ผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าเวียดนาม เผชิญกับการบริโภคที่ตกต่ำ ในช่วงเดือนตุลาคม

จากข้อมูลของสมาคมเหล็กเวียดนาม (VSA) เปิดเผยว่าการบริโภคผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าลดลง โดยเฉพาะเหล็กแผ่นเคลือบสี (Colour-coated steel) ในช่วงเดือนตุลาคมของปีนี้ ขณะที่ ผลผลิตยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากจำแนกผลิตภัณฑ์เหล็กที่มีผลผลิตและการบริโภคเพิ่มขึ้น พบว่ามีเพียงผลิตภัณฑ์เหล็กก่อสร้างชนิดเดียว ส่วนผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นรีดเย็นมีผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่การบริโภคหดตัวลงร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นเคลือบสีที่มีผลผลิตลดลงมากที่สุดในช่วงเดือนตุลาคม แตะระดับ 348,902 ตัน ลดลงร้อยละ 15.3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เช่นเดียวกับการบริโภคที่หดตัวลงร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งนี้ จากการส่งออกลดลงอย่างมากของผลิตภัณฑ์เหล็กขั้นกลาง ขณะที่การนำเข้ายังคงเพิ่มขึ้นทุกๆปี ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน และอินเดีย ด้วยเหตุนี้ ทางกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม ตัดสินใจในการป้องกันการทุ่มตลาดของผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบสีบางชนิดที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเกาหลีใต้ และจีน นอกจากนี้ ยังขยายการตอบโต้การทุ่มตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์สเตนเลสรีดเย็น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/steel-products-experience-slow-consumption-in-october/163815.vnp

รัฐบาลเวียดนามอนุมัติก่อสร้างสนามบินในเมืองซาปา

กระทรวงคมนาคมเวียดนามได้อนุมัติวางแผนก่อสร้างสนามบินซาปา (Sa Pa) โดยสามารถจุผู้โดยสารกว่า 3 ล้านคนต่อปี ซึ่งเป็นสนามบินภายในประเทศที่มีช่องจอดเครื่องบิน 9 ช่อง เพื่อใช้ในทางทหารและพลเรือน ด้วยจำนวนเงินทุนในการก่อสร้างสนามบินกว่า 3.09 ล้านล้านด่อง (หรือ 133 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) และคาดว่าโครงการจะสำเร็จภายในปี 2561 ซึ่งวัตถุประสงค์หลักจะให้บริการนักท่องเที่ยวจากเวียดนามทางตอนใต้ และภาคตะวันตกของประเทศจีน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน ระบุว่าการไหลเข้าของนักท่องเที่ยวจะไม่มีเสถียรภาพมากนัก เมื่อเทียบกับสนามบินอื่น สำหรับในปีที่แล้ว ในเขตจังหวัดหล่าวกาย (Lao Cai) มีนักท่องเที่ยวมาเยือนประมาณ 4.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากปี 2560

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/government-approves-northern-highlands-airport-in-sa-pa-406165.vov

ผู้ประกอบการเวียดนามลงทุนกว่า 430 ล้านเหรียญสหรัฐฯไปยังต่างประเทศ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้

จากข้อมูลของสำนักงานลงทุนต่างประเทศ ภายใต้กระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม เปิดเผยว่าผู้ประกอบการเวียดนามลงทุนประมาณ 431.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปยังต่างประเทศ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ โดยส่วนใหญ่ลงทุนในภาคการค้าปลีกค้าส่ง คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25.6 ของการลงทุนรวม รองลงมาภาควิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเกษตรกรรม และภาคอสังหาริมทรัพย์ ตามลำดับ ซึ่งในบรรดา 30 ประเทศทั่วโลก นักการเงินเวียดนามส่วนใหญ่ลงทุนไปยังประเทศออสเตรเลีย คิดเป็นมูลค่า 140.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รองลงมาสเปน กัมพูชา และสิงคโปร์ ตามลำดับ ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าว ธุรกิจท้องถิ่นได้อัดฉีดเงินทุนเข้าสู่ตลาดใหม่ สังเกตได้จากเวียดนามอัดฉีดเงินทุน 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปยังสปป.ลาว สำหรับการลงทุนในประเทศ ส่วนใหญ่ลงทุนในภาคการเกษตรกรรม การเงิน ภาคธนาคาร ประกันภัยชีวิต และโทรคมนาคม เป็นต้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnamese-firms-invest-over-us430-million-abroad-in-nine-months-406166.vov

