ่ายค่าธรรมเนียม ตัวอย่างการลงโทษที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม Electricite du Laos (EDL) รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานไฟฟ้าของรัฐบาลได้ประกาว่าจะไม่จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการขุดคริปโตในประเทศลาวอีกต่อไป สาเหตุหลักมาจากหนี้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจการขุดคริปโต

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/11/15/laos-plans-crackdown-on-non-compliant-crypto-firms/