เวียดนามส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562

จากข้อมูลของหน่วยงานด้านการแปรรูปและพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรเวียดนาม (The Agro Processing and Market Development Authority) เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 เวียดนามมีมูลค่ารายได้จากการส่งออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์น้ำทางทะเล (Aquatic Product) 5.52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยตลาดส่งออกสำคัญของเวียดนาม ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ จีน และเกาหลีใต้ ซึ่งหากคิดสัดส่วนของมูลค่าการนำเข้าของประเทศดังกล่าว พบว่ามีสัดส่วนรวมกันอยู่ที่ร้อยละ 56.5 ของรายได้รวมจากการส่งออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์น้ำทางทะเล ในขณะที่ สินค้าประเภทกุ้ง และปลาสวายยังคงเป็นสินค้าส่งออกสำคัญ สามารถแยกประเภทสินค้า ดังนี้ การส่งออกกุ้งข้าวร้อยละ 25.7 ของมูลค่าการส่งออกรวม รองลงมาปลาสวายร้อยละ 24.05 ของมูลค่าการส่งออกรวม ตามลำดับ นอกจากนี้ จากข้อมูลของเลขาธิการสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลเวียดนาม ระบุว่าหลังจากการพิจารณาถึงการตอบโต้การทุ่มตลาดจากที่ผู้ประกอบการเวียดนามกว่า 31 ราย ที่ส่งออกกุ้งไปยังสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้อัตราภาษีอยู่ที่ร้อยละ 0 ซึ่งจะทำให้สร้างโอกาสที่ดีในการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาได้เพิ่มขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/aquatic-exports-fetch-over-55-billion-usd-in-eight-months/160091.vnp

ฟิทซ์ คาดเวียดนามเผชิญงบประมาณขาดดุล 6.6% ของ GDP

จากข้อมูลของฟิทช์ โซลูชั่น แมคโคร รีเสริช (Fitch Solution Macro Research) คาดการณ์ว่า งบประมาณขาดดุล และมูลค่าการชำระคืนเงินต้นของเวียดนามจะอยู่ที่ร้อยละ 6.6 ของ GDP ในปี 2562 และเทียบกับระดับเป้าหมายที่ร้อยละ 5.9 ภายในปีหน้า และทางสถาบันดังกล่าว มองว่าอัตราผลตอยแทนพันธบัตรรัฐบาลจะปรับตัวลดลงตามแนวโน้มของอัตราผลตอบแทนทั่วโลก เพื่อผ่อนคลายต่อสถานการณ์การจ่ายชำระดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลในครั้งถัดไป อย่างไรก็ตาม ทางสถาบันหวังว่าผลของการกู้ยืมเงินทุนของรัฐบาลในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อลดความแออัดในเมืองใหญ่ และบริษัทต่างๆ ที่ย้ายฐานการผลิตจากผลของสงครามการค้าสหรัฐ-จีน เป็นต้น ซึ่งจะสามารถชดเชยต่อสถานการณ์ได้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกมีการปรับตัวลดลง เพื่อป้องกันต่อสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนทั่วโลก และคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะผ่อนคลายทางการเงินอีกด้วย นอกจากนี้ ความล่าช้าในการซื้อที่ดินการก่อสร้างของเวียดนาม จะส่งผลต่อการเพิ่มต้นทุนให้กับรัฐบาลเพิ่มเติม เนื่องมาจากการแข่งขันทางด้านที่ดินค่อนข้างสูง โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้กับเมืองสำคัญ และผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาที่ดิน เป็นต้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-fiscal-deficit-forecast-at-66-percent-of-gdp-in-2019/160103.vnp   

คมนาคมลุยต่อลงทุนระบบรางหลังทำไปแล้ว1,314กิโลเมตร

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองอธิบดี กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม กล่าวเปิดงาน INTERMAT ASEAN และ CONCRETE ASIA 2019 ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2562 ว่า  ปี 2562 ยังคงเป็นปีแห่งการสานต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและให้บริการด้านคมนาคมขนส่ง ทั้งทางบก-น้ำ-อากาศ ของกระทรวงคมนาคม โดยมีแผนลงทุน 41 เมกะโปรเจกท์ วงเงินกว่า 1.78 ล้านล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน สอดคล้องกับนโยบายตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ของกระทรวงคมนาคม โดยขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว 1,314 กิโลเมตร ทั้งในส่วนรถไฟทางคู่ และรถไฟทางสายใหม่ รวมถึงการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบรถไฟเสริมสมรรถภาพทางด้านการอาณัติสัญญาณ และการให้บริการที่มุ่งสู่การส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทในการให้บริการ ซึ่งจะทำให้เกิดการแข่งขันอย่างสูงสุดสำหรับการพัฒนาโครงข่ายความเร็วสูง ขณะนี้รัฐบาลอยู่ในระหว่างการดำเนินการสร้าง 2 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ-นครราชสีมา และรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/nnd/3038057

