กัมพูชาและไทย ประกาศร่วมมือยกระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจ

กัมพูชาและไทย ประกาศความมุ่งมั่นที่จะยกระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกัน ผ่านการเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว โดยคำมั่นสัญญานี้เกิดขึ้นระหว่าง ฮุน เซน ประธานพรรคประชาชนกัมพูชา และคุณแพทองทา ชินวัตร ประธานพรรคเพื่อไทย ในการหารือระดับทวิภาคี ด้าน สมเด็จฯ ฮุน เซน ได้แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจของกัมพูชา ซึ่งเน้นไปที่การแสวงหาสันติภาพ การเปลี่ยนสนามรบเดิมให้เป็นเขตพัฒนา และการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ชายแดนให้กลายเป็นเขตแดนแห่งสันติภาพ ด้านคุณแพทองทา เดินทางเยือนกัมพูชาเป็นเวลา 2 วัน (18-19 มี.ค.) ตามคำเชิญของ สมเด็จฯ ฮุน เซน โดยการเยือนครั้งนี้ถือเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน และความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อหวังการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501458226/cambodia-thailand-to-boost-economic-growth-though-connectivity/

หนี้สาธารณะกัมพูชาแตะ 11.24 พันล้านดอลลาร์

รายงานหนี้สาธารณะกัมพูชาประจำปี 2023 โดยกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง (MEF) ซึ่งหนี้สาธารณะของกัมพูชาอยู่ที่ระดับ 11.24 พันล้านดอลลาร์ ที่ความเสี่ยงระดับต่ำสำหรับภาวะหนี้สาธารณะในปัจจุบัน โดยในรายงานระบุเสริมว่าสัดส่วนหนี้สาธารณะร้อยละ 46 เป็นเงินสกุลดอลลาร์ เป็นสิทธิพิเศษถอนเงิน (SDR) ร้อยละ 19 เป็นเงินหยวนจีนร้อยละ 11 สกุลเงินเยนญี่ปุ่นร้อยละ 11 สกุลเงินยูโรร้อยละ 7 และสกุลเงินท้องถิ่น/สกุลเงินอื่นๆ ราวร้อยละ 6 ในจำนวนนี้ร้อยละ 99.5 หรือคิดเป็นมูลค่า 11.19 พันล้านดอลลาร์ เป็นหนี้สาธารณะภายนอกประเทศ ส่วนที่เหลือเป็นหนี้สาธารณะภายในประเทศ ซึ่งรายงานระบุว่าร้อยละ 64 ของหนี้สาธารณะเป็นการกู้ยืมจากพันธมิตรการพัฒนาในรูปแบบทวิภาคี ขณะที่ร้อยละ 36 มาจากพันธมิตรการพัฒนาพหุภาคี ตามมาด้วยส่วนหนี้สาธารณะภายในประเทศคิดเป็นร้อยละ 0.5 สำหรับในปี 2023 รัฐบาลกัมพูชาได้ลงนามในสัญญากู้ยืมเงินแบบผ่อนปรนดอกเบี้ยกับพันธมิตรการพัฒนามูลค่า 1.81 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเทียบเท่ากับ 1,339.22 ล้าน SDR คิดเป็นร้อยละ 79 ของเพดานที่กฎหมายอนุญาต โดยวัตถุประสงค์ของการกู้ยืมเงินส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาโครงการลงทุนสาธารณะในภาคส่วนสำคัญที่ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501457412/cambodias-public-debt-stands-at-11-24-billion/

นายกฯ ฮุน มาเนต เสนอ 9 ข้อ ยกระดับภาคการท่องเที่ยวกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ได้เสนอแนะแนวทางทั้ง 9 ข้อ เพื่อยกระดับภาคการท่องเที่ยวกัมพูชา โดยได้กล่าวถึงในระหว่างการเปิดงานเทศกาลน้ำ ครั้งที่ 8 ในจังหวัดเสียมราฐ ซึ่งแนวทางทั้ง 9 ข้อ 1.รักษาสันติภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการพัฒนา 2.การรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การดำเนินนโยบายหมู่บ้าน-ตำบล 3.ร่วมมือกันพัฒนามาตรการต่างๆอ ภายใต้แนวคิด Dynamics of Stakeholder System เพื่อบรรลุเป้าหมายของโครงการพิเศษ 4.ให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำ โดยเฉพาะจังหวัดรอบแม่น้ำโขงและทะเลสาบ Tonle Sap เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว เสริมสร้างการเชื่อมโยง และปรับปรุงระบบขนส่ง 5.ส่งเสริมการผลิตสินค้าการท่องเที่ยวที่หลากหลาย เพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว 6.ปรับปรุง “วนอุทยานพนมกุเลน” ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ 7.เรียกร้องให้กระทรวงและสถาบันที่เกี่ยวข้องทั้งหมดวางยุทธศาสตร์ส่งเสริมการจัดงานต่างๆ 8.กระทรวงต่างๆ ร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศ เพื่อให้การเดินทางสะดวกและสะบาย และ 9. เรียกร้องให้กระทรวง สถาบัน หน่วยงานทุกระดับ รวมถึงภาคประชาชน ร่วมกันผลักดันโครงการต่างๆ ให้ประสำความสำเร็จ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501457623/pm-shares-nine-recommendations-to-enhance-tourism-sector/

