6 เดือนแรกของปี 65 มีนักท่องเที่ยวเยือนสปป.ลาว แตะ 42,197 คน

6 เดือนแรกของปี 2565 สปป.ลาว หลังการคลายล็อกดาวน์และการคลี่คลายของสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศทั้งสิ้น 42,197 คน จากรายงานพบว่า มีการท่องเที่ยวและพำนักโดยเฉลี่ย 7.9 วัน และใช้จ่ายเฉลี่ย 83 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคนต่อวัน สร้างรายได้มากกว่า 4.55 ล้านดอลลาร์ โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางผ่านสะพานมิตรภาพลาว-ไทย, สนามบินนานาชาติวัดไต และสนามบินนานาชาติหลวงพระบาง ตั้งแต่วันที่ 13-18 ก.ค.2565 มีนักท่องเที่ยวทั้งหมด 5,668 คน มากกว่าร้อยละ 70 มาจากไทย ซึ่งตั้งแต่เดือนพ.ค.- มิ.ย.2565 มีนักท่องเที่ยว 33,435 คนเดินเข้าประเทศ โดย 18,621 คนมาจากไทย และ 14,447 คนมาจากเวียดนาม ส่วนที่มาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 1,902 คน จากยุโรป 467 คน, สหรัฐอเมริกา 512 คน และแอฟริกาและตะวันออกกลาง 23 คน และเกาหลีใต้ 144 คน

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten152_Laos_welcomes_y22.php

สปป.ลาว คาดสถานการณ์น้ำมันใกล้กลับมาสู่ภาวะปกติ

ผู้อยู่อาศัยภายในจังหวัดเวียงจันทน์ มีความกังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการขาดแคลนเชื้อเพลิง โดยสถานีบริการน้ำมันหลายแห่งในเมืองถูกปิดตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากสต็อกน้ำขาดแคลน แต่อย่างไรก็ตามภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ให้ความมั่นใจว่าเร็วๆ นี้ สถานการณ์ทางด้านน้ำมันเชื้อเพลิงภายในจังหวัดจะกลับมาสู่ภาวะปกติ ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งเจรจากับสมาคมเชื้อเพลิงและก๊าซแห่ง สปป.ลาว เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการนำเข้าเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่น เนื่องจากคาดว่าสต็อกในปัจจุบันจะหมดลงภายในสิ้นเดือนนี้ และหวังว่าการนำเข้าเชื้อเพลิงจะกลับมาดำเนินการอีกครั้ง โดยปัญหาการขาดแคลนเชื้อเพลิงเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐบาลใช้มาตรการรุนแรงเพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ช่วยป้องกันไม่ให้ค่าเงินกีบมีมูลค่าลดลง แต่อัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ โดยรัฐบาลได้พยายามลดต้นทุนการขนส่งโดยการลดค่าธรรมเนียมที่จ่ายให้กับกองทุนบำรุงรักษาถนน เช่นเดียวกับการลดภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่จ่ายโดยธุรกิจ เพื่อไม่ให้ราคาสินค้าโดยภาพรวมสูงขึ้นไปมากกว่านี้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2022_Association149.php

เขตพัฒนาเศรษฐกิจใหม่สีทันดอนเปิดตัวเมกะโปรเจกต์ใน สปป.ลาว

เขตพัฒนาเศรษฐกิจใหม่สีทันดอน (SEZ) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ สปป.ลาว กำลังเริ่มก่อสร้างโครงการพัฒนาที่สำคัญ 2 โครงการ หลังจากเสร็จสิ้นการสำรวจที่ดินที่ดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่เขตและรัฐบาล โดยหนึ่งในโครงการพัฒนาคือโรงแรมขนาดใหญ่ใกล้กับแม่น้ำโขงและน้ำตกคอนพะเพ็ง ซึ่งรูปแบบอาคารจะสร้างขึ้นในรูปแบบแคนคู่ คาดว่าจะมีความสูงประมาณ 238.98 เมตร และคาดว่าจะเป็นอาคารที่สูงที่สุดใน สปป.ลาว โดยอีกหนึ่งโครงการคือคลังสินค้า ตั้งอยู่ห่างจากชายแดน สปป.ลาว-กัมพูชา 3 กม. โดยระยะแรกของการพัฒนาครอบคลุมพื้นที่ 120,000 ตารางเมตร ซึ่งโครงการจะประกอบด้วยคลังสินค้า สำนักงานศุลกากร หอพักของบริษัท พื้นที่ห้องเย็น และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงภาคการขนส่งในพื้นที่และส่งเสริมการค้าในภูมิภาค ในขณะที่ต้นทุนการก่อสร้างของทั้งสองโครงการยังไม่เปิดเผย ซึ่งการพัฒนาเฟสแรกของเขตพัฒนาเศรษฐกิจใหม่สีทันดอนมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2025 โดยมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 600 ล้านดอลลาร์ เริ่มก่อสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2018

