เวียดนามเกินดุลการค้ากับอิสราเอล เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จากข้อมูลของหน่วยงานรัฐฯเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 มูลค่าการค้าระหว่างประเทศอยู่ที่ 760 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเวียดนามยังคงเกินดุลการค้าอย่างต่อเนื่องราว 440 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ การค้าระหว่างประเทศ (การค้าแบบทวิภาคี) มีมูลค่า 677 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องมาจากความตึงเครียดของสถานการณ์ทางการเมือง และความมั่งคงทางการเมืองที่ยังไม่แน่นอน ทำให้ผู้ส่งออกเวียดนามเกิดความกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าว รวมไปถึงข้อกำหนดมาตรฐานอาหารปลอดภัยที่เข็มงวดในภูมิภาคตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ผู้ประกอบการอิสราเอลมีความสนใจในการนำเข้าอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคจากเวียดนาม ได้แก่ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เครื่องแต่งตัว รองเท้า และผลแปรรูป

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7992302-vietnam-continues-to-enjoy-trade-surplus-with-israel.html

รีสอร์ทอสังหาฯ ดิ่งลง

อุปทานและความต้องการซื้อคอนโดเทล (Condotels) และรีสอร์ตวิลล่า ลดลงเป็นตัวเลขสองหลัก ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 เนื่องมาจากอยู่ในช่วงเดือนสารทจีน (Ghost months) ทำให้เกิดการชะลอตัวของนักลงทุน โดยจากรายงานของบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ DKRA Vietnam เปิดเผยว่าในช่วงเวลาดังกล่าว มีโครงการวิลล่าริมทะเลราว 3 โครงการที่ได้เปิดตัวสู่ตลาด และมีนิววิลล่าจำนวนทั้งหมด 86 หลัง ลดลงร้อยละ 95 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งในข้อมูลดังกล่าวข้างต้น มีการซื้อที่พักเพียง 58 หลัง โดยจะกระจุกตัวอยู่ในทางตอนกลางของจังหวัดบิ่ญถ่วน (Binh Thuan) และทางตอนใต้ของจังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่า (Ba Ria – Vung Tau) ในขณะเดียวกัน จากรายงาน DKRA ระบุว่าการชะลอตัวชองภาคธุรกิจอสังหาฯ ในกลุ่มรีสอร์ท เป็นไปตามผลของฤดูกาล ทำให้ยอดขายลดลงอย่างมาก ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เนื่องมาจากอยู่ในช่วงวันสารทจีน ทำให้ผู้คนหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าใหม่ๆ หรือทำธุรกิจกรรม เพื่อหลีกเลี่ยงโชคร้ายที่ตามมา และจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในช่วงไตรมาสสุดท้าย

ที่มา: https://e.vnexpress.net/news/business/industries/resort-real-estate-plunges-3992364.html

Sumitomo Corporation เริ่มโครงการสถานีรถไฟย่างกุ้งปลายปี 62

Sumitomo Corporation บริษัทยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นกำลังเตรียมการเพื่อสร้างโครงการสถานีรถไฟย่างกุ้งในปลายปี 62 แทนที่บริษัท ชิโน เกรท วอลล์ ที่ล้มละลายในสงครามการค้าของสหรัฐฯ และจีน Oxley Holdings ชนะการประกวดราคาเพื่อปรับปรุงโครงการ กุมภาพันธ์ปี 61 เป็นองค์กรที่ บริษัท Min Dhama ของเมียนมาและ Sino Great Wall ของจีนที่ทำงานร่วมกัน เมื่อเสร็จโครงการจะมีรายรับ 4 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน เพียงพอสำหรับการซื้อหัวรถจักรที่จำเป็น Myanma Railway (MR) ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงการออกแบบที่บริษัทญี่ปุ่นยื่นข้อเสนอเนื่องจาก Oxley Holdings Company ได้ส่งการออกแบบไปยัง MR ในปี 57 โครงการมีพื้นที่ประมาณ 63.5 เอเคอร์และจะรวมถึงโรงแรม สำนักงาน และคอนโด

