สปป.ลาวสำรวจทางด่วนสายใหม่เชื่อมไทย-จีน

นักสำรวจกำลังออกแบบเส้นทางสำหรับทางด่วนสายใหม่ในประเทศลาว ซึ่งจะลดเวลาการเดินทางระหว่างภาคเหนือของประเทศไทยที่เชื่อมต่อกับห้วยไซ ในแขวงบ่อแก้วของสปป.ลาวและโบเต็น ในแขวงหลวงน้ำทาที่มีพรมแดนติดกับจีน ทางด่วนได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลลาวในปี 2563 โดยมีมูลค่าการก่อสร้างประมาณ 3.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ทางหลวงความยาว 180 กิโลเมตรจะช่วยให้ยานพาหนะสามารถเดินทางได้ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และการขับรถจากไทยไปยังจีนผ่านลาวจะใช้เวลาน้อยลงนำมาซึ่งประโยชน์ด้านการขนส่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ที่มา : https://www.bangkokpost.com/business/2143227/laos-surveys-new-expressway-linking-thailand-china

ครม.อนุมัติทางด่วนบ่อแก้ว-บ่อเต็นเชื่อมจีน-ไทย

รัฐบาลอนุมัติการก่อสร้างทางด่วนระหว่างแขวงบ่อแก้วและแขวงบ่อเต็น ซึ่งจะเชื่อมโยงจีนและไทยและสปป.ลาว ทางพิเศษบ่อแก้ว-บ่อเต็น ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงโยธาธิการและคมนาคม โดยจะวิ่งจากบ่อเต็นที่ชายแดนลาว-จีนในแขวงหลวงน้ำทาและต่อไปยังชายแดนลาว-ไทยในเขตห้วยทราย แขวงบ่อแก้วการก่อสร้างทางด่วนระยะทาง 176.3 กม. คาดว่าจะมีมูลค่า 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จะช่วยให้ยานพาหนะสามารถเดินทางได้ 80 กม. ต่อชั่วโมง และลดเวลาการเดินทางระหว่างบ่อเต็นและห้วยทรายให้เหลือเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง โครงการนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งในความพยายามของรัฐบาลในการเปลี่ยนลาวจากการไม่มีทางออกสู่ทะเลเป็นทางเชื่อมทางบกภายในภูมิภาค

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt127.php

เยอรมนีมอบเงินเพิ่มเติม 5.5 ล้านยูโรสำหรับการพัฒนาชนบทให้สปป.ลาว

รัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีจะยังคงสนับสนุนรัฐบาลสปป.ลาวในการปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในชนบทในแขวงหัวพันด้วยเงินรวม 5.5 ล้านยูโร (มากกว่า 62 พันล้านกีบ) ภายใต้โครงการพัฒนาชนบทระยะที่ 3 (RDP III) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาระหว่างรัฐบาลระหว่างสปป.ลาวและเยอรมนีเมื่อปีที่แล้ว ประชากรสปป.ลาวมากกว่าหนึ่งในสามอาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท และชุมชนในชนบทเหล่านี้ประสบกับอัตราความยากจนที่สูงเนื่องจากการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานอย่างจำกัด ตั้งแต่ปี 1994 รัฐบาลเยอรมันให้คำมั่นที่จะสนับสนุนลาวในด้านการพัฒนาชนบท ภายใต้ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาลาว-เยอรมัน เกือบ 100 ล้านยูโรได้ถูกลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานผ่าน KfW การสนับสนุนเบื้องต้นมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานจากขั้นตอนก่อนหน้าของโครงการ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Germany126.php

