7 เดือนแรกของปีงบฯ 63-63 ภาคปศุสัตว์ ประมง ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศถึง 5 โครงการ

ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ถึงสิ้นเดือนเมษายน 2564 -ของปีงบประมาณ 2563-2564 คณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัท (DICA) เผย ภาคปศุสัตว์และประมงดึงดูดโครงการลงทุนจากต่างประเทศจำนวน 5 โครงการ สร้างรายได้กว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประกอบด้วย ฟาร์มสัตว์ปีก สุกร ไก่เนื้อ และกุ้ง ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2531-2532 มีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ 16 ประเทศประมาณ 926.218 ล้านดอลลาร์ไหลเข้าสู่ภาคปศุสัตว์และการประมง ในจำนวนนั้น ประเทศไทยมีการลงทุนสูงสุด โดยมีมูลค่ามากกว่า 380 ล้านดอลลาร์ รองลงมาคือสิงคโปร์ด้วยเงินประมาณ 130 ล้านดอลลาร์

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/livestock-fisheries-attract-five-foreign-investment-projects-in-seven-months/

เวียดนามเผยการจัดเก็บงบประมาณ พุ่ง 15% ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้

กระทรวงการคลัง เผยว่าการจัดเก็บงบประมาณของภาครัฐฯ คาดว่าจะสูงถึง 98.6ล้านล้านดอง ในเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้รายได้รวมในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ แตะ 667.9 ล้านล้านดอง (29 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 15.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยจำนวนเงินดังกล่าว จะโอนไปยังงบประมาณส่วนกลางทั้งสิ้น 347 ล้านล้านดอง ในขณะที่งบประมาณส่วนท้องถิ่นอยู่ที่ 320.9 ล้านล้านดอง ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ระบุว่าการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 125.8 ล้านล้านดอง และมูลค่าการใช้จ่ายในช่วง 5 เดือนแรก อยู่ที่ 581.6 ล้านล้านดอง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/budget-collection-up-over-15-percent-in-five-months/203000.vnp

จับตา ‘ลิ้นจี่เวียดนาม’ วางจำหน่ายที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตในฝรั่งเศส

ลิ้นจี่สดของเวียดนามชุดแรกที่เพาะปลูกอยู่ในจังหวัดหายเซือง (Hai Duong) ไปวางจำหน่ายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตในฝรั่งเศส นับว่าเป็นครั้งแรกที่มีการนำเข้าผลไม้ท้องถิ่นไปยังประเทศแถบยุโรป การกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีผลบังคับใช้ข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรป (EVFTA) เมื่อวันที่ 1 สิ.ค. 2563 ทั้งนี้ นาย Ngo Minh Duong ประธานบริษัท Thanh Binh Jeune กล่าวว่าการนำเข้าลิ้นจี่ โดยใช้ผลประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี ควบคู่กับมาตรฐานคุณภาพและกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้านั้น ได้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพของธุรกิจ และช่วยให้สินค้ามีความน่าเชื่อถือมากขึ้นในหมู่ผู้บริโภคต่างประเทศ อีกทั้ง นาย Vu Anh Son หัวหน้าสำนักงานการค้าของเวียดนามในฝรั่งเศส กล่าวว่าความสำเร็จในการส่งออกลิ้นจี่ที่มีตราประทับแหล่งกำเนิดสินค้า ชี้ให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลเวียดนามในการส่งเสริมธุรกิจต่างๆ ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-lychees-with-origin-tracing-stamp-hit-shelves-in-france-866010.vov

กัมพูชาตั้งเป้าเพิ่มการส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไปยังตลาดต่างประเทศ

