ราคาข้าวโพดเมียนมา ดิ่งฮวบ จากความต้องการต่างประเทศที่หดตัว

Mandalay Commodity Centre เผย ตลาดข้าวโพดในประเทศค่อนข้างซบเซาและราคาเริ่มลดลงเนื่องจากความต้องการของต่างประเทศที่เริ่มลดลงนั่นเอง เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 ราคาข้าวโพดค่อยๆ ดิ่งลงเหลือ 1,000 จัตต่อ viss (viss เท่ากับ 1.66 กิโลกรัม) ที่ผ่านมา ไทยผู้นำเข้ารายใหญ่ของเมียนมาไฟเขียวนำเข้าข้าวโพดภายใต้ภาษีศุลกากรเป็นศูนย์ (แบบ Form-D) ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึง 31 สิงหาคม 2565 แต่อย่างไรก็ตาม ภายหลังไทยได้กำหนดอัตราภาษีสูงสุดร้อยละ 73 สำหรับการนำเข้าข้าวโพดเพื่อคุ้มครองเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดในประเทศ ส่งผลให้ราคาข้าวโพดใยนมาตกต่ำลง  ที่ผ่านมา ในปีงบประมาณ 2563-2564 เมียนมาส่งออกข้าวโพด 2.3 ล้านตัน ตลาดสำคัญได้แก่ ไทย จีน อินเดีย และเวียดนาม

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/corn-prices-tumbling-due-to-lack-of-foreign-demand/#article-title

เดือนก.ย.65 สปป.ลาว ขาดดุลการค้าถึง 233 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

เดือนกันยายน 2565 สปป.ลาว ขาดดุลการค้า 233 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยภาพรวมการค้าระหว่างประเทศแบ่งเป็นการส่งออก 456 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ทองคำและทองคำแท่ง ยาง ปุ๋ย แร่ทองคำ น้ำตาล เสื้อผ้า กล้วย รองเท้า แร่เหล็ก และโค ส่วนการนำเข้าอยู่ที่ 689 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรกล ดีเซล ยานพาหนะทางบก อัญมณีกึ่งมีค่า น้ำมันเบนซิน ผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กกล้า สัตว์มีชีวิต ชุดสายไฟ และอะไหล่ โดยผู้นำเข้ารายใหญ่คือจีน รองลงมาเป็นเวียดนาม และไทย ตามลำดับ

ที่มา:https://english.news.cn/asiapacific/20221010/5d81119c2dd74f0fa84d9a79eeae7ead/c.html

ออมสินบุก Non Bank กดดอกเบี้ย 5% ช่วยคนระดับฐานรากเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารกำลังจะเข้าสู่ธุรกิจ Non Bank เต็มตัวเพื่อให้คนระดับรากหญ้าได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งในระบบด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าในตลาดอย่างน้อย 5% โดยมีแผนที่ยื่นขอใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อทำธุรกิจนอนแบงก์ภายในช่วงต้นปี 2566 และคาดว่าจะเริ่มดำเนินธุรกิจได้ภายในปลายไตรมาส 3 ปี 2566 หรือต้นไตรมาส 4 ปี 2566 โดยจะเป็นการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล (P-Loan) ด้วยระบบ Digital Lending ให้วงเงินกู้ 1-2 หมื่นบาทต่อราย พร้อมเปิดตัวสินเชื่อ My Credit ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. นี้ เจาะกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ เช่น พ่อค้าแม่ค้า รับจ้าง ผู้มีรายได้ประจำ วงเงินกู้ 10,000-30,000 บาท ผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือน ไม่ต้องมีหลักประกัน โดยจะใช้ Alternative Data แทนการวิเคราะห์รายได้ เช่น การใช้ข้อมูลจ่ายค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า จำนวนเม็ดเงินที่ไหลเวียนในระบบ MyMo ฯลฯ เบื้องต้นตั้งวงเงินรวมสำหรับโครงการนี้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท เบื้องต้น ตั้งเป้าลูกค้า 1 แสนราย ซึ่งมาจากฐานลูกค้า MyMo ที่มีอยู่กว่า13 ล้านราย

