ปีงบฯ 63-64 เมียนมาขาดดุลการค้าสิงคโปร์ 1.38 พันล้านดอลลาร์ฯ

กรมศุลกากรเมียนมา เผย 7 เดือนที่ผ่านมา (ต.ค.63-เม.ย.64) ของปีงบประมาณ 2563-2564 เมียนมาขาดดุลการค้าสิงคโปร์ที่ 1.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีมูลค่าการค้าทางทะเลและการค้าชายแดนอยู่ที่ 1.624 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นการส่งออก 117.78 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสิงคโปร์เป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของเมียนมาในภูมิภาครองจากไทยคิดเป็น 12% ของการค้าทั้งหมด ซึ่งในปีงบประมาณ 2562-2563 มีมูลค่าการค้าประมาณ 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าที่ส่งออกไปยังสิงคโปร์ ได้แก่ ข้าวหัก เมล็ดงา หัวหอม รองเท้า สิ่งทอและเสื้อผ้า แร่ธาตุ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ส่วนการนำเข้าจะเป็นพลาสติก น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันพืช อุปกรณ์ขนส่ง ส่วนประกอบทางเคมีและสารประกอบ ข้าวสาลี แป้ง ผลิตภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์นม และผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-goods-trade-deficit-with-singapore-estimated-at-1-38-bln-this-fy/#article-title

ส่งออกสินค้าเกษตรมาแรง พุ่ง 3.88 พันล้านดอลลาร์

แปดเดือนครึ่งของปีงบประมาณ 2563-2564 การส่งออกสินค้าเกษตรพุ่งสูง 3.88 พันล้านดอลลาร์ เพิ่ม  923.9 ล้านดอลลาร์จากช่วงเดียวหันของปีก่อนที่ส่งออกสินค้าเกษตรมีมูลค่า 2.95 พันล้านดอลลาร์ สวนทางกับการส่งออกสินค้าอื่นๆ ที่มีแนวโน้มลดลง ท่ามมาตรการคุมเข้มวิกฤติโควิด-19 ที่เข้มงวดในพื้นที่ชายแดนและค่าขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่เพิ่มขึ้น อุตสาหกรรมการเกษตรมีแววรุ่งที่สุด โดยคิดเป็นร้อยละ 37 ของการส่งออกโดยรวม สินค้าส่งออกที่สำคัญในภาคเกษตร ได้แก่ ข้าวและข้าวหัก ถั่วและข้าวโพด ผลไม้และผัก งา ใบชาแห้ง น้ำตาล และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่นๆ ตลาดนำเข้าหลักจะเป็นจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ บังคลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย และศรีลังกา ซึ่งการส่งออกแบบ G to G ยังช่วยสร้างแข็งแกร่งให้กับตลาด ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ยังผลักดันและช่วยเกษตรกรจัดการปัญหาที่ยากจะควบคุม เช่น ต้นทุนการผลิตที่สูง การจัดหาเมล็ดพันธุ์ ต้นทุนการเพาะปลูกที่สูง และสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/agro-exports-surge-to-3-88-bln-as-of-18-june/#article-title

ค้าชายแดนเมียนมาเกินดุล 7.4 พันล้านดอลลาร์ในปีงบฯ 63-64

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย ณ วันที่ 16 มิถุนายน  64 การค้าชายแดนงเมียนมาและประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีน ไทย อินเดีย และบังกลาเทศ มีมูลค่าถึง 7.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณ 63-64 แบ่งเป็นการส่งออก 4.8 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่การนำเข้า 2.6 พันล้านดอลลาร์ การค้าชายแดนของปีงบประมาณนี้ลดลงมากกว่า 806 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณที่แล้ว 62-63 ซึ่งมีมูลค่า 8.24 พันล้านดอลลาร์ โดยด่านมูเซมีมูลค่าการค้าสูงสุด 3.76 พันล้านดอลลาร์ รองลงมาคือเมียวดีด้วย 1.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 63 ถึง 18 มิถุนายน 64 ของปีนี้ การค้าระหว่างประเทศมีมูลค่ารวมกว่า 7.43 พันล้านดอลลาร์ในขณะที่การค้าทางทะเลมีมูลค่า 14.05 พันล้านดอลลาร์ เมียนมาส่งออกสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ผลิตภัณฑ์ทางทะเล แร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์จากป่า สินค้าการผลิต และอื่นๆ เป็นหลัก  ส่วนการนำเข้าจะเป็นสินค้าทุน สินค้าขั้นกลาง และสินค้าอุปโภคบริโภค