ส่องเขตเศรษฐกิจพิเศษนังฮอย ประกาศแผนการขยายตัวเพิ่มขึ้น

จากคำประกาศของคณะกรรมการประชาชนประจำจังหวัด เปิดเผยว่าในเขตพื้นที่เศรษฐกิจนังฮอย (Nhon Hoi) มีการขยายตัวพื้นที่มากกว่า 2,300 เฮกตาร์ โดยแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ กว่า 8 พื้นที่ เพื่อให้ครอบคลุมทั้งด้านการท่องเที่ยว การค้าและบริการ และพื้นที่อุตสาหกรรม เป็นต้น รวมไปถึง ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ได้มีการวางแผนให้มุ่งเน้นไปที่ด้านการท่องเที่ยว บริการ อุตสาหกรรม ท่าเรือ  การประมง และพลังงานทดแทน ซึ่งเขตเศรษกิจพิเศษดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจและต่างประเทศครบวงจร นอกจากนี้ จากตัวเลขสถิติการลงทุนจากต่างประเทศ ระบุว่า การลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษนังฮอยในเวียดนาม มีมูลค่า 2.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยโครงการลงทุนจากต่างชาติ 81 โครงการ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/535006/nhon-hoi-economic-zone-announces-expansion-plans.html#gFqP7mcsTv71MPOY.97

เวียดนามส่งออกเหล็กกล้า 1.93 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562

จากรายงานของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการส่งออกเหล็กกล้าของเวียดนามอยู่ที่ 1.93 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้นำเข้าเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม หากดูภาพรวมของการค้าเหล็กกล้าของเวียดนาม พบว่ามูลค่าการส่งออกเหล็กกล้าของเวียดนามไปยังตลาดต่างประเทศทั่วโลกอยู่ที่ 378.31 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของมูลค่าการส่งออกเหล็กกล้าโดยรวมของเวียดนาม ตามมาด้วยญี่ปุ่น อินเดีย ไทย และเกาหลีใต้ ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน เวียดนามส่งออกเหล็กกล้าไปยังเมียนมาลดลงอย่างมาก 33.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 49.53 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7884802-vietnam%E2%80%99s-steel-exports-bring-in-us$1-93-billion-in-first-seven-months.html

Flydubai เปิดเที่ยวบินย่างกุ้ง – ดูไบ เริ่ม 10 ธ.ค.62

สายการบิน flydubai ของดูไบประกาศวจะให้บริการเที่ยวบินตรงจากย่างกุ้งไปยังดูไบเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 62 จากรายงานของสายการบิน Emirate โดยจะใช้เครื่อง FZI 585 และ FZI 586 ในการบินระหว่างดูไบและย่างกุ้ง ความร่วมมือสองสายการบินเกิดผลดีกับผู้โดยสารบนเที่ยวบิน flydubai ประกาศเปิดตัวเที่ยวบินสู่กระบี่ในประเทศไทยและย่างกุ้งในเมียนมาเพื่อขยายเครือข่ายไปยังอาเซียน สายการบินเอมิเรตมีความตั้งใจที่จะให้บริการเที่ยวบินที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุด โดย flydubai จะเพิ่มเส้นทางการบินใหม่ย่างกุ้ง – ดูไบ สี่ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งสายการบินเอมิเรตเป็นพันธมิตรกับสมาคมการท่องเที่ยวของเมียนมาวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวระหว่างย่างกุ้งและดูไบ สายการบินเอมิเรตส์ให้บริการเที่ยวบินระหว่างย่างกุ้งและดูไบสี่ครั้งต่อสัปดาห์ทั้งยังให้บริการผู้โดยสารจากเมียนมาไปยังยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกาและอเมริกา

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/flydubai-to-provide-yangon-dubai-flight-services-commencing-december-10

เมียนมามอบถิ่นที่อยู่ถาวรให้ชาวต่างชาติ 547 คนในรอบสี่ปี

เมียนมาร์ได้ให้ถิ่นที่อยู่ถาวรแก่ผู้สมัครชาวต่างชาติ 514 คนจากทั้งหมด 614 คนในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค. 58 เมื่อมีการเปิดตัว PR อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่ออกโดยกระทรวงแรงงาน การประชาสัมพันธ์สำหรับชาวต่างชาติในเมียนมาแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ นักลงทุน มืออาชีพ พลเมืองดั้งเดิมของเมียนมา และอีกหลากหลายเชื้อชาติ สมาชิกสหภาพแรงงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานตรวจคนเข้าเมืองและประชากรและคณะกรรมการพบผู้สมัครแต่ละคนและซักถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและกฎระเบียบที่กำหนด หลังจากการสัมภาษณ์ชาวต่างชาติ 20 คนได้รับบัตร อาทิเป็นนักลงทุนคนหนึ่งอายุ 14 ปีชาวเมียนมา

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/permanent-residency-granted-to-547-foreigners-in-over-four-years