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/sumitomo-corporation-makes-preparations-for-beginning-yangon-railway-station-project-late-2019

การรถไฟเมียนมาให้บริการพิเศษย่างกุ้งไปพุกามในช่วงวันดะติงจุด

การรถไฟเมียนมา (MR) จะให้บริการรถไฟพิเศษสำหรับผู้แสวงบุญที่กำลังจะไปเที่ยวพุกามในช่วงวันหยุดของวันดะติงจุด บริการรถไฟพิเศษ ได้แก่ เนปิดอร์-ย่างกุ้ง และ ย่างกุ้ง-เนปิดอร์ และให้บริการรถไฟพิเศษย่างกุ้ง – พุกาม MR จะติดตั้งตู้โดยสารเพิ่มในรถไฟไปรษณีย์และรถไฟโดยสารเพื่อวิ่งบนเส้น Kyimyindine ไป Pyay และ Kyimyindine ไป Tharawall และจะให้บริการรถไฟพิเศษสำหรับข้าราชการที่จะเดินทางกลับเมืองย่างกุ้ง ลงรถไฟพิเศษ เนปิดอร์-ย่างกุ้ง โดยออกจาก เนปิดอร์ เวลา 7.30 น. ในวันที่ 10 ต.ค.62 ส่วนรถไฟพิเศษย่างกุ้ง ไป เนปิดอร์จะออกจากย่างกุ้งเวลา 20.00 น.

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/mr-to-provide-special-train-service-for-yangon-bagan-during-thadingyut-holidays

กรีนลีดเดอร์สร้างโรงงานมะม่วงอบแห้งแห่งที่สาม

กรีนลีดเดอร์โฮลดิ้งกรุ๊ป จำกัด เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในฮ่องกงประกาศว่าจะเพิ่มการลงทุนในตลาดท้องถิ่น โดยการสร้างโรงงานแปรรูปมะม่วงแห่งใหม่ในจังหวัดทงบังคำของกัมพูชา ซึ่งแต่ละแห่งมีพื้นที่ 25,000 ตารางเมตรและสามารถผลิตมะม่วงอบแห้งได้มากถึง 2,000 ตันต่อปี โดยการผลิตส่วนใหญ่จะถูกส่งออกไปยังประเทศจีนและได้ทำการตั้งเป้าหมายที่จะส่งออกมะม่วงอบแห้งถึงปีละ 10,000 ตันต่อปีไปยังประเทศจีน ซึ่งบริษัทซื้อมะม่วงสดเกรด 2 ที่เป็นวัตถุดิบจากเกษตรกรผ่านโครงการทำสัญญาและแปรรูปเพื่อส่งออกไปยังตลาดจีน โดยเชื่อว่าการลงทุนนี้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาภาคเกษตรกรรมในท้องถิ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแปรรูปวัตถุดิบเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเพื่อการส่งออก ซึ่งบริษัทกล่าวว่าโรงงานใหม่แห่งนี้จะสามารถผลิตและแปรรูปแป้งได้มากถึง 130,000 ตันต่อปี โดยใช้มันสำปะหลังจากเกษตรกรในท้องถิ่นถึง 500,000 ตันต่อปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50648298/green-leader-to-build-third-dried-mango-plant/

