‘เวียดนาม’ เผยผปก. SMEs เติบโตบนแพลตฟอร์มอเมซอน ดันส่งออกโต 50%

จากรายงานของแพลตฟอร์มชื่อดัง ‘อเมซอน (Amazon)’ เปิดเผยว่าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของเวียดนาม เล็งเห็นถึงประโยชน์จากแพลตฟอร์มอเมซอน ทั้งการเพิ่มยอดขายของสินค้าและการสร้างแบรนด์ให้สามารถตีตลาดต่างประเทศได้ ซึ่งจากข้อมูลสถิติพบว่ายอดการส่งออกของคู่ค้าเวียดนามบนแพลตฟอร์มอเมซอน ขยายตัวกว่า 50% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเฉพาะสินค้าในหมวดของใช้ในครัว สุขภาพ เครื่องแต่งกายและความงามที่กลายเป็นสินค้าส่งออกที่ทำรายได้มากที่สุดบนแพลตฟอร์มอเมซอน และมีแนวโน้มที่จะผลิตและส่งออกสินค้าประเภทอื่นๆ ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน เป็นต้น

ทั้งนี้ อีคอมเมิร์ซเป็นปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จในการส่งออกของธุรกิจเวียดนาม โดยจำนวนพันธมิตรการขายบนแพลตฟอร์มของอเมซอน เพิ่มขึ้นมากกว่า 40% และขยายไปสู่ธุรกิจต่างๆ ตั้งแต่ผู้ค้าปลีกที่มีชื่อเสียงอย่าง ‘Lamer’ ไปจนถึงผู้ผลิตแบบดั้งเดิม ‘Beefurni’ และสตาร์ทอัพอย่าง ‘Tidita’ และ ‘Abera’ ได้ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคต่างประเทศ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1650393/vietnamese-smes-thrive-on-amazon-export-growing-50.html

บริษัทผู้ผลิตเหล็กมาเลเซีย จัดทำข้อตกลงร่วมกับผู้ประกอบการกัมพูชาในการจัดหาทรัพยากร

บริษัท LEFORM Bhd ซึ่งเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เหล็ก ได้ทำสัญญาร่วมกับ บริษัท Nim Meng Group Co., Ltd. ประเทศกัมพูชา ผ่านบริษัทย่อยอย่าง บริษัท Leform Metal SdnBhd ในการจัดหาทรัพยากรเผื่อการผลิตราวกั้นทางหลวง สำหรับโครงการปรับปรุงถนนแห่งชาติหมายเลข 5 ด้วยมูลค่าสัญญารวมกว่า 1.95 ล้านดอลลาร์ โดยโครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งและประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ในกัมพูชา ซึ่งสัญญาดังกล่าวจะเริ่มต้นในช่วงเดือนสิงหาคม 2024 และสิ้นสุดภายในเดือนธันวาคม 2024

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501398756/listed-malaysian-steel-products-manufacturer-leformbags-supply-deal-in-cambodia-worth-1-9-million/

ผู้ประกอบการกัมพูชาคาดส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปยังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น

สมาคมนักลงทุนนวัตกรรมและการพัฒนา (IDI) กล่าวว่า ผู้ประกอบการและผู้ผลิตชาวกัมพูชาคาดว่าจะเพิ่มการส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหารแปรรูปไปยังตลาดสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น หลังผู้ประกอบการกว่า 90 ราย ได้ไปเยือนยังสหรัฐฯ เพื่อสำรวจโอกาสในการหาพันธมิตร เรียนรู้การปฏิบัติตามกฎหมายและขั้นตอนการส่งออก ตลอดจนทำความเข้าใจด้านโอกาสและความท้าทายในการส่งออกผลิตภัณฑ์ของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ โดยการเยือนครั้งนี้จัดขึ้นโดย Innovations and Development Investors Association (IDI) ภายใต้ความร่วมมือกับหอการค้ากัมพูชาในแคลิฟอร์เนีย (AmCham) และผู้ประกอบการกัมพูชา สำหรับตลาดสหรัฐฯ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์ของกัมพูชา คิดเป็นประมาณร้อยละ 40 ของการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชาที่มูลค่า 6.8 พันล้านดอลลาร์ สำหรับในช่วง 9 เดือนแรก ลดลงร้อยละ 2.1 จาก 7 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิตทั่วไป (GDCE)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501398041/cambodia-entrepreneurs-foresee-rise-in-exports-of-agri-food-products-to-us/