CDC อนุมัติโครงการลงทุนกว่า 173 โครงการ มูลค่ารวม 4 พันล้านดอลลาร์

ดร.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาของรัฐบาลชุดใหม่ ได้อนุมัติโครงการลงทุนกว่า 173 โครงการ โดยสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ด้วยเงินลงทุนรวม 4.150 พันล้านดอลลาร์ ก่อให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 170,000 ตำแหน่ง ซึ่งนายกฯ ได้กล่าวเสริมว่ารัฐบาลกำลังเร่งทำงานอย่างหนักเพื่อปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและสิ่งจูงใจ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม และเพิ่มโอกาสในการจ้างงาน ผ่านการมีส่วนร่วมกับภาคเอกชนทั้งภายในและต่างประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501456774/173-new-investment-projects-worth-4b-registered-with-the-cdc-says-pm/

ฮุน มาเนต เผยยอดส่งออกกัมพูชาเติบโต 16.57% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2023 ถึง กุมภาพันธ์ 2024 กัมพูชาสามารถส่งออกสินค้ามูลค่ารวมกว่า 1.18 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่าร้อยละ 16.57 ที่มูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ คิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ โดยถ้อยแถลงนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวในโอกาสที่เป็นประธานการประชุมสภาคลัง (Council of Ministers) ณ พระราชวังสันติภาพ (Peace Palace) เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2024 ซึ่งสินค้าส่งออกหลักของกัมพูชา ได้แก่ เสื้อผ้า ข้าว ผลิตภัณฑ์เครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้า ผัก ผลไม้ รองเท้า ยางพารา เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น ขณะที่ประเทศคู่ค้าสำคัญของกัมพูชา ได้แก่ จีน เวียดนาม สหรัฐฯ ไทย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย แคนาดา สหราชอาณาจักร และอีกหลายประเทศ โดยการเติบโตของมูลค่าการส่งออกแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจกัมพูชาเริ่มขยายตัว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501456766/pm-in-the-past-six-months-cambodia-exported-11-8-billion/

2 เดือนแรกของปี กัมพูชาดึงดูดการลงทุนกว่า 1.39 พันล้านดอลลาร์ เข้าประเทศ

สภาเพื่อการพัฒนาแห่งชาติกัมพูชา (CDC) รายงานว่าในช่วงสองเดือนแรกของปี 2024 ทางการกัมพูชาได้อนุมัติโครงการลงทุนในทรัพย์สินถาวรมูลค่ารวม 1.39 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากคิดเป็นการเติบโตประมาณกว่า 500% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยในรายงานระบุว่าในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ปีนี้ กัมพูชาได้รับการลงทุนจากจีนสูงสุดที่มูลค่าราว 545 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 39 ของเงินทุนการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งโครงการที่ได้รับการอนุมัติ ได้แก่ โรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า โรงงานประกอบจักรยานไฟฟ้าและมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โรงงานเหล็ก โรงงานเสื้อผ้าและสิ่งทอ โรงงานแปรรูปผลไม้ และโรงแรมหรู เป็นต้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501454423/cambodia-attracts-1-39-bln-investment-in-first-2-months-of-2024/

กัมพูชาส่งออกขยายตัว 22.7% ในช่วง 2 เดือนแรกของปี

มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของกัมพูชาเติบโตกว่าร้อยละ 19.2 ในช่วงสองเดือนแรกของปี 2024 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ก่อน โดยมีมูลค่าการค้ารวม 8.12 พันล้านดอลลาร์ เผยแพร่โดยกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.7 คิดเป็นมูลค่ารวม 3.98 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.1 ที่มูลค่า 4.13 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาในช่วงเวลาดังกล่าวที่สหรัฐฯ ยังคงเป็นปลายทางการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชา รองลงมาคือเวียดนาม ส่งผลทำให้กัมพูชามีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ 1.26 พันล้านดอลลาร์ แต่ขาดดุลการค้ากับจีนที่มูลค่า 1.74 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501454157/cambodias-exports-surge-22-7-in-first-two-months/

