MIC ลดค่าธรรมเนียมสมัคร 50% สำหรับนักลงทุนจากการระบาดของ coronavirus

คณะกรรมการการลงทุนของเมียนมา (MIC) ประกาศเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2563 นักลงทุนที่ต้องการสมัครขออนุญาตลงทุนในประเทศจะได้รับส่วนลด 50% ทั้งนักลงทุนชาวเมียนมาและนักลงทุนต่างชาติ วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการลงทุนและช่วยให้ธุรกิจประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาที่ COVID-19 ระบาดอยู่ในขณะนี้ MIC อนุมัติการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมูลค่ามากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐจาก 11 ธุรกิจและการลงทุนในท้องถิ่นมูลค่า 50,000 ล้านจัต เมื่อวันที่ 3 เมษายน 1 วันหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 20 ราย ซึ่งรวมถึงการลงทุนในภาคต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมการก่อสร้างและบริการนอกเหนือจากการขยายธุรกิจที่มีอยู่แล้ว 13 แห่ง

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/mic-halves-application-fees-investors-coronavirus-bites.html

สหภาพยุโรปให้เงินฉุกเฉิน 5 ล้านยูโรแก่แรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าชาวเมียนมา

สหภาพยุโรป (EU) จะให้เงินสด 5 ล้านยูโร (7.9 พันล้านจัต) ให้กับแรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าชาวเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 กองทุนเงินสดฉุกเฉิน Myan Ku (เงินช่วยเหลือด่วน) สำหรับอุตสาหกรรมเน้นผลิตเสื้อผ้าแบบแบบ Cutting Making และ Packaging (CMP) ที่ตกงานเนื่องจาก COVID-19 ณ สิ้นเดือนมีนาคมมีพนักงานกว่า 25,000 คนจาก 40 โรงงานถูกปลดในขณะที่ 350,000 คนมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างหรือตกงาน อุตสาหกรรมมีการว่าจ้างมากถึง 700,000 คนส่วนใหญ่เป็นแรงงานหญิงในโรงงาน 600 แห่ง

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/eu-provides-eu5-million-emergency-cash-myanmar-garment-workers.html

ผู้แทนสปป.ลาวจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนพิเศษ

นาย Saleumxay Kommasith รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสปป.ลาวจะเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนผ่านทางวิดีโอระดับในเรื่องการเตรียมการพิเศษสำหรับมาตราการป้องกัน COVID-19 วาระสำคัญของการประชุมสุดยอดคือการตอบสนองโดยรวมในระดับภูมิภาคต่อการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ซึ่งขณะนี้กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญสำหรับอาเซียนในการรักษาสุขภาพของประชาชนรวมถึงการรักษาเศรษฐกิจและความมั่นคงทางสังคมในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญในปัจจุบัน ผู้เข้าร่วมประชุมยืนยันความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของอาเซียนในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคโดยเฉพาะการบำรุงรักษาห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาคสำหรับสินค้ายาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นต่อการต่อสู้กับโรคระบาด อย่างไรก็ตามในที่ประชุมยังเสนอให้แต่ละประเทศควรดำเนินการตามกรอบแนวทางของ WHO เพื่อให้สอดคล้องกับภาพรวมของสากลและได้มาตราฐานในการป้องการและควบคุมโรคระบาด

ที่มา:http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_to_join_74.php

นายกรัฐมนตรีกำชับในเรื่องการแจกจ่ายอุปกรณ์ททางการแพทย์ให้เพียงพอ

เมื่อเร็วๆนี้ได้มีการประชุมร่วมกันของคณะรัฐมนตรีกับคณะทำงานเฉพาะกิจแห่งชาติเพื่อการป้องกันและควบคุม COVID-19 โดยในที่ประชุมได้หารือกันถึงเรื่องการช่วยเหลือประชาชนอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพสิ่งสำคัญในการช่วยเหลือคืออุปกรณ์ทางการแพทย์และยารักษารวมถึงหน้ากากอนามัยที่นายกรัฐมนตรีกำชับต่อเจ้าหน้าที่ว่าต้องมีแจกจ่ายให้เพียงพอและให้เจ้าหน้าที่สอดส่องและดำเนินคดีต่อผู้ที่อาจนำหน้ากากอนามัยมาขายในช่วงนี้ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมาย นอกจากนี้ในที่ประชุมนายกรัฐมนตรีได้แจ้งให้คณะกรรมการเฉพาะกิจจัดตั้งทีมงานเฉพาะด้านเพื่อดูแลเรื่องการจัดหาและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงพอในสถานการณ์การแพร่ระบาดCOVID-19 ในปัจจุบัน