ราคาข้าวนำเข้าถูกกว่าข้าวที่ปลูกในสปป.ลาว

ราคาข้าวที่ปลูกในสปป.ลาวสูงขึ้นเรื่อย ๆ และไม่เคยมีการลดราคาเลย เหตุผลนี้เป็นเพราะพื้นที่เพาะปลูกข้าวจำนวนมากมักไม่สามารถสร้างผลผลิตที่คาดหวังได้เนื่องจากความแห้งแล้งหรือน้ำท่วมเป็นเวลานาน ดังนั้นบางส่วนของประเทศไม่สามารถปลูกข้าวได้อย่างเพียงพอและผู้ขายใช้โอกาสในการขาดแคลนเพื่อขึ้นราคาขาย ในบางปีพื้นที่ทั้งหมดของประเทศมีการเก็บเกี่ยวที่ดีและสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ แต่ถึงกระนั้นราคาก็ยังสูง สิ่งนี้ทำให้ผู้กำหนดนโยบายและกระทรวงคิดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ว่าราคาข้าวที่นำเข้าจากเวียดนามและไทยนั้นถูกกว่าข้าวที่ปลูกในสปป.ลาว รัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงที่เกี่ยวข้องควรทำการศึกษาในเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการทำราคาข้าวที่ปลูกเองราคาถูกกว่าข้าวนำเข้า หากเราปลูกข้าวเพิ่มขึ้นแน่นอนว่าราคาน่าจะลดลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรัฐบาลลดราคาไฟฟ้าให้เกษตรกรและจัดให้มีการยกเว้นภาษีสำหรับปุ๋ยและสิ่งจำเป็นทางการเกษตรอื่น ๆ ที่นำเข้ามา  แต่รัฐบาลจะต้องมุ่งเน้นที่การลดราคาของข้าวเหนียวเพื่อให้สอดคล้องกับอำนาจการใช้จ่ายของผู้คนและได้รับวัตถุดิบปริมาณที่เพียงพอในราคาที่เหมาะสม

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/editorial-imported-rice-cheaper-rice-grown-laos-105519

ราคาเชื้อเพลิงในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ราคาน้ำมันในประเทศลดลง 40 จัตต่อลิตรในรอบเก้าวันผลจากราคาทั่วโลกลดลงไป 52 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งขึ้นแตะระดับ 76 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 61 ราคาเชื้อเพลิงในประเทศเพิ่มขึ้น 160 จัตเป็น 255 จัตต่อลิตรในเรอบหกเดือนจากเดือน ม.ค. – พ.ค. คิดเป็น 18 % ถึง 36 % จากนั้นลดลง 11 %เป็น 14% จากวันที่ 30 พ.ค.ถึง 21 มิ.ย.จากวันที่ 21 มิ.ย.ถึง 19 ก.ค.ราคาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง 11% เป็น 14 % ราคาลดลง 3% ถึง 5% จากวันที่ 19 ก.ค.ถึง 10 ส.ค. ตั้งแต่วันที่ 15 ส.คราคาน้ำมันในประเทศเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ราคาน้ำมันของปั๊มน้ำมันท้องถิ่นอยู่ที่ดีเซล 920 จัต/หนึ่งลิตร (4,182 จัตต่อแกลลอน), 930 จัตสำหรับน้ำมันดีเซลพรีเมี่ยมหนึ่งลิตร (4,227 จัตต่อแกลลอน), 825 จัตต่อหนึ่งลิตรสำหรับ 92 รอนออกเทน (3,750 จัตต่อแกลลอน) และ 915 จัตต่อลิตรสำหรับ 95 รอนออกเทน (4,159 จัตต่อแกลลอน) ราคาลดลง 40 จัตต่อลิตรเมื่อเทียบกับราคาในวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/local-fuel-prices-see-continuous-fall-over-a-week

เวียดนาม อินโดนิเซีย เป็นผู้นำทางด้านเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคอาเซียน

จากรายงานวิจัยของบริษัทชั้นนำของโลกอย่าง Google, Temsek และ new partner Bain & Company เปิดเผยว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 39 ในปี 2562 และจะมีมูลค่ากว่า 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยประเทศอินโดนิเซียและเวียดนามมีอัตราการขยายตัวมากกว่าร้อยละ 40 ในขณะที่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย และฟิลิปปินส์ มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 20-30 ในขณะที่ เศรษฐกิจดิจิทัลเวียดนามมีมูลค่าสูงถึง 12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นภายในปี 2568 อยู่ที่ 43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นผลมาจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การท่องเที่ยวออนไลน์ และธุรกิจ Ride-Hailing เป็นต้น รวมไปถึงเวียดนามมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตประมาณ 61 ล้านคน และใช้เวลาเฉลี่ย 3 ชม. 12 นาที ต่อวัน ส่วนใหญ่ใช้สมาร์ทโฟน นอกจากนี้ เวียดนามก้าวขึ้นมาอันดับ 3 ของจุดหมายในการลงทุนดิจิทัลภูมิภาคนี้ ด้วยมูลค่าเงินทุนกว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2561 และช่วงครึ่งเดือนแรกปี 2562 โดยเมืองฮานอยและโฮจิมินห์ เป็น 1 ใน 7 เมืองเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ที่มา :  https://vietnamnews.vn/economy/536446/viet-nam-indonesia-lead-asean-in-internet-economy-growth.html#t0jGYwAhAxtOfG7o.97

