เวียดนามเผยยอดส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไปยังจีนพุ่งสูงขึ้น ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 62

จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MoIT) เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 เวียดนามส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไปยังประเทศจีน ด้วยมูลค่า 327 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.4 ทางด้านปริมาณอยู่ที่ 42,199 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 60.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสหรัฐอเมริกา จีน และเนเธอร์แลนด์ ยังคงเป็นผู้นำเข้าเม็ดมะม่วงหิมพานต์รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ในช่วงเวลาดังกล่าว ในส่วนของสถานการณ์การส่งออกสินค้าไปยังจีนนั้นอย่างเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องมาจากความตึงเครียดของสงครามการค้าสหรัฐ-จีน เป็นต้น นอกจากนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแนะนำผู้ประกอบการให้ความสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และสร้างมาตรฐานความปลอดภัยอาหาร เพื่อให้สามารถส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศได้เพิ่มมากขึ้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnams-cashew-nut-exports-to-china-surge-in-nine-months-404405.vov

จำนวนนักท่องเที่ยวในปีงบประมาณที่ผ่านมา

ปีงบประมาณ 61-62 มีจำนวนนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศเพื่อทำธุรกิจจำนวน 1,218,891 คนเพิ่มขึ้น 442,843 คน จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวน 526,248 คน ซึ่งในปี 62 มีจำนวนนักท่องเที่ยวถึง 954,929 คน และที่เข้ามาทำธุรกิจ 263,962 คน จากเดือน ม.ค. – ส.ค ในปีนี้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเยือนสูงสุด รองลงมาคือเกาหลี โดยนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น 161% และเกาหลีเพิ่มขึ้น 77% จากปัญหาชาวยะไข่ในปี 60 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศตะวันตกลดลงถึง 40% ภายในปี 61 นโยบาย Look East ในปี 61-12 ที่ใช้ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง และมาเก๊าและวีซ่าสำหรับพลเมืองจีนที่เดินทางเข้าประเทศโดยเครื่องบิน ซึ่งมีระยะทดลอง 1 ปี หลังจากนั้นจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าเพิ่มขึ้นจาก 3,443,133 คน ในปี 60 เป็น 3,551,428 ในปี 61 จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านชายแดนเป็นอันดับแรกและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศด้วยการยื่นขอวีซ่าเป็นครั้งที่สอง

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/tourist-arrivals-up-last-fy

เนปิดอร์ตั้งเป้าหารายได้จากธุรกิจการจัดประชุม

เนปิดอร์มุ่งเน้นที่จะพัฒนาการจัดประชุม การจัดนิทรรศการและการแข่งขันกีฬาในปี 63 เพื่อสร้างรายได้มากขึ้นให้กับเมืองหลวง สมาคมการท่องเที่ยวแห่งเมียนมาอ้างจากสื่อของรัฐว่า เนปิดอร์มีศักยภาพในการเป็นสถานที่สำหรับการจัดประชุมขนาดใหญ่ การประชุมทางวิชาการหรือวิชาชีพ และการจัดกิจกรรมกีฬา เนปิดอร์มีโรงแรมหลายแห่งและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาที่ได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งรวมถึงสระว่ายน้ำ สนามกีฬา และสนามกอล์ฟ นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรการแข่งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ แผนการสำหรับการท่องเที่ยวการกีฬาได้ถูกร่างขึ้นและมีแนวโน้มที่จะเริ่มในปี 63

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/nay-pyi-taw-targets-convention-business.html