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_PM_aid_74.php

คาดการณ์ภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชาจะใช้เวลาในการฟื้นตัวมากกว่าภาคอื่นๆ

ภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการแพร่กระจายของ Covid-19 จะฟื้นตัวช้ากว่าภาคอื่นๆ หลังจากการระบาดสิ้นสุดลง โดยประธานสมาคมตัวแทนการท่องเที่ยวกัมพูชากล่าวว่าการท่องเที่ยวแตกต่างจากภาคอื่นๆ ซึ่งกิจกรรมการท่องเที่ยวจะไม่กลับสู่ภาวะปกติในเร็วๆนี้เนื่องจากเป็นวิกฤตระดับโลกและเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของผู้คน โดยอาจจะใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งปีถึงหนึ่งปีสำหรับผู้ผู้คนในประเทศที่จะเริ่มท่องเที่ยวในวันหยุด ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศอาจใช้เวลานานกว่า แต่อย่างไรก็ตามกัมพูชาจะต้องพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มากขึ้นหลังจากสถานการณ์กลับสู่ปกติ ซึ่ง Covid-19 ได้ส่งผลกระทบต่อคนงานทั้งหมด 630,000 คนในภาคการท่องเที่ยว และมีคนว่างงานอีกกว่า 30,000 คนในขณะนี้ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวแสดงให้เห็นว่ากัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6,610,592 คน เพิ่มขึ้น 6.61% จากปี 2561 โดยนักท่องเที่ยวจีนมีจำนวน 2.36 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16.7% เวียดนามอันดับสองอยู่ที่ 908,803 คน เพิ่มขึ้น 13.6% จากข้อมูลของกระทรวงแสดงให้เห็นว่ากัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 931,826 คน ในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปี 2562 ลดลง 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50711043/tourism-to-take-longer-to-recover-from-pandemic-than-other-sectors/

รัฐบาลกัมพูชาตัดงบ 918 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อรับมือต่อการระบาดของ Covid-19

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้ประกาศว่าจะตัดงบประมาณภาครัฐฯออก 918 ล้านเหรียญสหรัฐ จากรายจ่ายฝ่ายทุนในปีนี้เพื่ออัดฉีดเข้าสู่ภาคสุขภาพ เพื่อต่อสู้กับการระบาดของ COVID-19 ที่ยังคงระบาดอยู่ในปัจจุบัน โดยได้ก่อตั้งกองทุนสำรองไว้ก่อนหน้านี้สำหรับการใช้จ่ายของหน่วยงานระหว่างรัฐบาล รวมถึงการระดมทุนในท้องถิ่น ซึ่งเงินส่วนสนับสนุนนอกจากการจัดซื้อเวชภัณฑ์ที่มีความสำคัญเป็นลำดับแรกๆแล้ว นายกฮุนเซนยังกล่าวว่าส่วนหนึ่งของงบประมาณจะถูกนำมาใช้เพื่อให้แน่ใจว่าอาหารจะมีเพียงพอต่อความต้องการในประเทศและจะถูกเก็บรักษาอย่างปลอดภัย โดยทางฝั่งของคนงานการ์เม้นท์ที่ได้รับผลกระทบโดยการถูกพักงานชั่วคราวหลังจากปิดโรงงานก็จะได้รับการเยียวยาในด้านต่าง ๆ เช่นเดียวกัน โดยเงินจะถูกจัดสรรมาจากเงินจำนวน 8.23 ​​พันล้านเหรียญสหรัฐ ที่รัฐบาลอนุมัติสำหรับค่าใช้จ่ายโดยรวมในปี 2563 หรือเพิ่มขึ้น 22.7% ในปี 2562 ซึ่งผลกระทบของ COVID-19 เริ่มปรากฏในทุกภาคส่วนอย่างทั่วถึง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50711042/918-million-cut-from-govt-budget-to-use-for-pandemic/