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten148_Sithandone.php

แรงงานย้ายถิ่นสปป.ลาว ส่งเงินกลับบ้านราวหลายล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้

ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ชาวลาวที่ทำงานในต่างประเทศได้ส่งเงินจำนวนหลายล้านดอลลาร์สหรัฐไปยังประเทศบ้านเกิด โดยเงินส่วนใหญ่จะส่งไปให้ครอบครัว การส่งเงินข้างต้นคาดว่าจะมีมูลค่าราว 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน จากนั้นจะใช้ไปกับการซื้อสินค้าและบริการในประเทศ นับว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญ

ทั้งนี้ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมของสปป.ลาว กล่าวว่าการจ้างงานชาวลาวในต่างประเทศ มีข้อดีหลายประการทั้งคนงานเองและประเทศสปป.ลาว แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้สปป.ลาวขาดแคลนแรงงานในบางภาคส่วนของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม เดือนมิ.ย. ชาวลาวจำนวนมากกว่า 13,000 คน เดินทางไปเกาหลี ไทยและญี่ปุ่น เพื่อที่จะหางานทำหลังจากผ่านการทดสอบความสามารถในสปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten147_Lao_migrant_y22.php

สปป.ลาว – อินโดนีเซีย ร่วม MOU เพื่อพัฒนาโรงงานไฟฟ้า

บริษัท PT Pembangkitan Jawa-Bali (PJB) ของอินโดนีเซียและ บริษัท Electricite Du Laos (EDL) จากสปป.ลาว ได้ร่วมลงนามในความร่วมมือ (MOU) ด้านการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าร่วมกัน ซึ่งการลงนามดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลและเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำสปป.ลาว ร่วมเป็นสักขีพยาน ทั้งนี้ ภายใต้ MOU ดังกล่าว จะมีการศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินการ บำรุงรักษา ซ่อมแซมเพื่อการบริการ และเพื่อจัดหาเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าสำหรับสปป.ลาวและประเทศใกล้เคียง

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten147_Lao_Indonesia_y22.php

ชานซีเปิดตัวรถไฟบรรทุกสินค้าขบวนแรกจากจีน ไป สปป.ลาว

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (31 ก.ค.2565) มณฑลซานซี ทางเหนือของจีน เปิดตัวรถไฟบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศขบวนแรกที่วิ่งผ่านทางรถไฟจีน-สปป.ลาว  ซึ่งบรรทุกสินค้า เช่น เซรามิก สี และปุ๋ย ออกเดินทางจากมณฑลซานซีไปยังกรุงเวียงจันทน์ คาดว่าจะมาถึงสปป.ลาวในอีก 7 วัน โดยจะเชื่อมโยงคุนหมิงซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนกับเวียงจันทน์ ทั้งคาดว่ารถไฟบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศจะยกระดับและขยายการเชื่อมโยงด้านลอจิสติกส์ระหว่างพื้นที่ทางตอนเหนือของจีนและประเทศในกลุ่มอาเซียน รวมทั้งมีบทบาทในการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten146_Laos_Japan_y22.php

สหรัฐฯ ประกาศมอบเงิน 8.5 ล้านดอลลาร์ ให้ดำเนินโครงการเคลียร์ระเบิดในแขวงเชียงขวาง สปป.ลาว