หลังจากกัมพูชาประสบความสำเร็จในการส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไปยังญี่ปุ่น ส่งผลทำให้ภาคธุรกิจกำลังจับตามองตลาดใหม่ๆ ที่มีความต้องการเม็ดมะม่วงหิมพานต์สูง อาทิเช่น ยุโรป สหรัฐอเมริกา แคนาดา จีน และออสเตรเลีย ซึ่งทิศทางในอนาคตของ Top Planning Japan (TPJ) ผู้ผลิตและส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์รายใหญ่ของกัมพูชา วางแผนร่วมมือกับกรมวิชาการเกษตรและอุตสาหกรรมในการเพิ่มการส่งออกไปยังตลาดใหม่ๆ เพื่อเป็นการพลักดันผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของประเทศให้เป็นที่ยอมรับของตลาดโลก โดยบริษัท TPJ ตั้งเป้าที่จะเพิ่มการผลิตและการแปรรูปเม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็น 20 ตันต่อเดือน และเพิ่มปริมาณเม็ดมะม่วงหิมพานต์สดเป็นกว่า 1,000 ตันในปี 2021 รวมถึงร่วมมือกับสมาคมมะม่วงหิมพานต์กัมพูชาสร้างโกดังใหม่รองรับเม็ดมะม่วงหิมพานต์สดที่มีความจุของโกดังอย่างน้อย 5,000 ตัน เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถจัดเก็บวัตถุดิบและควบคุมราคาให้เป็นไปตามสัญญากับคู่ค้า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50873657/cambodia-set-to-increase-exports-of-processed-cashew-nuts-to-europe-usa-canada-china-and-australia-markets/

เอกชนเซ็งเลื่อนวัคซีนโควิด-19 ซ้ำเติมธุรกิจ หวั่นฉุดเศรษฐกิจฟื้นตัวช้านำไปสู่การปิดกิจการ

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผย เอกชนมีความกังวลแผนการบริหารการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของภาครัฐที่เลื่อนออกไปพร้อมมูลข่าวสารต่างๆ ที่สร้างความสับสนให้ประชาชน จนอาจกระทบต่อเป้าหมายที่ต้องการฉีดให้ประชาชน 100 ล้านโดส ครอบคลุมประชากร 70% ภายในสิ้นปีนี้ และการเปิดประเทศก็ยิ่งชะลอออกไปจะซ้ำเติมเอสเอ็มอี เพราะเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าก็อาจนำไปสู่การปิดกิจการในที่สุด ซึ่งขณะนี้เอกชนมีความกังวลการเลื่อนฉีดวัคซีนแก่ผู้ประกันตนม.33 บางส่วนออกไป ซึ่งเป็นแรงงานประมาณ 5-6 ล้านคน และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ที่มา: https://www.khaosod.co.th/economics/news_6452820

บริษัท GTI ประจำกัมพูชา ประกาศหยุดการผลิตชั่วคราวเนื่องจากโควิด-19

บริษัท Grand Twins International (Cambodia) Plc. (GTI) ผู้ผลิตเสื้อผ้ารายใหญ่ในกัมพูชา ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (CSX) ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 มิ.ย. 64) ว่ากระทรวงสาธารณสุขและศาลาว่าการกรุงพนมเปญสั่งให้บริษัทหยุดดำเนินการการผลิตจนถึงวันที่ 20 มิถุนายน เนื่องจากมีพนักงานตัดเย็บเสื้อผ้ากว่า 200 คน ติดเชื้อโควิด-19 จึงจำเป็นต้องระงับสายการผลิตลง ส่งผลทำให้จัดส่งสินค้าให้กับคู่ค้าภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ไม่ได้ และยังส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทอย่างหนักอีกด้วย รวมถึงทำให้ปริมาณการซื้อขายของหลักทรัพย์ GTI ลดลงในช่วง 30 วันที่ผ่านมา โดยมูลค่าหุ้นลดลงมากกว่าร้อยละ 6.52

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50873330/gti-announces-suspension-of-production-because-of-covid-19/

คาดการทูตเชิงเศรษฐกิจหนุนเศรษฐกิจกัมพูชา ท่ามกลางการแพร่ระบาด

กัมพูชาเร่งส่งเสริมการทูตเชิงเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนอย่างมากในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 โดยในการประชุมครั้งที่ 2 ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เกี่ยวกับการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การทูตเชิงเศรษฐกิจประจำปี 2021-2023 ซึ่งมีปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นประทาน ผ่านภาคีความร่วมมือระหว่างประเทศ (MFA-IC) โดยหวังว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาจะดำเนินต่อไปได้ ด้วยการที่กัมพูชาจำเป็นต้องบูรณาการเศรษฐกิจภายในประเทศเข้ากับเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ผ่านเครื่องมือและกลยุทธ์ที่มีศักยภาพ เช่น กลยุทธ์ทางการทูตเชิงเศรษฐกิจ ที่มุ่งส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ การดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ การยกระดับภาคการท่องเที่ยว และการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและกีฬา เป็นหลัก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50872700/economic-diplomacy-to-boost-cambodian-economy-amid-covid-19-crisis/