เจ้าหน้าที่สปป.ลาวทบทวนความพยายามในการปรับปรุงความปลอดภัยทางถนน

คณะกรรมการเลขาธิการแห่งชาติว่าด้วยความปลอดภัยทางถนนและกลุ่มที่เกี่ยวข้องได้พบปะกันเพื่อทบทวนงานเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยทางถนนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจำนวนยานพาหนะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุและความแออัดของการจราจรมากขึ้น โดยเฉลี่ยในแต่ละปีตั้งแต่ปี 57-61 มีผู้เสียชีวิต 15 คนต่อประชากร 100,000 คนในประเทศ และผู้เข้าร่วมประชุมยังได้หารือถึงกิจกรรมร่วมในอนาคตที่เป็นไปได้โดยมีจุดประสงค์ในการร่วมมือกันเพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุทางถนนและการเสียชีวิต กระทรวงโยธาธิการและขนส่งโดยร่วมมือกับกระทรวงความมั่นคงสาธารณะและกระทรวงสาธารณสุข องค์กรระหว่างประเทศและกลุ่มอื่น ๆ กำลังดำเนินการเพื่อหาวิธีในการป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนรวมถึงช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เสริมกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎจราจร  การเพิ่มทางแยกสร้างวงเวียนปรับปรุงและติดตั้งสัญลักษณ์และป้ายจราจรเพิ่มเติมและทาสีเครื่องหมายเลนเพิ่มเติมและตัวบ่งชี้อื่น ๆ บนถนน และการสนับสนุนความปลอดภัยทางถนนและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุมากขึ้น

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_officials_225.php

ญี่ปุ่นทุ่มเงิน 17.8 ล้านเหรียญสหรัฐเข้าสู่การยกระดับการประปาของหลวงพระบาง

รัฐบาลญี่ปุ่นให้เงินทุนสนับสนุนโครงการช่วยเหลือมูลค่า 17.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อปรับปรุงระบบน้ำประปาในเมืองหลวงพระบางภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือ รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความร่วมมือในการให้เงินช่วยเหลือน้ำประปาสำหรับผู้อยู่อาศัยและธุรกิจการท่องเที่ยวในขณะเดียวกันก็เพิ่มความตระหนักและความพร้อมเพื่อป้องกันไฟไหม้ในพื้นที่อนุรักษ์มรดก ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของโครงการนี้คือการยกระดับระบบน้ำประปาและฟื้นฟูขยายเครือข่ายการกระจายน้ำในพื้นที่บริการและระบบระบายน้ำ นอกจากนี้ยังรวมถึงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำใหม่ที่มีความจุ 1,500 m3 และการติดตั้งท่อจ่ายน้ำกระจาย 60.2 กม. โครงการนี้จะช่วยสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลสปป.ลาวในการบรรลุเป้าหมาย NSEDP ที่ 8 โดยการเพิ่มการจัดหาน้ำในเขตเมืองทั่วประเทศเป็น 80% ในปี 63 และ 85 % ในปี 68 ประชากรเป้าหมายของโครงการกว่า 70,000 คนในพื้นที่ 68,695m2 ในขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะได้รับประโยชน์ โครงการนี้จะช่วยแก้ปัญหาความต้องการน้ำที่เพิ่มขึ้นและช่วยรักษาเสถียรภาพของแรงดันน้ำโดยเฉพาะในพื้นที่อนุรักษ์ของเมือง

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Japan_225.php

Cambodia Travel Mart ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานกว่า 6,000 คน

ผู้มีส่วนได้เสียด้านการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและระหว่างประเทศหลายพันคนจะเดินทางมายังกรุงพนมเปญในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเพื่อเข้าร่วมงานที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกัมพูชาที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ณ โรงแรม Sokha Phnom Penh ในวันที่ 11-13 ตุลาคม โดยผู้จัดงานได้กำหนดกรอบของงานให้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการสร้างเครือข่ายและส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกัมพูชาสู่โลกภายนอก ซึ่งงานนี้จัดขึ้นโดยกระทรวงการท่องเที่ยว และคาดว่า CTM 2019 จะเป็นแพลตฟอร์มธุรกิจการท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับผู้แสดงสินค้าจากประเทศต่างๆเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์และบริการรวมถึงการพัฒนาเครือข่ายธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ ซึ่งจากข้อมูลคาดว่าจะมีผู้จัดแสดงมากกว่า 200 รายและผู้เข้าร่วม 6,000 คนจากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก โดยกัมพูชามีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เติบโตเร็วเป็นอันดับสามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้รับประโยชน์จากการไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้น 11% เมื่อปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50649436/cambodia-travel-mart-to-attract-6000-participants/