สปป.ลาว-เกาหลีร่วมมือเกี่ยวกับการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน

สปป.ลาวเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ที่จะช่วยให้สามารถพัฒนาพลังงานหมุนเวียนโดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานทดแทนรูปแบบอื่น ๆ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานจากสาธารณรัฐเกาหลีรวมตัวกันที่ EDL Training Center เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศในด้านเทคโนโลยีพลังงานทดแทน การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้จัดขึ้นโดย KOTRA Vientiane และกลุ่มของหน่วยงานเกาหลีซึ่งรวมถึง Daeyeon C&I, Elim และสถาบันเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์เกาหลี จุดมุ่งหมายของการประชุมเชิงปฏิบัติการคือการแบ่งปันความรู้ด้านเทคนิคระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านสปป.ลาวและเกาหลีโดยเฉพาะในสาขาพลังงานแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือด้านพลังงานทดแทนเพื่อประโยชน์ของทั้ง 2 ประเทศ หลักสูตรการฝึกอบรมสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้ง 2 ประเทศต่อพลังงานทดแทนรวมถึงความร่วมมือในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การประชุมเชิงปฏิบัติการครอบคลุมหลักการของแผงเซลล์แสงอาทิตย์ การวางแผนและการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบการติดตามตรวจสอบการทำงานของพลังงานแสงอาทิตย์และเทคโนโลยี ICT สำหรับระบบพลังงานแสงอาทิตย์

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/laos-keen-adopt-korean-lessons-renewable-energy-103447

กัมพูชาเรียกร้องให้บริษัทจีนลงทุนในที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยา

โดยเทศบาลเมืองพนมเปญได้ขอให้กลุ่มนักธุรกิจชาวจีนลงทุนในโครงการบ้านราคาย่อมเยา ซึ่งกำหนดเป้าหมายไปที่ข้าราชการและผู้มีรายได้น้อย โดยโครงการดังกล่าวจะได้รับการสนับสนุนจากศาลากลางจังหวัด ซึ่งโครงการที่อยู่อาศัยดังกล่าวจะตั้งอยู่ในเขตชานเมืองของกรุงพนมเปญ ห่างจากตัวเมือง 45-60 นาที โดยหากสมาคมธุรกิจจีนตกลงที่จะลงทุน เทศบาลเมืองพนมเปญจะขอให้รัฐบาลช่วยเหลือผู้ลงทุนโดยจะนำเข้าวัสดุโดยไม่เสียภาษี ซึ่งที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และดึงดูดความสนใจมากขึ้นเพราะสามารถซื้อได้ในราคาที่ต่ำกว่า 30,000 เหรียญสหรัฐ โดยในปี 2559 บริษัท WorldBridge Land เริ่มก่อสร้างโครงการบ้านจัดสรรสาธารณะแห่งแรกในกัมพูชาตั้งอยู่บนพื้นที่ 45 เฮกตาร์ในเขต Saang ของ Kandal ซึ่งทำการขายไปได้แล้วกว่า 2,300 ยูนิต หรือคิดเป็นกว่า 60%

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50640179/chinese-firms-urged-to-invest-in-affordable-housing/

แบงก์ชาติกัมพูชาผลักดันการใช้เงินเรียลในท้องถิ่น

แบงก์ชาติกัมพูชารณรงค์ส่งเสริมให้แลกเปลี่ยนเงินเรียลที่มีสภาพเก่าหรือชำรุดตั้งแต่ปลายเดือนนี้ โดยกระตุ้นให้ผู้คนเริ่มแลกธนบัตรที่เก่าหรือชำรุดมาเป็นธนบัตรใหม่ได้ทุกธนาคารตลอดทั้งปี ซึ่งเกิดจากธนบัตรหมุนเวียนในระบบของกัมพูชาที่มีการใช้งานมาเป็นเวลานาน จึงเกิดการชำรุดหรือมีสภาพที่ค่อนข้างเก่า จึงส่งผลทำให้ผู้ค้าบางรายเลือกที่จะปฏิเสธเงินเหล่านั้น แล้วหันมาใช้เงินสกุลอื่นแทนทำให้การใช้เงินสกุลเรียลลดน้อยลง โดยทั้งรองประทานสมาคมไมโครไฟแนนซ์ และประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ในกรุงพนมเปญ กล่าวว่าการรณรงค์ในครั้งนี้จะสร้างความมั่นใจให้ผู้ที่ใช้สกุลเงินเรียลให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้คนส่วนใหญ่เริ่มหันกลับมาใช้สกุลเงินเรียลหรือเงินสกุลท้องถิ่นดังเดิม โดยแบงก์ชาติกัมพูชาอนุญาตให้นำเงินที่ชำรุดหรือธนบัตรเก่ามาแลกเป็นธนบัตรใหม่ได้ ความหมายคือเงินเหล่านั้นจะไม่สูญเปล่า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50640354/nbc-to-push-for-local-currency-use/