เวียดนามเผยส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้ และประมง พุ่งสูงขึ้น 2.7% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 62

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ป่าไม้ และประมงของเวียดนามอยู่ที่ 30.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน เวียดนามนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจากต่างประเทศกว่า 23.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยปัจจัยที่ทำให้เวียดนามส่งออกเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากได้รับแรงหนุนของผลิตภัณฑ์ป่าไม้ และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ ในส่วนของผลิตภัณฑ์ส่งออกที่มีมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ทำมาจากไม้ และไม้แปรรูป กาแฟ ข้าว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผักผลไม้ และกุ้ง เป็นต้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/agroforestryfishery-exports-up-27-percent-in-nine-months-403952.vov

อุตสาหกรรมเวียดนามเติบโตสูงที่สุด ในรอบ 4 ปี

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมเติบโตร้อยละ 9.56 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งนับว่าอยู่ในระดับสูงที่สุดในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา และดัชนีภาคอุตสาหกรรม (IIP) ยังคงอยู่ในระดับเติบโตอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ร้อยละ 11.37 รองลงมาภาคการผลิตไฟฟ้าและจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.7 และภาคการจัดหาน้ำประปาเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.43 ในขณะที่ ภาคการขุดเหมืองแร่ เริ่มส่งสัญญาขยายตัวเล็กน้อยร้อยละ 2.68  หลังจากหลายปีที่ผ่านมาลดลง เนื่องมาจากการใช้ถ่านหินที่เพิ่มขึ้น โดยผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสำคัญที่มีการเพิ่มขึ้น ได้แก่ เหล็ก ปิโตรเลียม โทรทัศน์ และอาหารเลี้ยงสัตว์น้ำ

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7968902-vietnam%E2%80%99s-industrial-growth-hits-four-year-high.html

เวียดนามคาดเกินดุลการค้า ในปี 2562

จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 แม้ว่าสถานการณ์ตลาดทั่วโลกชะลอตัว จากการบริโภคและการนำเข้าที่ลดลง แต่สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของเวียดนามยังคงเกินดุลการค้าอยู่ที่ 5.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมูลค่าการส่งออกรวม 194.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะเดียวกัน จากข้อมูลของ Trading Economics กล่าวว่าสถานการณ์การค้าเวียดนามในปีนี้ มีทิศทางที่เป็นบวก โดยเฉพาะอย่าง สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงผลของข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) เช่น CPTPP และ EVFTA ล้วนส่งผลให้มีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น และช่วยสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาคอุตสาหกรรมและการแปรรูป นอกจากนี้ จากรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม ระบุว่าหนึ่งในตัวขับเคลื่อนหลักการส่งออกของเวียดนาม คือ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ผลิตโดยธุรกิจ Samsung, LG และ Cannon เป็นต้น

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7969702-trade-surplus-expected-for-2019.html

เวียดนามเผยยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติพุ่ง 26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562

จากข้อมูลของสำนักงานการลงทุนจากต่างประเทศ (FIA) เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 เวียดนามดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศ 26.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นักลงทุนต่างชาติยังคงสนใจลงทุนในภาคการผลิตและแปรรูปมากที่สุด ด้วยมูลค่าประมาณ 18.09 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 69.1 ของการลงทุนจากต่างชาติรวม ตามมาด้วยภาคอสังหาริมทรัพย์ ด้วยมูลค่า 2.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และภาคการค้าปลีกค้าส่ง ด้วยมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งกว่า 109 ประเทศทั่วโลกที่ลงทุนในเวียดนาม ประเทศฮ่องกง (จีน) เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ด้วยมูลค่าราว 5.89 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รองลงมาเกาหลีใต้ สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ตามลำดับ โดยเมือง/จังหวัดที่ได้รับการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติมากที่สุด ได้แก่ นครฮานอย รองลงมาเมืองโฮจิมินห์ และบิ่ญเซือง ตามลำดับ

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7967502-vietnam%E2%80%99s-fdi-inflows-reach-over-us$26-billion-in-nine-months.html