SSCA สนามบินปอยเปตของกัมพูชายังอยู่ระหว่างการศึกษา

งานเกี่ยวกับโครงการสนามบินปอยเปตยังไม่เริ่มแม้รัฐบาลจะอนุญาตให้มีการพัฒนามาแล้วปีกว่าก็ตาม โดยการตรวจสอบกับสำนักเลขาธิการการบินพลเรือน (SSCA) เปิดเผยว่านักลงทุนที่ได้รับอนุญาตให้พัฒนาสนามบินแห่งแรกของจังหวัดยังไม่เริ่มดำเนินการ ซึ่งการลงทุนสนามบินปอยเปต (PAI) ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลให้กลับมาดำเนินการในสนามบินเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว โดยผู้ว่าการปอยเปตกล่าวกับสื่อท้องถิ่นก่อนหน้านี้ว่าสนามบินปอยเปตแห่งใหม่จะถูกสร้างบนพื้นที่ 300 เฮกตาร์ในชุมชนนิมิธของปอยเปตห่างจากตัวเมือง 13 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่าโครงการจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 40-50 ล้านเหรียญสหรัฐในการก่อสร้าง โดย PAI ได้รับอนุญาตให้สร้างสนามบินในปี 2550 เป็นครั้งแรก แต่อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวได้รับการแก้ไขเนื่องจากเกิดวิกฤตการเงินโลกปี 2551 ซึ่งบริษัทตัดสินใจที่จะรื้อฟื้นโครงการพลังจากเห็นศักยภาพในการพัฒนาของเมืองปอยเปตซึ่งเป็นเมืองชายแดนที่สำคัญ โดยทางสนามบินถูกออกแบบมาสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ และคาดว่าเมื่อสร้างเสร็จแล้วจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของปอยเปตและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งติดอยู่กับประเทศไทย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50649492/ssca-poipet-airport-still-under-study/

ไทยถูกหวยสงครามการค้า 26 รายการขี่ม้าขาวดันส่งออกโค้งสุดท้ายปีนี้

“พาณิชย์” เผยผลวิเคราะห์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนต่อการค้าไทยในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ และรอบใหม่ที่เริ่ม 1 ก.ย.ที่ผ่านมา พบไทยมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นทั้ง 2 ตลาด ซึ่งสินค้าที่ส่งออกได้ดี ทดแทนสินค้าจีนในสหรัฐฯ และทดแทนสินค้าสหรัฐฯในจีน มีกว่า 26 รายการ แนะไทยเร่งส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ให้ได้เพิ่มมากขึ้น เพิ่มยอดส่งออกโค้งสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งผลกระทบจากสงครามการค้า ทำให้สหรัฐฯ นำเข้าจากจีนลดลงจากสัดส่วน 20.51% ใน 6 เดือนของปีที่ผ่านมาเหลือ 18.02% ในช่วงเดียวกันของปีนี้ โดยสินค้าของไทยที่มีศักยภาพในการส่งออกทดแทนในตลาดสหรัฐฯและจีน ภายใต้มาตรการตอบโต้ที่สหรัฐฯขึ้นภาษีจีน 250,000 ล้านเหรียญ และจีนตอบโต้สหรัฐฯ มูลค่า 110,000 ล้านเหรียญ ที่มีผลบังคับใช้แล้ว พบว่าสินค้าไทยที่ส่งออกไปทดแทนสินค้าจีนในตลาดสหรัฐฯเพิ่มขึ้น เช่น ปลานิลแช่แข็ง กุ้งและปลาหมึกแช่แข็ง เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (ที่ไม่ใช่น้ำผักและผลไม้) และสินค้าที่ไทยส่งออกไปทดแทนสินค้าสหรัฐฯ ในตลาดจีน เช่น น้ำแอปเปิ้ล น้ำผึ้ง แป้ง ผงที่ทำจากพืช กระดาษแข็ง เครื่องแก้วสำหรับใช้ในครัวเรือนหรือรวมทั้งสองตลาดกว่า 26 รายการ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1679366