เวียดนามเผยการส่งออกข้าวได้รับความเสียหาย จากระดับราคาที่ดิ่งลง

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562 เวียดนามส่งออกข้าวอยู่ที่ 5.56 ล้านตัน ด้วยมูลค่า 2.43 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.1 ในด้านปริมาณ แต่มูลค่าเม็ดเงินลดลงร้อยละ 9.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ประเทศฟิลิปปินส์ยังคงเป็นตลาดข้าวรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม มีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 35 ซึ่งในบางช่วง ราคาข้าวตกต่ำแตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 12 ปี นับว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รายได้จากการส่งออกข้าวร่วงลงในช่วงเวลาดังกล่าว  โดยราคาข้าวเฉลี่ยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 62 อยู่ที่ 435.6 เหรียญสหรัฐฯ 2562 ลดลงร้อยละ 13.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะเดียวกัน ผู้ส่งออกเวียดนามต้องเผชิญกับภาวะการแข่งขันที่รุนแรง และจำเป็นขจัดอุปสรรคทางการค้า เพื่อให้สามารถส่งออกไปยังประเทศจีนและตลาดอื่นๆ นอกจากนี้ ยังเน้นในการสร้างตลาดและการหาแหล่งตลาดใหม่ โดยเฉพาะประเทศแอฟริกาและอาเซียน ให้ผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์กับความต้องการให้ตลาดเหล่านั้นได้

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/rice-export-revenue-suffers-from-price-drop-406119.vov

นักลงทุนต่างชาติเล็งเห็นโอกาสทำธุรกิจโรงแรมในเวียดนาม : JLL

จากข้อมูลของบริษัทให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ โจนส์ แลง ลาซาลล์ (JLL) เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเวียดนามมีการเติบโต และเป็นพลังงานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่งผลไปในทิศทางที่เป็นบวกต่อโรงแรมและรีสอร์ท แสดงให้เห็นถึงความสนใจของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งตลาดโรงแรมเวียดนามจะเข้าสู่ Industry Renaissance ผลักดันส่วนครองตลาดของธุรกิจให้ขยายโรงแรมไปยังทั่วประเทศ สำหรับปัจจัยอื่นๆ เช่น การยกเว้นวีซ่า การแนะนำเส้นทางสายการบินใหม่ และการปรับปรุงด้านการตลาด เป็นต้น ล้วนกระตุ้นความสนใจของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ในขณะที่ นักลงทุนต่างชาติเล็งเห็นโอกาสในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นกว่าเดิมในเวียดนาม ผ่านการประเมินของสินทรัพย์จากการดำเนินงาน ด้วยกระแสเงินสด แต่นักลงทุนในประเทศส่วนใหญ่มีความสนใจในการพัฒนาตัวโรงแรมและรีสอร์ทจากที่ดินว่างเปล่า นอกจากนี้ เมื่อมองดูภาพรวมของกรุงโฮจิมินห์ซิตี้ ใน่ชวงตั้งแต่เดือน ก.ย. 62 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวประจำปี

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/foreign-investors-eye-hotels-in-vietnam-jll-406054.vov

ราคาที่ดินไซ่ง่อนพุ่งสูงขึ้น 3 เท่า ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

จากคำแถลงการณ์ของคุณ Tran Khanh Quang, CEO ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ HCMC ระบุว่าช่วงเวลาในแต่ละทศวรรษ ราคาที่ดินมักจะปรับสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในช่วง 2-4 ปีแรก และจากนั้นจะกลับมาหดตัวลง ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งราคาที่ดินในย่านศูนย์กลางธุรกิจ ตอนเริ่มมักจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างช้าๆ จากนั้นราคาในพื้นที่ชานเมืองถึงจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และไปยังต่างจังหวัด ทั้งนี้ จากข้อมูลของรองผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์โฮจิมินห์ซิตี้ กล่าวว่าราคาที่ดินในช่วงปี 2559-2561 มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น 2 เท่า และจะเพิ่มขึ้นอีก 4-10 เท่า ภายในปี 2552-2562 ซึ่งจากราคาที่ดินสูงขึ้นนั้นจะทำให้โอกาสเป็นเจ้าของลดน้อยลง ประกอบกับราคาอพาร์ทเมนท์ในกรุงไซ่ง่อนพุ่งสูงขึ้นร้อยละ 11.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันไตรมาสที่แล้ว

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/saigon-land-prices-rise-3-times-every-decade-406058.vov

เวียดนามคาดว่ายอดส่งออก 217.05 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562

จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MoIT) เปิดเผยว่าเวียดนามส่งออกประมาณ 217.05 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562 หากคิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 82.5 ของยอดเป้าในการส่งออกของปีนี้ ซึ่งได้บรรลุเป้าที่มีการขยายตัวร้อยละ 7-8 ในปีนี้ โดยสินค้า 29 กลุ่มที่มีการส่งออกมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และอีก 5 รายการสินค้าที่มีรายได้มากกว่า 10 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือและส่วนประกอบ รองลงมาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เสริม, เครื่องแต่งกาย, รองเท้า และเครื่องจักรและอุปกรณ์ เป็นต้น หากคิดเป็นสัดส่วนรวมร้อยละ 59.4 ของยอดมูลค่าการส่งออกรวม ทั้งนี้ อัตราดังกล่าวในปีนี้ เวียดนามมีการขาดดุลการค้าติดต่อกัน 4 ปี แล้วในปีนี้กลับมาเกินดุลการค้าอีกครั้ง

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnams-exports-estimated-at-21705-bln-usd-in-10-months-406026.vov

สินค้าเวียดนามมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 200 ประเทศทั่วโลก

จากรายงานของอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MoIT) เปิดเผยว่าเวียดนามส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในแง่ของขนาดตลาด และโครงสร้างสินค้าสำคัญ ในปัจจุบันเวียดนามส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ประกอบกับความต้องการของตลาดที่มีความหลากหลาย ซึ่งข้อกำหนดสินค้าที่มีความเข็มงวด และมาตรฐานของผลิตภัณฑ์สูง ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นต้น ทั้งนี้ มีการจัดอันดับการส่งออกระดับโลก พบว่าในปี 2550 เวียดนามอยู่ในอันดับที่ 50 ของโลก และในปี 2561 เวียดนามขยับอันดับดีขึ้นที่ 26 ของโลก โดยในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ สหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม เป็นผลมาจากนโยบายที่สนับสนุนในการกระจายส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีน อาเซียน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม การกระจายส่งออกสินค้าในหมวดสินค้าเกษตรและประมงยังอยู่ในระดับไม่สูงนัก เนื่องมาจากความผันผวนของตลาด ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnamese-goods-enjoy-market-share-in-200-countries-worldwide-406023.vov

เวียดนามส่งออกใบชา 14,200 ตัน ไปยังไต้หวัน ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้

เวียดนามเผยปริมาณการส่งออกใบชาไปยังประเทศไต้หวัน 14,200 ตัน คิดเป็นมูลค่า 22.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.1 และ 8.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในช่วงเดือนมกราคม-กันยายน ปี 2562 โดยประเทศไต้หวันเป็นผู้นำเข้าใบชารายใหญ่ของเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 84.1 ของมูลค่าการนำเข้ารวม ขณะที่ ประธานสมาคมชาเวียดนาม ระบุว่าเวียดนามมีพื้นที่เพาะปลูกใบชา ประมาณ 125,000 เฮกตาร์ ส่วนใหญ่อยู่ในทางตอนเหนือของประเทศไทย ซึ่งเวียดนามเป็นประเทศที่มีพื้นที่เพาะปลูกใบชาขนาดใหญ่ที่สุดในอันดับ 2 ของโลก มีการบริโภคชาในประเทศอยู่ที่ 45,000 ตันต่อปี และปริมาณการส่งออก 145,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 245 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnam-exports-14200-tonnes-of-tea-to-taiwan-in-nine-months-405969.vov

ราคาเนื้อหมูพุ่งสูงขึ้นในรอบ 5 ปี

จากข้อมูลของสมาคมปศุสัตว์เวียดนาม เปิดเผยว่าราคาเนื้อหมูในเวียดนามพุ่งระดับสูงขึ้นอยู่ที่ 71,000 ด่อง (3 เหรียญสหรัฐฯ) ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมูแอฟริกา นับว่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว ซึ่งทางข้อมูลของบริษัทด้านอาหาร Vissan ระบุว่าราคาเนื้อหมูส่วนใหญ่เพิ่มสูงขึ้นอยู่ในระดับ 64,000 ด่องต่อกิโลกรัม (2.76 เหรียญสหรัฐฯ) ทั้งนี้ รัฐบาลได้สั่งให้กระทรวง และหน่วยงานในท้องถิ่นและจังหวัด พยายามควบคุมราคาเนื้อหมูให้มีเสถียรภาพ และคุมสต๊อกเนื้อหมูให้เพียงพอไปจนถึงสิ้นปีนี้ หากปริมาณเนื้อหมูไม่เพียงพอ ต้องนำเข้าเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง นอกจากนี้ จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่าปริมาณสุกรลดลงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในเดือนตุลาคม เนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัส

ที่มา: https://e.vnexpress.net/news/business/industries/pork-prices-hit-5-year-high-4008921.html