กระทรวงเกษตรและป่าเร่งกระตุ้นส่งออกโคไปจีน

กระทรวงเกษตรและป่าไม้ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการมากขึ้นเพื่อส่งเสริมการเลี้ยงโค ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอกชนผลิตโคเพื่อส่งออกไปยังจีนมากขึ้น กรมวิชาการเกษตรและป่าไม้ทั่วประเทศได้รับคำสั่งให้เปิดตัวแคมเปญประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งให้เกษตรกรและผู้ผลิตทราบเกี่ยวกับการเปิดตลาดโคของจีนอย่างเป็นทางการ ภายใต้ข้อตกลงที่ลงนามระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ สปป.ลาวได้รับโควตาจำนวน 500,000 ตัวเพื่อส่งออกไปยังประเทศจีน ทั้งนี้การเลี้ยงโคของสปป.ลาวต้องเป็นตามมาตรฐานของทางจีนกำหนด เป็นความท้าทายที่สำคัญของสปป.ลาวในการปรับปรุงพัฒนาการเลี้ยงโคให้มีประสิทธิภาพรวมถึงการพัฒนาระบบเกษตรโดยรวม

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Ministry_125.php

เวียดนาม สปป.ลาว ลงนามสัญญาความร่วมมือ

เวียดนามและสปป.ลาวได้ลงนามในข้อตกลงหลายฉบับเพื่อกระชับความสัมพันธ์ฉันมิตรและความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ สนธิสัญญาดังกล่าวได้รับการลงนามหลังจากการประชุมระหว่างเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคปฏิวัติประชาชนลาว (LPRP) และเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เหงียนฟู่จ่อง ในบรรดาข้อตกลงที่ลงนาม ได้แก่ ข้อตกลงเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ความร่วมมือเวียดนาม-ลาวสำหรับปี 2564-2573 และความร่วมมือทวิภาคีในปี 2564-2568 มีการลงนามข้อตกลงหลายประการในด้านการลงทุน ธุรกิจ ข้อมูล วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/asiapacific/2021-06/28/c_1310032347.htm

‘สัมพันธ์เวียดนาม-สปป.ลาว’ ส่งผลการค้าเฟื่องฟู

ตามรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) เผยว่าการค้าเทวีภาคีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2559-2563 ได้บรรลุเป้าหมายมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่เมื่อปี 2563 กิจกรรมการค้าเกิดอุปสรรค เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระบาด อย่างไรก็ดี ก็สามารถกลับมาฟื้นตัวในช่วงต้นปี 2564 ทั้งนี้ ในเดือนพฤษภาคม ยอดการค้าระหว่างเวียดนามกับสปป.ลาว อยู่ที่ 570.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 39.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี นอกจากนี้ การค้าระหว่างเวียดนามกับสปป.ลาว ยังได้รับประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี ทำให้อัตราภาษีศุลากากรอยู่ที่ 0% ด้วยเหคุนี้ ทางกระทรวงจึงแนะนำให้ผู้ประกอบการเวียดนามเข้ามาลงทุนในสปป.ลาว เพื่อยกระดับการส่งสินค้าและบริการไปยังตลาดนี้ โดยเวียดนามถือเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 3 ในสปป.ลาว และส่วนใหญ่จะลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงาน การธนาคารและอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-laos-enjoy-flourishing-trade-ties/203731.vnp

เศรษฐกิจ การเงินและการปราบปามยาเสพติด ได้รับการเสนอให้เป็นวาระแห่งชาติ

คณะกรรมการกลางของพรรคปฏิวัติประชาชนสปป.ลาวได้แก้ไขการดำเนินการที่มุ่งแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ การเงินและการปราบปามยาเสพติด ซึ่งได้รับการเสนอให้เป็นวาระแห่งชาติ ที่ประชุมเห็นชอบเกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการเงินที่รัฐบาลนำเสนอ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มการจัดเก็บรายได้ การส่งเสริมความรัดกุมในการการลงทุนของรัฐและการรักษาเสถียรภาพของสกุลเงิน ในการนี้ ที่ประชุมได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่จะดำเนินการป้องกันและปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดอย่างเป็นระบบ รวมทั้งดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดอย่างเคร่งครัด โปร่งใส และเป็นธรรม