ที่มา: https://www.naewna.com/business/685655

“AMRO” คาดการณ์ศก.เวียดนามปีนี้ ขยายตัว 7%

สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (AMRO) ร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ ได้ประมาณการเศรษฐกิจเวียดนามปี 2565 คาดว่าจะขยายตัว 7% เนื่องจากผลการดำเนินงานของประเทศที่กลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ต้นปีนี้และความสำเร็จในการควบคุมเงินเฟ้อ ทำให้เป็นประเทศที่มีการเติบโตสูงสุดเป็นอันดับสองในภูมิภาค รองจากมาเลเซียที่คาดว่าจะขยายตัว 7.3% อย่างไรก็ดีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในปีหน้า คาดว่าจะชะลอตัวเหลือ 6.5% ซึ่ง การคาดการณ์ของสำนักงาน AMRO เป็นไปตามรายงานของหลายสำนักงานระหว่างประเทศ อาทิเช่น เวอร์แบงค์, มูดี้ส์, ไอเอ็มเอฟ และยูโอบี เป็นต้น นอกจากนี้ ภาวะเงินเฟ้อของเวียดนามในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 3.5% และจะชะลอตัวเหลือ 3.3% ในปี 2566

ที่มา : https://en.nhandan.vn/vietnams-gdp-projected-at-7-in-2022-amro-post118662.html

โครงการท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวในจังหวัดกำปอตของกัมพูชาเสร็จสมบูรณ์แล้ว

ท่าเรือท่องเที่ยวกำปอต ก่อสร้างขึ้นภายใต้เงินกู้จาก ADB จำนวน 18 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อด้านการท่องเที่ยวทางทะเลของประเทศกัมพูชาและประเทศเพื่อนบ้านเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยก่อนหน้านี้ท่าเรือดังกล่าวสามารถรองรับได้เฉพาะเรือขนาดเล็ก หากคิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวรองรับได้เพียง 300-400 คน ซึ่งท่าเรือแห่งใหม่คาดว่าจะรองรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดกำปอตประมาณ 6 กม. บนพื้นที่ขนาดมากกว่า 4 เฮกตาร์ เริ่มก่อสร้างขึ้นในปี 2018 ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับภาคการท่องเที่ยวในการรองรับนักท่องเที่ยว ตามรายงานโครงสร้างพื้นฐานภายในท่าเรือประกอบด้วยท่าเรือที่มีท่าเทียบเรือ, อาคารผู้โดยสารและร้านอาหาร, ถนน, สถานที่เก็บขยะ, อาคารควบคุม, ห้องน้ำสาธารณะ, อ่างเก็บน้ำ, สระน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ โดยท่าเรือท่องเที่ยวกำปอตสามารถเชื่อมต่อกับท่าเรือในสีหนุวิลล์, เกาะกง, เกาะรง, เกาะตราลและท่าเรืออื่นๆ ในเวียดนามและไทย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501165066/20-million-kampot-tourist-port-completed/

คาด FTA กัมพูชา-เกาหลี กระตุ้นการส่งออกเครื่องนุ่งห่ม

ข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-เกาหลี (CKFTA) ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมปีนี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นการส่งออกของกัมพูชาไปยังเกาหลีใต้ โดยเฉพาะสินค้าประเภทเครื่องแต่งกาย ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยข้อตกลง CKFTA จะทำการยกเลิกภาษีศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้าจากกัมพูชาร้อยละ 95.6 ในขณะที่กัมพูชาจะยกเลิกภาษีสินค้านำเข้าจากเกาหลีร้อยละ 93.8 จากข้อมูลของ TexPro ซึ่งเป็นเครื่องมือเจาะลึกตลาดของ Fibre2Fashion กัมพูชา ได้รายงานถึงมูลค่าการส่งออกเครื่องแต่งกายของกัมพูชาไปยังเกาหลีใต้มีมูลค่ามากถึง 187.65 ล้านดอลลาร์ในปี 2019 ในขณะที่ปี 2020 มูลค่าการส่งออกลดลงเหลือ 169.72 ล้านดอลลาร์ เนื่องโควิด-19 โดยในปีที่แล้วสถานการณ์การส่งออกปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่มูลค่า 167.15 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ปัจจุบัน (8เดือนแรกของปี) กัมพูชาส่งออกสินค้าประเภทดังกล่าวไปแล้วมูลค่า 128.86 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501165052/fta-may-boost-cambodias-apparel-exports-to-south-korea-next-year/