กัมพูชารายงานการจดทะเบียนรถไฟฟ้าใหม่ประจำปี 2023 แตะ 604 คัน

รายงานจากกระทรวงโยธาธิการและคมนาคมระบุว่าทางการกัมพูชาจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ใหม่ 604 คันในปี 2023 ทำให้ยอดรวมรถ EV ในประเทศอยู่ที่ 1,335 คัน ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าได้รับความสนใจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเสริมว่ากัมพูชามีรถยนต์ไฟฟ้าเพียง 5 คัน ในปี 2020 และเพิ่มขึ้นเป็น 63 คันในปี 2021 และเพิ่มขึ้นเป็น 663 คันในปี 2022 ขณะที่ปัจจุบันมีสถานีชาร์จ EV มีให้บริการใน 18 แห่งทั่วประเทศ ด้าน Moeurng Sokmeng หัวหน้าฝ่ายขายของบริษัท Mingyang Guoji Co., Ltd. ซึ่งเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายรถยนต์อย่างเป็นทางการของแบรนด์ Hongqi ของจีนในกัมพูชา กล่าวเสริมว่าความสนใจของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากผู้คนตระหนักถึงข้อดีของ EV มากขึ้น อีกทั้ง รถ EV มีชิ้นส่วนน้อยกว่ารถยนต์เบนซินหรือดีเซลมาก ดังนั้นค่าบำรุงรักษาและซ่อมแซมจึงต่ำกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501449124/cambodia-registers-604-new-evs-in-2023/

ม.ค. มูลค่าการค้าระหว่าง กัมพูชา-RCEP ขยายตัวกว่า 21.2%

มูลค่าการค้าระหว่างกัมพูชากับประเทศสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ในช่วงเดือนมกราคม 2024 มีมูลค่ารวมสูงถึง 2.74 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายงานของกระทรวงพาณิชย์ (MoC) ซึ่งปริมาณการค้ารวมดังกล่าวคิดเป็นกว่าร้อยละ 67.6 ของมูลค่าการค้าทั้งหมดในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 4.05 พันล้านดอลลาร์ โดยประเทศคู่ค้าหลัก 5 อันดับแรก ภายใต้ข้อตกลง ได้แก่ จีน เวียดนาม ไทย ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย ด้าน Penn Sovicheat รัฐมนตรีต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์กัมพูชาและโฆษก กล่าวว่า RCEP ถือเป็นตัวเร่งการเติบโตทางการค้าของประเทศ และเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรมากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501449110/cambodias-trade-with-rcep-countries-up-21-2-pct-in-january/

ตลาดจิ้งหรีดกัมพูชายังคงเติบโตในระดับต่ำ แม้ตลาดจะมีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์

Lundy Chou ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ บริษัท Agri House Co., Ltd. กล่าวว่า ปัจจุบันผู้คนในกัมพูชา รวมถึงภาคการลงทุน ยังไม่ตระหนักถึงความสำคัญในอุตสาหกรรมการแปรรูปจิ้งหรีด โดยเดิมทีจิ้งหรีดมักถูกบริโภคในหมู่ผู้คนกัมพูชามาโดยตลอด ซึ่งจริงๆ แล้วแมลงชนิดนี้ถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สามารถนำมาแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้ เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างโปรตีน โดยบริษัทคาดว่าอุตสาหกรรมจิ้งหรีดในปัจจุบันมีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ด้าน Nhourk Pearum เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจิ้งหรีด มองเห็นถึงความท้าทายหลักของอุตสาหกรรมจิ้งหรีด โดยเฉพาะด้านราคาภายในประเทศ รวมถึงกฎเกณฑ์การผลิตและการแปรรูปในตลาดโลกที่ค่อนข้างเข้มงวด สำหรับสถานการณ์ในตลาดโลกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องสำหรับผงคริกเก็ต (จิ้งหรีด) ซึ่งถือเป็นโปรตีนทางเลือกที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะขยายตัวกว่าร้อยละ 30 ต่อปี ในอีกห้าปีข้างหน้า เนื่องจากความต้องการในตลาดโลกขยายตัวต่อเนื่อง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501443951/kingdoms-multi-million-dollar-market-for-crickets-lies-low/