กัมพูชาและไทยตกลงส่งเสริมการค้าข้ามพรมแดน

กัมพูชาร่วมกับไทยตกลงส่งเสริมและอำนวยความสะดวกทางด้านการค้าข้ามพรมแดนระหว่างกัน เพื่อที่จะผลักดันให้บรรลุเป้าหมายทางด้านการค้า ซึ่งในปี 2020 ทั้งสองประเทศกำหนดเป้าหมายไว้ที่ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยกล่าวผ่านการประชุมร่วมกันระหว่างรองนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลทำให้การค้าทวิภาคีมีมูลค่าอยู่ที่เพียง 7.24 พันล้านดอลลาร์ หรือครึ่งหนึ่งของเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งสินค้าเกษตรยังคงเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของกัมพูชาไปยังประเทศไทย ในขณะที่การส่งออกของไทยไปยังกัมพูชาส่วนใหญ่ประกอบด้วยพลังงาน ปุ๋ยทางการเกษตร อาหาร และเครื่องสำอาง เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50872147/cambodia-thailand-agree-to-boost-cross-border-checkpoint-trade/

สหรัฐฯ บริจาควัคซีน 500 ล้านโดสให้ 92 ประเทศรวมทั้งสปป.ลาว

สหรัฐฯ ประกาศจะซื้อและบริจาควัคซีนไฟเซอร์ 500 ล้านโดสให้กับ 92 ประเทศ รวมทั้งสปป.ลาว ผ่านโครงการ COVAX ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกที่แจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 ไปยังประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง สหรัฐฯ จะจัดสรรและส่งมอบวัคซีนเหล่านี้ให้กับประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลางทั่วโลก ปัจจุบันสถานการณ์ในประเทศสปป.ลาวอาจไม่ได้รุนแรงจากผลของมาตรการที่เข้มงวดแต่ถึงอย่างไร รัฐบาลสปป.ลาวได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับโปรแกรมการฉีดวัคซีนเพื่อเป็นอาวุธในการควบคุมการระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ และทุกคนได้รับการสนับสนุนให้ฉีดวัคซีนเพื่อนำพาประเทศกลับสู่สภาวะปกติทั้งในด้านสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ 

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_US_113.php

ไทยจ่อรับอานิสงส์อาร์เซ็ป จากการที่ญี่ปุ่นลดภาษีเพิ่มเติม

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผย ผลวิเคราะห์ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) เจาะเป็นรายประเทศ ล่าสุดได้ศึกษาการลดภาษีของญี่ปุ่น หลังจากที่รัฐสภาญี่ปุ่นอนุมัติเข้าร่วมความตกลงในเดือน เม.ย.64 พบว่ามีสินค้า 207 รายการที่จะลดเหลือ 0% ทันทีที่อาร์เซ็ปมีผลบังคับใช้ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตร ได้แก่ ประมง ผลไม้ เช่น ส้ม สับปะรด แป้งจากมันฝรั่ง แป้งสาคู น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันจากเมล็ดดอกทานตะวัน เป็นต้น  ภายใต้อาร์เซ็ป จีนยังลดภาษีเพิ่มเติมอีก 33 รายการ เช่น พริกไทย สับปะรดแปรรูป น้ำมะพร้าว ฯลฯ ส่วนเกาหลีใต้ ลดภาษีเพิ่มเติมอีก 413 รายการ เช่น เช่น ผักผลไม้แปรรูปและไม่แปรรูป น้ำมันที่ได้จากพืช แป้งมันสำปะหลัง ฯลฯ

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/economics/2114956