ที่มา: https://cdn.myanmarseo.com/file/client-cdn/2021/06/27_june-21_-gnml.pdf

เพียง 3 สัปดาห์ ราคาส่งออกงาเมียนมา พุ่ง 20,000 จัต

ผู้นำเข้าชาวจีนล้วนจับตาราคางาดำที่เพิ่งเก็บเกี่ยวใหม่ (พันธุ์ซาโมน) เนื่องจากมีคุณภาพสูง และมีความต้องการสูงราคาพุ่งถึง 160,000 จัตต่อกระสอบ (45 viss ต่อกระสอบ) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 20,000 ต่อกระสอบในสามสัปดาห์ที่ตลาดค้าส่งมัณฑะเลย์ ขณะที่ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน มีราคาเพียง 130,000-143,000 จัตต่อกระสอบ โดยปกติประมาณร้อยละ 80  เมียนมาส่งออกงาไปยังตลาดต่างประเทศ จีนเป็นผู้ซื้อรายใหญ่รองลงมาเป็นญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ใต้หวัน สหราชอาณาจักร เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ กรีซ และกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป โดยเขตมะกเวเป็นผู้ผลิตเมล็ดงารายใหญ่และยังมีบางส่วนในเขตมัณฑะเลย์และเขตซะไกง์ ในช่วงครึ่งปีงบประมาณ 2563-2564 (ตุลาคม-มีนาคม) การส่งออกเมล็ดงาทำเงินได้ 284.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากข้อมูลการส่งออกงาของ Central Statistical Organisation มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปีงบประมาณ 2561-2562 มีการส่งออกมูลค่า 212.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และปีงบประมาณ 2562-2563  มีมูลค่า 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/sesame-prices-up-by-k20000-in-three-weeks/

ราคาน้ำมันปาล์มในประเทศดิ่งลง จากราคาที่ลดลง

สมาคมผู้ค้าน้ำมันพืชเมียนมา เผย ราคาน้ำมันปาล์มในประเทศลดลงเล็กน้อยตามการนำเข้าที่ลดลง น้ำมันปาล์มลดลงเหลือ 995 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันในตลาดต่างประเทศ เป็นผลให้ราคาค้าส่งในประเทศอยู่ระหว่าง 2,800-2,900 จัตต่อ viss (viss เท่ากับ 1.6 กก.) ผลจากประเทศผู้ผลิตนำมันปาล์มอย่างมาเลเซียและอินโดนีเซียมีผลผลิตออกมาค่อนข้างมาก จึงมีแนวโน้มที่เมียนมาจะนำเข้าลดลงจนถึงเดือนตุลาคม อีกทั้งสมาคมฯ ได้ประกาศนำเข้าน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืนเพื่อความพอเพียงในประเทศ จำหน่ายในราคาที่เป็นธรรม และมั่นใจได้ว่าจะไม่มีน้ำมันพืชขาดแคลน อึกทั้งยังเฝ้าติดตามราคานำม้ำมันปาล์มอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันปริมาณใช้น้ำมันบริโภคในประเทศอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านตันต่อปี เป็นการผลิตน้ำมันประกอบอาหารมีประมาณ 400,000 ตัน ดังนั้นเพื่อตอบสนองความพอเพียงในประเทศ จึงนำเข้าน้ำมันปรุงอาหารประมาณ 700,000 ตันต่อปี

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/domestic-palm-oil-slips-alongside-drop-in-import-price/

ราคาถั่วดำในประเทศพุ่งถึง 1.1 พันล้าน จัตต่อตัน

รายงานของหอการค้าและอุตสาหกรรมเขตย่างกุ้ง (Bayintnaung Commodity Depot) เผยราคาถั่วดำในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 1,110,000 จัตต่อตัน แม้ราคาในวันที่ 1 พฤษภาคม 64 จะอยู่ที่ 888,500 จัตต่อตัน แต่พุ่งไปถึง 1,110,000 K จัตตันในวันที่ 17 มิถุนายน 64 ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 221,500 จัตต่อตัน ตั้งแต่ปี 60 อินเดียได้กำหนดโควตานำเข้าถั่ว ซึ่งรวมถึงถั่วดำและถั่วแระ ภายใต้นโยบายการค้าต่างประเทศ ปี 58-63 ขณะที่สวนปลูกถั่วดำให้ผลผลิตประมาณ 400,000 ตันต่อปี ด้านถั่วแระมีผลผลิตประมาณ 50,000 ตันต่อปี ส่วนใหญ่ส่งออกไปยังอินเดีย

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/domestic-black-bean-price-rises-to-k-1-1-bln-per-tonne/