ครึ่งปีแรก ค้าระหว่างประเทศเมียนมา ทะยานแตะ 17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย การค้าระหว่างประเทศของเมียนมาในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2565-2566 อยู่ที่ 17.08 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 14,078 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ การค้าชายแดนลดลง 89.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากมาตรการการควบคุม COVID-19 เข้มงวดของจีนและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-foreign-trade-soars-to-over-17-bln-in-h1/#article-title

เดือนก.ย.65 เงินเฟ้อ สปป.ลาว พุ่งแตะ 34% สูงสุดในรอบ 22 ปี

สำนักสถิติของสปป.ลาว เผย อัตราเงินเฟ้อในเดือนกันยายน 2565 อยู่ที่ 34% สูงกว่าเดือนที่ผ่านมา 30%  (เดือนสิงหาคม 2565) สูงสุดในรอบ 22 ปี จากราคาอาหาร ยา เชื้อเพลิง และสินค้าอุปโภคบริโภค ที่พุ่งสูงขึ้น เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจ และการระบาดของ COVID-19 ได้กระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และยังพบว่าเงินเฟ้อของสปป.ลาว สูงที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน จากข้อมูลของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) เปิดเผยว่า การที่สปป.ลาว พึงพาการนำเข้ามากเกินไป และเงินกีบที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินตราต่างประเทศเป็นสาเหตุหลักของการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ นอกจากนี้ การประสบปัญหาอุทกภัยในปีนี้ ได้สร้างความเสียหายให้ผลผลิตทางการเกษตรและทรัพย์สินต่างๆ รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ต่างๆ ส่งผลให้มีความต้องการอาหารในประเทศเพิ่มมากขึ้น

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten196_Inflation_y22.php

ททท.จ่อออกโปรไฟไหม้ ดึงคนไทยเที่ยวไทยสกัดทัวร์ต่างประเทศ

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2565 ททท.เตรียมผลักดันโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ลักษณะโปรไฟไหม้ เพราะภายหลัง 31 ต.ค.2565 มาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย อาทิ คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกันจะสิ้นสุดลง จึงต้องดันโครงการใหม่ออกมาเพื่อช่วยลดต้นทุนการท่องเที่ยวของคนไทย ขณะที่ไทยกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจ และสถานการณ์น้ำท่วมซ้ำเติมบรรยากาศการท่องเที่ยว ทั้งนี้ ททท.จึงต้องปรับตารางเวลาดำเนินการตามแผนกระตุ้นการท่องเที่ยว ไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ 2566 มาใช้กระตุ้นการท่องเที่ยว โดยออกโปรโมชันแบบโปรไฟไหม้ ซึ่งยึดหลักการเดียวกับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน แต่เบื้องต้นใช้งบประมาณประจำปี 2566 เพื่อดึงกลุ่มคนไทยที่พร้อมเดินทางและพร้อมใช้จ่าย ดังนั้นต้องดึงคนไทยกลุ่มนี้ไว้ให้เที่ยวเมืองไทยในช่วงไตรมาส 4 ปี 2565 และไตรมาส 1 ปี 2566 และยังเป็นการสกัดการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของกลุ่มนักท่องเที่ยวไทย ที่เตรียมเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศที่เพิ่งเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้ว อาทิ ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี และฮ่องกง

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/economics/2521373

“เวียดนาม” ตลาดค้าปลีกออนไลน์ ปี 65 โต 20%

จากรายงาน Vietnam E-commerce White Book 2022 พบว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขัดขวางการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ในทางกลับกัน ตลาดค้าปลีกออนไลน์ของเวียดนามในปี 2564 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ มีมูลค่า 13.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 16% ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่ารายได้จากการค้าปลีกและบริการ หดตัว 0.21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะเดียวกัน ส่วนแบ่งของมูลค่าการค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์ในปีที่แล้ว อยู่ที่ 7% ของมูลค่าการค้าปลีกสินค้าและบริการรวม เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับปี 2563 อีกทั้ง คาดการณ์ว่าการค้าปลีกออนไลน์จะเพิ่มขึ้น 20% ในปีนี้ คิดเป็นมูลค่า 16.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/eretailing-to-grow-20-this-year/239588.vnp