‘เวียดนาม’ ตั้งเป้าดันส่งออกสินค้าเกษตรไปยังแอฟริกา

นายห่า กิม หงอก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม กล่าวในที่ประชุมเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ว่าแอฟริกายังคงเป็นเส้นทางการค้าระหว่างเวียดนามและตลาดโลก ในขณะที่เจ้าหน้าของกระทรวงฯ ได้อธิบายถึงข้อมูลในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ พบว่าการค้าระหว่างทั้งสองประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.7% มูลค่า 4.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ว่าการค้าระหว่างเวียดนามและตลาดโลก หดตัว 11% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ทั้งนี้ จากจำนวนประชาชนแอฟริการาว 1 พันล้านคน และความพร้อมของเวียดนามที่ต้องการส่งออกสินค้าเกษตรไปยังแอฟริกา ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการเวียดนามควรใช้มาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสมในการส่งเสริมสินค้าเกษตรไปยังตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งด้านคุณภาพและราคาสินค้า

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-aims-to-promote-agricultural-exports-to-africa/270581.vnp

‘เวียดนาม’ เผยยอดจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่ ต.ค.66 กว่า 15,000 ราย

สำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) เปิดเผยว่าเดือนตุลาคม 2566 มีผู้ประกอบการยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ จำนวน 15,435 ราย เพิ่มขึ้น 18.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ด้วยมูลค่าทุนจดทะเบียน 126 ล้านล้านดอง ทั้งนี้ จากข้อมูลตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงตุลาคม 2566 เวียดนามมีผู้ประกอบการยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศ จำนวนรวมทั้งสิ้น 131,800 ราย ด้วยทุนจดทะเบียน 1.2 ล้านล้านล้านดอง ถึงแม้ว่าจะสะท้อนให้เห็นว่าจำนวนธุรกิจใหม่เพิ่มสูงขึ้น 4.7% อย่างไรก็ดีหากพิจารณาทุนจดทะเบียนกลับลดลง 12%

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnam-has-over-15000-new-market-entrants-in-oct/

CGCC ให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อในกัมพูชามูลค่ารวมกว่า 149 ล้านดอลลาร์

สถาบันค้ำประกันสินเชื่อประเทศกัมพูชา (CGCC) ให้การค้ำประกันสินเชื่อแก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSME) มูลค่ารวมกว่า 149 ล้านดอลลาร์ ณ เดือนกันยายน 2023 โดยค้ำประกันให้กับภาคธุรกิจไปแล้วกว่า 1,762 แห่ง ซึ่งยังเหลือยอดเงินค้ำประกันให้กับผู้ประกอบการในช่วงปีงบประมาณอีก 111 ล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการค้ำประกันของ CGCC ได้ร่วมมือกับสถาบันการเงิน (PFI) กว่า 27 แห่ง ในการสนับสนุนการค้ำประกันเงินกู้และปล่อยสินเชื่อ เพื่อให้ภาคธุรกิจ MSMEs มีเงินทุนในการขยายธุรกิจ ด้าน CGCC ถือเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและช่วยผลักดันให้ภาคธุรกิจในกัมพูชาเกิดการเติบโต ซึ่งก่อนหน้าได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงวิกฤตเงินเฟ้อที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501378625/cgcc-provides-149m-credit-support/

นภินทร เร่งแก้ส่งออกกระจุกตัว ดันเอสเอ็มอีค้าชายแดน 1.2 ล้านล้าน

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการมอบนโยบายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา และสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ได้สั่งการให้ทุกกรมฯ ช่วยกันแก้ปัญหาการกระจุกตัวด้านการส่งออกที่ส่วนใหญ่จะอยู่เฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ พร้อมกับส่งเสริมให้ธุรกิจเอสเอ็มอีสามารถส่งออก หรือค้าชายแดน และค้าผ่านแดนให้มากขึ้น ดังนั้น เราอยากผลักดัน ให้รายได้ส่งออกจากเอสเอ็มอีมีเพิ่มขึ้น ให้มีสัดส่วนให้ได้ 35% ของภาพรวมการส่งออก ทั้งนี้ ทุกกรมฯที่เกี่ยวข้องกำลังจัดทำแผนงานบุรณณาการร่วมกันอยู่ และจะเริ่มโปรโมตทำมหกรรมการค้าด่านใหญ่ๆ ในจังหวัดที่ติดชายแดนก่อน ซึ่งจะกระตุ้นให้การค้าชายแดนเติบโตได้ โดยตั้งเป้าหมายว่าในปี 67 ยอดการค้าชายแดนจะเติบโต 20% เพิ่มจากประมาณ 1 ล้านล้านบาท เป็น 1.2 ล้านล้านบาท