เวียดนามเผยส่งออกกาแฟลดลง ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562

จากข้อมูลของหน่วยงานรัฐฯ เปิดเผยว่าเวียดนามมีการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) สูงที่สุดในรอบ 9 ปีที่ผ่านมา และเป็นประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เศรษฐกิจของเวียดนามนั้นมีการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ในขณะที่ องค์กรระหว่างประเทศและสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือคาดว่าเศรษฐกิจจากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 ปริมาณการส่งออกกาแฟของเวียดนามลดลงร้อยละ  13.3 คิดเป็นปริมาณอยู่ที่ 1.25 ล้านตัน และด้านมูลค่าร้อยละ 21.9 คิดเป็นมูลค่า 2.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว โดยประเทศเยอรมนีและสหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ในขณะที่ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ราคาส่งออกกาแฟเฉลี่ยลดลงร้อยละ 10.7 เหลือเพียง 1,709 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน และสถานการณ์ของราคากาแฟที่ลดลง ส่งผลให้เวียดนามส่งออกไปยังตลาดดั้งเดิมลดลง ได้แก่ เยอรมนี สหรัฐอเมริกา อิตาลี และสเปน ในขณะที่ ราคากาแฟทั่วโลกลดลง เนื่องมาจากผู้ผลิตกาแฟบราซิลได้เผชิญกับสกุลเงินที่ลดลง รวมไปถึงปริมาณการจัดเก็บกาแฟสำรองในตลาดสำคัญที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น สหรัฐฯ เป็นต้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/536442/coffeeexports-down-in-9-months.html#09WvUq2efT3Rtgps.97

ก.ล.ต. เป็นเจ้าภาพจัดประชุม ACMF ร่วมผลักดันยกระดับการพัฒนาตลาดทุนอาเซียนให้เติบโตอย่างยั่งยืน

หน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนอาเซียน ร่วมผลักดันการพัฒนาตลาดทุนตอบโจทย์ความยั่งยืน และกระชับความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการรวมตัวด้านตลาดทุน โดยเลขาธิการ ก.ล.ต. ในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนอาเซียน (ASEAN Capital Markets Forum : ACMF) ครั้งที่ 31 ณ จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ประเทศสมาชิก ACMF ได้มีการติดตามความคืบหน้าของแผนงานต่างๆ ซึ่งในปีนี้แผนงานสำคัญของ ACMF สอดรับกับทิศทางในการยกระดับเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนในปีที่ไทยเป็นประธานอาเซียน โดยแผนงานหลักจะเป็นการจัดทำ Roadmap for ASEAN Sustainable Capital Markets ที่เป็นหนึ่งในงานสำคัญด้านเศรษฐกิจ โดยเปิดรับความเห็นและมุมมองที่เป็นประโยชน์จากผู้แทนของภาคเอกชนที่เป็นกลุ่มนักลงทุนสถาบันเพื่อผลักดันด้านอุปสงค์ (demand side) และแรงขับเคลื่อนจากตลาด (market force) ในด้านการลงทุน รวมทั้งมีผู้แทนจาก United Nations Development Programme (UNDP) เข้าร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับประเด็นด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชน (Business and Human Rights) ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญอีกด้านหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ที่มา : https://mgronline.com/stockmarket/detail/9620000095386