ธุรกิจเลิกกิจการเกือบ 35,000 ราย ในไตรมาสแรก

จากรายงานของกระทรวงวางแผนและการลงทุน (MPI) เปิดเผยว่าธุรกิจเลิกกิจการเกือบ 35,000 รายที่ตั้งฐานอยู่ในเวียดนาม ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, ศิลปะ, บันเทิง, ท่องเที่ยว, บริการที่พัก, การขนส่งและคลังสินค้า โดยกลุ่มธุรกิจข้างต้นประสบปัญหาอย่างมากและในที่สุดก็ล้มเลิกกิจการ ยิ่งกว่านี้ จำนวนธุรกิจที่ก่อตั้งใหม่ทั้งหมดมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยภาพรวมนั้น เวียดนามมีธุรกิจก่อตั้งใหม่อยู่ที่ 29,700 ราย ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ด้วยมูลค่าจดทะเบียนรวม 350,000 พันล้านด่ง ชี้ให้เห็นว่าจำนวนธุรกิจยังคงเพิ่มขึ้น แต่มูลค่าจดทะเบียนดิ่งลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/q1-sees-nearly-35000-businesses-withdraw-from-market-412291.vov

นครโฮจิมินห์ : ภาคท่องเที่ยวสูญเสียรายได้กว่า 426 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสแรก

กระทรวงการท่องเที่ยวของนครโฮจิมินห์ คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเมือง จะสูญเสียรายได้ราว 10 ล้านล้านด่ง (426.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ จากผลกระทบของการระบาดโควิด-19 โดยข้อมูลของสำนักงาน ชี้ให้เห็นว่าเมืองหลวงทางตอนใต้มีจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 1.3 ล้านคน ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 42.26 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทางสำนักงานได้เตรียมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค เพื่อความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสที่ 2 และยังร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อหาแนวทางพัฒนาท่องเที่ยวชุมชนในพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเยือนในนครโฮจิมินห์มากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีนและสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ซึ่งช่วยให้เมืองได้มีรายได้อยู่ที่ 39.8 ล้านล้านด่ง  ในช่ว และยังร่วมมือกับสำนักงานวิทยาวกันของปีก่อนในช่วงเวลาดังกล่าว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/hcm-city-tourism-sector-endures-losses-of-over-426-mln-usd-in-q1/171376.vnp

การส่งออกประมงเมียนมาชะลอตัว

การส่งออกผลิตภัณฑ์ประมงขอเมียนมาเกือบจะหยุดชะงักตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของ COVID-19 และโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ประมงแช่แข็งกำลังประสบปัญหาในการดำเนินงาน ปัจจุบันมีการระงับการสั่งซื้อในหลายประเทศ ส่วนข้อตกลงการสั่งซื้อได้หยุดการเจรจาลงและข้อตกลงที่มีอยู่ปัจจุบันถูกระงับ ผลิตภัณฑ์ประมงจากทะเลส่วนใหญ่ส่งออกไปยังยุโรปและประเทศในเอเชีย ขณะที่ ผลิตภัณฑ์น้ำจืดถูกส่งออกไปยังประเทศอาหรับ ปัจจุบันโรงงานแปรรูปที่มีแรงงานจำนวนมากอาจไม่สามารถจ่ายค่าแรงได้หากสถานการณ์ยังคงเป็นแบบนี้ ในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาและสิงคโปร์ได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด COVID-19 จึงมีการแนะนำให้เมียนมาพิจารณาในแนวทางดังกล่าว ระหว่างเดือนตุลาคม 2562 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ของปีงบประมาณปัจจุบันเมียนมาส่งออกผลิตภัณฑ์ทางทะเลเกือบ 340,000 ตันมูลค่ามากกว่า 412 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (572 พันล้านจัต)

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/exports-fisheries-products-slow-crawl.html

แรงงานโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าออกมาประท้วง

เกิดการประท้วงที่โรงงานทั้งหมดภายใต้สหพันธ์แรงงานเสื้อผ้าเมียนมา (FGWM) ซึ่งการประท้วงเกิดขึ้นที่โรงงานหกแห่งซึ่งอยู่ภายใต้สมาพันธ์ฯ  แต่ต่อมาก็แยกย้ายกันไป เหตุเพราะได้ทำการปิดชั่วคราวเพื่อปฏิบัติตามและการให้ความร่วมมือตามคำสั่งของรัฐบาล ในหกโรงงานนี้มีการระงับข้อพิพาทที่โรงงาน K World และ Charis Garment โรงงานแอมเบอร์สโตนที่ไม่ได้จ่ายค่าแรงให้คนงานในเดือนมีนาคม

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/protests-garment-factories-myanmar-called.html