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/2791239/

ภาคเอกชนพร้อมหนุนการเติบโตด้านการท่องเที่ยวกัมพูชา

ภาคเอกชนกัมพูชาพร้อมส่งเสริมสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวในประเทศ ด้วยการส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวให้มีศักยภาพ ซึ่งได้กล่าวไว้ในระหว่างการประชุมที่มีการจัดขึ้นโดยกระทรวงการท่องเที่ยว ณ กรุงพนมเปญ นำโดย Sok Soken รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว ร่วมกับ Hor Sarun รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว และChhay Sivlin ประธานสมาคมการท่องเที่ยวกัมพูชา (CATA) และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแทนภาคเอกชนมากกว่า 100 คน ซึ่งกระทรวงได้จัดการประชุมเพื่อกำหนดกลยุทธ์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกัมพูชาให้มีความทัดเทียมในระดับนานาชาติ ร่วมกับการพิจารณาถึงความท้าทายที่ภาคเอกชนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกำลังเผชิญ ผ่านแผนการยกระดับภาคบริการให้กับนักท่องเที่ยว รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ และพัฒนาขั้นตอนในการข้ามพรมแดนมายังกัมพูชา เพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามายังกัมพูชามากขึ้น โดยเฉพาะประเทศอินเดียและจีนที่เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501366904/private-sector-crucial-to-tourism-growth/

คณะผู้แทนไทยร่วมหารือนักลงทุนกัมพูชา ค้นศักยภาพการลงทุนในพระสีหนุ

อบจ.พระสีหนุ รับรองคณะผู้แทนจากกองพัฒนาผู้ประกอบการไทย หวังหารือศักยภาพการลงทุนในจังหวัดพระสีหนุ ซึ่งการหารือดังกล่าวนำโดย Long Dimanche รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระสีหนุ พร้อมด้วยคณะผู้แทนสมาคมการท่องเที่ยว หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสมาคมผู้ประกอบการ เข้าพบคณะผู้แทนไทยนำโดยนายนายอรรจน์สิทธิ สร้อยทอง เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา ด้านรองผู้ว่าฯ นำเสนอว่าจังหวัดพระสีหนุมีจุดเด่นคือชายหาดสวยงาม มีเกาะสำหรับการท่องเที่ยว 32 เกาะ และมีทรัพยากรทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ รวมถึงมีท่าเรือน้ำลึกของจังหวัดมีความลึกอยู่ที่ 9.5 เมตร ซึ่งถือเป็นช่องทางการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่สำคัญแห่งหนึ่งของกัมพูชา โดยปัจจุบันมีการนำเข้าสินค้าประมาณกว่าร้อยละ 70 ผ่านท่าเรือดังกล่าว สำหรับปี 2030 ทางการกัมพูชาวางแผนที่จะพัฒนาท่าเรือให้มีความลึกเพิ่มเป็น 14.5 เมตร และ 17.5 เมตร ตามลำดับ เพื่อรองรับเรือขนส่งขนาดใหญ่ อีกทั้งจังหวัดนี้ยังเป็นที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีโรงงานประมาณกว่า 170 แห่ง ดำเนินการ สำหรับในช่วงที่ผ่านมาจังหวัดพระสีหนุได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีต่อจังหวัดตราดและจันทบุรีของไทย เพื่อหวังส่งเสริมการลงทุนระหว่างกันในอนาคตอันใกล้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501345427/preah-sihanouk-thai-delegation-discuss-investment-potential/

CGCC ค้ำประกันสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการในกัมพูชา รวมกว่า 130 ล้านดอลลาร์

สถาบันค้ำประกันสินเชื่อ ประเทศกัมพูชา (CGCC) ได้สนับสนุนธุรกิจในกัมพูชามากกว่า 1,566 แห่ง ด้วยการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับภาคธุรกิจวงเงินรวมกว่า 132.74 ล้านดอลลาร์ ณ เดือนมิถุนายนปีนี้ โดย CGCC กล่าวเสริมว่า ยอดสินเชื่อค้ำประกันคงค้างทั้งหมดในปัจจุบันอยู่ที่ 105 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ยอดรวมของยอดค้ำประกันคงค้างอยู่ที่ 75 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (MSME) จำนวน 1,432 ราย และธุรกิจขนาดใหญ่ 134 รายในกัมพูชา ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน การลงทุน และการขยายธุรกิจ เป็นสำคัญ ด้าน Mey Vann รัฐมนตรีต่างประเทศกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง กล่าวว่า โครงการค้ำประกันสินเชื่อมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างผู้ประกอบการและปรับปรุงการเข้าถึงบริการทางการเงินในกัมพูชา โดยอำนวยความสะดวกในการกระจายสินเชื่อไปยังภาคธุรกิจต่างๆ ควบคู่ไปกับนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ เพื่อให้แน่ใจว่าวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจะได้รับการพัฒนาจากกลไลดังกล่าว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501327208/cgcc-provides-130m-credit-guarantees-to-over-1500-businesses/