เกษตรกรแห่ปลูกกระเจี๊ยบมอญ สร้างรายได้งามตลอดปี

เกษตรกรเขตซะไกง์ ปลูกกระเจี๊ยบมอญ (Okra) ได้ตลอดทั้งปี สร้างรายได้งามให้เกษตรกร ซึ่งต้นทุนการเพาะปลูกประมาณ 300,000 จัต ซึ่งรวมปุ๋ย เมล็ดพืช ยาฆ่าแมลง และการไถพรวนเข้าไปด้วย กระเจี๊ยบมอญเหมาะที่จะปลูกในอากาศร้อน และผลผลิตจะลดลงในฤดูหนาว โดยสามารถวางขายได้สองเดือนหลังจากการเพาะปลูกทำให้เกษตรกรมีรายได้ต่อวันกว่า 50,000 จัต ทั้งนี้ในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนเกษตรกรมักจะปลูกพริก แตงกวา หัวหอม ข้าวโพด ดอกเบญจมาศ ดอกแกลดิโอลัส กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี และมะเขือเทศ ในขณะที่เกษตรกรส่วนใหญ่เลือกปลูกกระเจี๊ยบมอญในฤดูมรสุมเนื่องจากสามารถปลูกได้ผลดีแม้ในฤดูฝน

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/lucrative-ladies-fingers-attract-farmers-to-grow-all-year-round/

เกษตรกรเมืองจอกเซเฮ! ผลผลิตงาได้ราคาดี

เกษตรกรผู้ปลูกงาจากเมืองจอกเซ มัณฑะเลย์ ดีใจกับผลผลิตและราคาที่ดี สร้างความพึงพอใจให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมาก เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น งามี 2 ประเภท คือ งาตะลินและงาตวง ปัจจุบันงา 1 ตะกร้าราคาจะอยู่ที่ 4,700 จัต. เมล็ดงาส่วนใหญ่จะใช้เป็นเครื่องปรุง ส่วนผสมในอาหารบางชนิด และแปรรูปเป็นขนมขบเคี้ยว ผลิตภัณฑ์งายอดนิยมคือน้ำมันงา ซเนื่องจากมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และน้ำมันงายังถูกนำมาใช้ทำเป็นยาแผนโบราณอีกด้วย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/kyaukse-sesame-growers-happy-with-fair-price-bumper-yield/#article-title

ปีงบ 63-64 ส่งออกมะม่วงเมียนมา ดิ่งลง เหลือเพียง 278 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามข้อมูลของกรมศุลกากรเมียนมา การส่งออกมะม่วงของเมียนมาร์สร้างรายได้ 278 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงครึ่งปีแรก (ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงมีนาคม) ของปีงบประมาณ 2563-2564 ลดลงอย่างมากเนื่องจากปิดชายแดนจากผลกระทบด้านลบของ COVID-19 การส่งออกมะม่วงเพชรน้ำหนึ่ง (Seintalone) ไปจีนในปีนี้น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 50% การเพาะปลูกมะม่วงเขตอิรวดีมีพื้นที่มากสุดประมาณ 46,000 เอเคอร์ รองลงมาตือเขตพะโค พื้นที่ 43,000 เอเคอร์ และมัณฑะเลย์มีมะม่วง 29,000 เอเคอร์ เป็นต้น ทั้งนี้ในการส่งออกนอกเหนือจากจีนเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่แล้ว เมียนมายังส่งออกไปอินเดีย บังคลาเทศ ไทย สาธารณรัฐเกาหลี สิงคโปร์ และญี่ปุ่น

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-earns-278-mln-from-mango-exports-in-h1/

ปีงบฯ 63-64 ค้าชายแดนเมียนมาลดฮวบ 7.19 พันล้านดอลลาร์

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย 9 เดือนแรกของปีงบ 63-63 มูลค่าการค้าชายแดนรวม 7.189 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงมากกว่า 842 ล้าน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แบ่งเป็นการส่งออกรวม 4.69 พันล้านดอลลาร์ ส่วนดารนำเข้า 2.49 พันล้านดอลลาร์ เมียนมาเปิดค่ายการค้าชายแดน 18 ด่าน ปริมาณการค้าที่การค้าชายแดนมูเซ จีน-เมียนมามีมูลค่ารวม 3.66 พันล้านดอลลาร์ ลดลงกว่า 567 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สินค้าส่งออกที่สำคัญได้แก่ การเกษตร สัตว์ ทะเล ป่าไม้ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์อื่นๆ การนำเข้า ได้แก่ สินค้าทุน วัตถุดิบ สินค้าส่วนบุคคล และผลิตภัณฑ์ CMP

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-border-trade-value-hits-7-19-bln-in-2020-2021fy/#article-title