ผู้ว่านครพนมจับมือหอการค้าจังหวัด เยือนฮ่าห์ติ๋งห์-กว่างบิงห์วางแนวปฏิบัติร่วม

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย และคณะหัวหน้าส่วนราชการ หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรม สมาคมเวียดนามแห่งประเทศไทย ภาคเอกชนจังหวัดนครพนม ได้เข้าเยี่ยมเยือนจังหวัดฮ่าติ๋งห์และกว่างบิ่งห์ เมื่อวันที่25-26 กันยายน ที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเสนอให้รัฐบาลกลางสนับสนุนการปรับปรุงเส้นทางหลวง R8 เพื่ออำนวยความสะดวกความเชื่อมโยง การขนส่งสินค้าและประชาชนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้แวะเยี่ยมชมเขตเศรษฐกิจพิเศษของท่าเรือน้ำลึกหวุ๋นอ๋าง ที่สามารถเชื่อมโยงได้ทั่วโลก โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงถนนทางหลวง R12 และเสนอให้รัฐบาลนำเส้นทางดังกล่าวเข้าบรรจุในข้อตกลงการอำนวยความสะดวกการขนส่งภายใต้กรอบลุ่มน้ำโขง (Greater Mekong Subregion Cross Border Trade Agreement) เพื่อส่งเสริมการไปมาหาสู่กันและร่นระยะเวลาการขนส่งระหว่างกัน ฝ่ายเวียดนามขอพิจารณาการอำนวยความสะดวกด้านศุลกากรแก่สินค้าศักยภาพ เช่น อาหารทะเล และเอกอัครราชทูตฯ ขอให้จังหวัดพิจารณาเชิญผู้แทนภาคเอกชนไทย สปป.ลาวและเวียดนาม ร่วมเดินทางกับคณะผู้แทนภาครัฐ เพื่อหารือถึงการร่วมทุนเพื่อเปิดเส้นทางเดินรถโดยสาร ไทย-ลาว-เวียดนาม ผ่านเส้นทาง R12 ทั้งนี้เอกอัครราชทูตฯ และรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม หอการค้าได้เข้าร่วมการประชุมผู้บริหารระดับสูง 3 ประเทศ 9 จังหวัด ครั้งที่ 22ประกอบด้วย จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ นครพนม และสกลนคร แขวงบอลิคำไซ แขวงคำม่วน จังหวัดเหงะอาน ฮาติ๋งห์ และกวางบิ่งห์ ซึ่งที่ประชุมได้รายงานผลการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันในทุกมิติ โดยที่ประชุมเอกอัครราชทูตฯ เสนอวาระสำตัญให้มีแนวทางปฏิบัติดังนี้ 1.การพัฒนาให้เส้นทาง R12 เป็นระเบียงเศรษฐกิจโดยผลักดันให้เกิดการลงทุนบนเส้นทาง อาทิ ธุรกิจท่องเที่ยวและสถานีบริการยานพาหนะและผู้เดินทาง เพื่อให้ทั้งสามประเทศได้ประโยชน์ร่วมกัน 2.ให้ภาคเอกชนพิจารณาจัดตั้งบริษัทร่วมทุนการรถโดยสารสามฝ่ายระหว่างไทย สปป. ลาวและเวียดนาม 3.จัดตั้งการหารือกลุ่มย่อยในเรื่องที่ต้องมีการพิจารณารายละเอียดและคัดเลือกประเด็นสำคัญขึ้นหารือระหว่างผู้บริหารจังหวัดในที่ประชุมใหญ่ เพื่อต่อยอดและกระชับความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป 4.เพิ่มจังหวัดของไทยที่มีความสัมพันธ์กับเวียดนามและ สปป.ลาวเข้าร่วมประชุมเพิ่มเติม อาทิ จ.อุดรธานีและ จ.อุบลราชธานี และ 5. เชิญให้ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัทเดินรถ เข้าร่วมการประชุมเพิ่มเติมและอาจะแยกหารือกันโดยตรงแบบกลุ่มย่อยเป็นเรื่อง ๆ ไป

ที่มา: https://mgronline.com/business/detail/9620000093893

การไฟฟ้าเวียดนามวางแผนกู้เงินขยายโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ 278 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากข้อมูลของหน่วยงานรัฐบาลเวียดนาม ในวันพุธที่ผ่านมา เปิดเผยว่าการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) กิจการด้านสาธารณูปโภคของรัฐ จะกู้ยืมเงินราว 6.45 ล้านล้านด่อง (278 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เพื่อนำมาขยายโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใกล้กรุงฮานอย ซึ่งจากการขยายโรงงานหว่าบิ่น (Hoa Binh) อายุ 25 ปี ที่มีความสามารถในการผลิต 480 – 2,400 เมกะวัตต์ โดยตามแผนของโครงการ จะเริ่มต้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2563 และจะสิ้นสุดของโครงการในปี 2566 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเวียดนามไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดหาเงินทุนของการไฟฟ้าเวียดนามในครั้งนี้ และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings Fitch) ยืนยันว่าคงอันดับเครดิตสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ EVN “BB” ขึ้นเป็นบวก

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/companies/vietnam-state-utility-evn-to-borrow-278-mln-to-expand-hydro-plant-3987642.html

อุตสาหกรรมยานยนต์เวียดนาม นำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จากข้อมูลของประธานสมาคมผู้ผลิตยานยนต์เวียดนาม (VAMA) เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 เวียดนามนำเข้ารถยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 178 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ด้วยปริมาณนำเข้ารถยนต์อยู่ที่ 82,800 คัน ทางด้านยอดขายรถยนต์ที่ผลิตในประเทศลดลงร้อยละ 14 และปริมาณรถยนต์อยู่ที่ 119,700 คัน โดยสถานการณ์การนำเข้าดังกล่าวนั้น เวียดนามจำเป็นต้องนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์ ทำให้ราคารถยนต์ในประเทศเวียดนาม สูงกว่าเมื่อเทียบกับราคารถยนต์จากกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งผู้ผลิตในประเทศต้องนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์กว่าร้อยละ 80 ของปริมาณชิ้นส่วนยานยนต์รวม ในขณะที่ ไทยและอินโดนีเซียมีเพียงร้อยละ 10-20 ดังนั้น ราคารถยนต์เวียดนามมีราคาสูงกว่า ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นผลมาจากการนำเข้าของผู้ผลิตในประเทศ และมาจากผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศที่ไม่เพียงพอ โดยมีจำนวนผู้ประกอบการเพียงแค่ 200 ราย