สหรัฐอเมริกา ประกาศช่วยเหลือมอบเงินมูลค่า 8.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมแล้วเป็นระยะเวลา 12 เดือน ให้กับองค์กร Mine Advisory Group (MAG) เพื่อดำเนินโครงการเคลียร์กับระเบิดที่ยังไม่ระเบิด (UXO) สำรวจและศึกษาความเสี่ยงทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ระเบิดในแขวงเชียงขวาง (Xieng Khouang) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องการทำลายกับระเบิกที่ยังไม่ระเบิดยังคงเป็นภัยคุกคามร้ายแรง โดยเฉพาะพื้นที่ชุมชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านและชนบท โดยงานขององค์กร MAG ที่ดำเนินการเคียร์พื้นที่และให้การศึกษาถึงความเสี่ยงด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ จะทำให้ช่วยลดจำนวนผู้ประสบอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับระเบิด รวมถึงการจัดหาพื้นที่ปลอดภัยสำหรับกิจกรรมทางการเกษตร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมของสปป.ลาว อีกด้วย

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten142_USprovides.php

สหรัฐฯ สนับสนุนการจัดหาอุปกรณ์ฟื้นฟูผู้ป่วยในภาคเหนือของสปป.ลาว

ผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวในเขตขาม จังหวัดเชียงขวาง ของสปป.ลาว และพื้นที่ใกล้เคียงจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นฟูสมรรถภาพและการบริการด้านสุขภาพ โดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา คือ หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ (USAID) ได้บริจาคเงินกว่า 326 ล้านกีบ เพื่อจัดหาอุปกรณ์สำหรับการฟื้นฟูสมรรถภาพและการฝึกปฏิบัติหน้าที่ ณ โรงพยาบาลอำเภอขาม จังหวัดทางภาคเหนือ

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten142_USgives.php

รัฐบาล สปป.ลาว ให้คำมั่นว่าจะรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจของประเทศ

การประชุมของรัฐบาล สปป.ลาว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 ก.ค.2565)  รัฐบาลได้ให้คำมั่นที่จะรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศและยืนยันว่าจะไม่ยอมให้มีการผิดนัดชำระหนี้ โดยการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะเป็นหนึ่งใน 13 ภารกิจสำคัญที่รัฐบาลเห็นพ้องร่วมกันในการพัฒนาประเทศ ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าจำเป็นต้องควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ราคาของสินค้าอุปโภคบริโภคในตลาด และอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ที่ประชุมรับรองรายงาน 5 ฉบับ ประกอบด้วย ฉบับที่ 1 เป็นการประเมินความสำเร็จของรัฐบาล ฉบับที่ 2 กล่าวถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมและงบประมาณในช่วง 6 เดือนสุดท้ายของปีนี้  ฉบับที่ 3 เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบของหน่วยแลกเปลี่ยนเงินตรา สถาบันการเงินรายย่อย (ไมโครไฟแนนซ์) โรงรับจำนำ และร้านขายเครื่องประดับ ฉบับที่ 4 การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเชื้อเพลิง การให้บริการเชื้อเพลิง และการปรับปรุงโครงสร้างราคาน้ำมัน และฉบับที่ 5 ครอบคลุมถึงการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และโรคไข้เลือดออก

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten141_Govtpledges.php

สปป.ลาว – เวียดนาม มุ่งร่วมมือส่งเสริมการค้าและการลงทุน

สปป.ลาวและเวียดนามเร่งผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าทั้งด้านการค้าและการลงทุน โดยเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ได้มีการจัดพิธีครบรอบ 60 ปี ของความสัมพันธ์ทางการทูตและครบรอบ 45 ปี การลงนามสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือระหว่างสปป.ลาวและเวียดนาม ในพิธีการดังกล่าว ผู้นำระดับสูงของประเทศต่างๆ ได้แสดงความยินดีกับความสัมพันธ์ฉันมิตรที่มีมาอย่างยาวนาน ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความร่วมมือในทุกด้านของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ เหงียน ซวน ฟุก ประธานาธิบดีเวียดนาม กล่าวถึงความจำเป็นของทั้งสองประเทศที่จะส่งเสริมศักยภาพและทรัพยากรในประเทศ เพื่อยกระดับความร่วมมือทางการค้าและการลงทุน ตลอดจนเป็นเสาหลักของความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังมีการวางแผนที่จะสร้างทางรถไฟเชื่อมระหว่างเวียงจันทน์กับท่าเรือ และทางด่วนเพื่อเชื่อมโยงเมืองหลวงของทั้งสองประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2022_Laos139.php