ไทยหล่นดัชนีแข่งขันโลก

คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ได้ประกาศดัชนีขีดความสามารถทางการแข่งขันระดับโลกของสภาเศรษฐกิจโลก วัดความสามารถทางการแข่งขันจาก 141 ประเทศทั่วโลก พบว่าในปีนี้ประเทศไทยมีค่าดัชนีความสามารถทางการแข่งขันดีขึ้นจาก 67.5 คะแนนในปีที่ผ่านมา มาที่ 68.1 คะแนนในปีนี้ แม้คะแนนจะดีขึ้น แต่อันดับของไทยก็ลดลง 2 อันดับมาอยู่ที่ 40 จากปีที่ผ่านมาที่อยู่อันดับ 38 เนื่องจากมีประเทศอื่นๆที่ทำคะแนนได้ดีกว่าและขยับแซงหน้าไทย ทำให้อันดับของไทยลดลง ขณะที่ประเทศอื่นๆในอาเซียนพบว่า มาเลเซียอยู่ในอันดับที่ 27 ของโลก หล่นลงมา 2 อันดับ อินโดนีเซีย หล่นลงมา 5 อันดับ รั้งที่ 50 ของโลก ขณะเดียวกันก็ได้ยกให้สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจสูงที่สุดของโลก แซงหน้าสหรัฐฯจากปีที่แล้ว จากความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ตลาดแรงงาน และการพัฒนาระบบการเงิน ส่วนรองลงมาประกอบด้วย สหรัฐฯ ฮ่องกง เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น เยอรมนี สวีเดน สหราชอาณาจักร และเดนมาร์ก ตามลำดับ ขณะที่เวียดนามพบว่าเป็นประเทศในอาเซียนที่มาแรงที่สุด แซงขึ้นมา 10 อันดับ ขึ้นจากอันดับที่ 77 ของปีก่อนมาอยู่ที่อันดับ 67 ของโลก.

ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1679351

รายงาน : บริษัทอาหารและเครื่องดื่มเวียดนาม 10 อันดับแรกในปี 2562

จากรายงานทางการเวียดนาม ณ วันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา เปิดเผยว่าบริษัทอาหารและเครื่องดื่มเวียดนามที่มีชื่อเสียง 10 บริษัท โดยบริษัทที่ได้รับการประเมินจะจัดอันดับตามหลักเกณฑ์ 3 หลัก ดังนี้ ความสามารถทางการเงินตามรายงานการบัญชี และความน่าเชื่อถือของการเข้าถึงสื่อ เช่น สื่อโฆษณา เป็นต้น รวมไปถึงผลการสำรวจเกี่ยวกับความพึงพอใจจากการที่ลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทดังกล่าว ซึ่งจากการสำรวจผู้บริโภคในเดือนกันยายนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าแบรนด์สินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดที่ผู้บริโภคเลือก ได้แก่ Vissan (อาหารสด), Cai Lan (เครื่องเทศและน้ำมันไว้ทำอาหาร), Heineken (เบียร์และไวน์), Vinamilk (นม) และ Acecook (อาหารกระป๋องและบรรจุภัณฑ์) เป็นต้น ในขณะเดียวกัน ตามรายงานดังกล่าว ระบุว่าการสื่อสารมีส่วนสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคสามารถรับรู้แบรนด์ที่มีชื่อเสียงได้ดีขึ้น และทำการตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น แต่ผู้ประกอบการอาหารและเครื่องดื่มเวียดนามส่วนใหญ่ระมัดระวังในการใช้สื่อ เพราะว่าขาดการควบคุมข้อมูล

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7999802-vietnam-report-top-10-food-beverage-companies-in-vietnam-2019.html