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/industries/auto-industry-s-overwhelming-reliance-on-imports-continues-3987432.html

เศรษฐกิจดิจิทัลเวียดนาม มีแนวโน้มแตะระดับ 30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2568

จากข้อมูลของ Open Gov Asia เปิดเผยว่ามูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลเวียดนามอยู่ที่ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2561 และคาดว่าจะพุ่งสูงขึ้นถึง 30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2568 นับว่าเศรษฐกิจดิจิทัลเวียดนามมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สถานการณ์การค้าขายออนไลน์ในเวียดนามเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้เกิดโมเดลธุรกิจใหม่ๆ และการขยายตัวของอีคอมเมิร์ซ ล้วนส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยในปี 2561 มูลค่าของอีคอมเมิร์ซ อยู่ที่ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ เพื่อให้เศรษฐกิจดิจิทัลมีการเติบโตอย่างยั่งยืนนั้น เวียดนามจำเป็นต้องสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนให้มากยิ่งขึ้น และการส่งเสริมกฎหมาย ให้มีความเหมาะสมต่อสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานภายใต้เศรษฐกิจดิจิทัล รวมไปถึงหาแนวทางโซลูชั่นต่างๆ เพื่อให้ระบบมีความปลอดภัยและพร้อมไปด้วยข้อมูลในการพัฒนาทางด้านการลงทุน และโครงสร้างดิจิทัล เป็นต้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-digital-economy-likely-to-hit-30-billion-usd-in-2025/161055.vnp

ADB คาดเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัวร้อยละ 6.8 ในปี 2562

จากข้อมูลของธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) ณ วันที่ 25 กันยายน เปิดเผยว่าเศรษฐกิจเวียดนามยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องร้อยละ 6.8 และ 6.7 ในปี 2562 และ 2563 ตามลำดับ และในช่วงครึ่งปีแรก 62 การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเวียดนาม (GDP) ชะลอตัวลง แต่ภาวะเศรษฐกิจยังคงมีความยืดหยุ่นอยู่ ถึงแม้ว่าในปีหน้า เวียดนามจะเผชิญกับสภาพแวดล้อมภายนอกที่อ่อนแอลง ซึ่งทางด้านอุปสงค์จากต่างประเทศนั้นลดลง ทำให้ปริมาณการส่งออกสินค้า/บริการชะลอตัวลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของครึ่งปีแรกที่ผ่านมา แต่ว่าอำนาจในการซื้อภายในประเทศยังคงแข็งแกร่งอยู่ ในขณะที่ ภาคเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ มีแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอตัวในทุกภาคส่วน แต่มีผลกระทบในแต่ละภาคแตกต่างกัน อย่างเช่น ภาคเกษตรกรรมที่เผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมูสายพันธุ์แอฟริกา เป็นต้น นอกจากนี้ แม้ว่าการส่งออกเวียดนามจะชะลอตัวก็ตาม แต่อำนาจซื้อของคนเวียดนามยังคงอยู่ในระดับสูง และเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง

ที่มา :  https://english.vov.vn/economy/adb-forecasts-vietnams-economy-to-grow-at-68-per-cent-in-2019-403674.vov

เวียดนามส่งออกสำปะหลังเพิ่มขึ้น ในช่วงเดือนสิงหาคม

จากรายงานสถิติของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วงเดือนสิงหาคมของปี 2562 ปริมาณการส่งออกมันสำปะหลัง และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสำปะหลังของเวียดนาม พุ่งสูงขึ้น 180,720 ตัน คิดเป็นมูลค่ารวม 71.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งตัวเลขดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 88.2 และมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 70.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่ ในปัจจุบันโรงงานหลายแห่งได้เข้าสู่ช่วงการผลิตใหม่ ในช่วงปี 2562-2563 อย่างไรก็ตาม แหล่งวัตถุดิบมันสำปะหลังสดยังคงผลิตไม่แน่นอน โดยตลาดส่งออกสำปะหลังของเวียดนามไปยังประเทศจีน เพิ่มขึ้นกว่า 162,460 ตัน และมูลค่า 64.78 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นผลมาจากสินค้าคงเหลืออยู่ในระดับต่ำ ทำให้มีความต้องการผลิตภัณฑ์สำปะหลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ ราคาสินค้าแป้งมันสำปะหลังของเวียดนามอยู่ในระดับต่ำกว่าเมื่อเทียบกับราคาสินค้าไทย ส่งผลให้ลูกค้าชาวจีนสั่งซื้อสินค้าจากเวียดนามพุ่งสูงขึ้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/cassava-exports-enjoy-august-boost-403605.vov