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Party_123.php

ทางด่วนเชื่อมต่อสปป.ลาว-จีน จะแล้วเสร็จภายใน 10 ปี

โครงการทางด่วนรถไฟสปป.ลาว-จีน คาดการณ์ว่าจะใช้เวลา 10 ปีในการสร้าง เชื่อมต่อระหว่างเวียงจันทน์และบ่อเต็นที่ชายแดนจีนในแขวงหลวงน้ำทา มูลค่าโครงการกว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทางด่วนจะครอบคลุมระยะทางทั้งหมด 440 กม. และประกอบด้วยสี่ส่วนโดยปัจจุบันรัฐบบาลได้อนุญาติให้เปิดใช้งานเพียงส่วนที่สองที่เชื่อมต่อระหว่างแขวงวังเวียงและแขวงหลวงพระบาง ในส่วนอื่นๆยังไม่มีการเปิดใช้ ทางด่วนสปป.ลาว-จีนเป็นโครงการหนึ่งภายใต้โครงการ One Belt, One Road Initiative ของจีน และเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพระหว่างสปป.ลาวและจีน ทางด่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งของพยายามของรัฐบาลสปป.ลาว ในการปรับปรุงการขนส่งสินค้าและผู้คนเพื่อส่งเสริมการผลิตสินค้า ส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และบริการ รวมถึงเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจในอนาคต

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos121.php

รถไฟขบวนแรกสปป.ลาว-จีน จะทดสอบเดินขบวนในเดือน ส.ค.

การดำเนินการทดลองรถไฟสปป.ลาว-จีนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม ก่อนที่ทางรถไฟจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคมปีนี้ อีกทั้งการก่อสร้างสถานีตามเส้นทางรถไฟทั้งหมดมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนกันยายนและตุลาคม โดยมีสถานีโดยสาร 10 แห่งในเวียงจันทน์, โพนหง, วังเวียง, กาซี, หลวงพระบาง, งา, ไซ, นามอร์, นาเตย และบ่อเต็น นอกจากนี้ยังมีสถานีขนส่งสินค้า 22 สถานีสำหรับการขนถ่ายสินค้า โครงการสร้างทางรถไฟมูลค่า 5.986 พันล้านดอลลาร์ (37.4 พันล้านหยวน) เริ่มขึ้นในเดือนธันวาคม 2559 ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญของแผนริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทางของจีน และแผนของรัฐบาลสปป.ลาวในการเปลี่ยนลาวจากประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลให้กลายเป็นทางเชื่อมทางบกภายในภูมิภาค

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_First_120.php

นครหลวงเวียงจันทน์ยืนยันไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19

นครหลวงเวียงจันทน์ ยืนยันไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เป็นครั้งที่สอง นับตั้งแต่ระลอกที่สองเริ่มขึ้น ดร.พรประเสริฐ สายมงคล นำการบรรยายสรุปประจำวันโดยคณะทำงานเฉพาะกิจในวันนี้ โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่กระจายของไวรัสในสปป.ปลาว จำนวนเคสทั้งหมดที่บันทึกไว้ในสปป.ลาวตอนนี้มียอดสะสมที่ 2,054 ราย ความพยายามอย่างต่อเนื่องของผู้อยู่อาศัยในนครหลวงเวียงจันทน์ในการปฏิบัติตามมาตรการล็อกดาวน์และมาตรการป้องกันโควิด-19 ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อแพร่กระจายในชุมชนมีแนวโน้มลดลง เวียงจันทน์เป็นเมืองหลวงที่สำคัญของสปป.ลาว ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศทั้งในด้านการลงทุน การค้าขายและการท่องเที่ยว การที่สถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้นถือเป็นสัญญาณที่ดีในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปได้อย่างต่อเนื่องเหมือนช่วงปกติก่อนเกิดโควิด-19

ที่มา : https://laotiantimes.com/2021/06/21/vientiane-capital-confirms-zero-cases-of-covid-19/