สปป.ลาว ไทย และจีน หารือเส้นทางการบินใหม่เพื่อรองรับเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น

เส้นทางการบินใหม่อยู่ระหว่างการหารือระหว่างไทย จีน และ สปป.ลาว เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด และเพื่อตอบสนองต่อการคาดการณ์ว่าจะมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นอีก 100,000 เที่ยวในน่านฟ้าประเทศไทย สปป.ลาว และจีน โดยเส้นทางคู่ขนานที่นำเสนอนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อบรรเทาความแออัดในเส้นทางการบินที่มีอยู่ซึ่งกำหนดโดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) โดยเฉพาะทางตะวันตกเฉียงเหนือของลาว แผนเหล่านี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่จะวางตำแหน่งประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค ความต้องการเดินทางจากจีนมายังประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยจำนวนเที่ยวบินสูงถึงประมาณ 80% ของระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาด โดยอินเดียมองว่าเป็นตลาดที่กำลังเติบโตและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีเที่ยวบินเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่า 900,000 เที่ยวบินในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 800,000 เที่ยวบินในปี 2566 และภายในปี 2568 ปริมาณเที่ยวบินจะดีดตัวกลับไปสู่ระดับ 1 ล้านเที่ยวบิน

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/04/01/thailand-laos-china-in-talks-for-new-aviation-routes-to-handle-surge-in-flights/

สปป.ลาว เดินหน้าร่างกฎหมายคาร์บอนเครดิต

กรมจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สปป.ลาว ร่วมกับพันธมิตรด้านการพัฒนาได้พูดคุยถึงรายละเอียดของพระราชกำหนด รวมถึงกระบวนการในการซื้อและขายคาร์บอนเครดิตในตลาดต่างประเทศ โดยร่างกฎหมายนี้มุ่งเน้นไปที่การคำนวณและรับรองการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการแบ่งปันผลประโยชน์ ภาษีเงินได้ ค่าธรรมเนียมและค่าบริการที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและการขายคาร์บอนเครดิต เจ้าหน้าที่จากกรมการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กล่าวว่า พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ จะส่งเสริมการลงทุนในการลดก๊าซเรือนกระจกและทำให้การซื้อขายคาร์บอนเครดิตได้รับการจัดการผ่านระบบรวมศูนย์ ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าตลาดคาร์บอนของ สปป.ลาว มีการกำหนดไว้อย่างชัดเจน และจะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมและจำหน่ายคาร์บอนเครดิตทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_67_Govtmakes_y24.php

อัตราเงินเฟ้อ สปป.ลาว มีนาคม 67 อยู่ที่ 24.98% ปรับลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน

 

Update: April 3, 2024 (เผยแพร่ต้นฉบับ: April 2, 2024)

ที่มา: Laotian Times.

สำนักงานสถิติของ สปป.ลาว เผยอัตราเงินเฟ้อเดือนมีนาคม 2567 อยู่ที่ 24.98% ปรับลดลงจาก 25.35% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดยราคาสินค้าหมวดเสื้อผ้าและรองเท้ามีราคาพุ่งสูงสุด โดยเพิ่มขึ้น 36.23% โรงแรมและภัตตาคาร 35.90% หมวดการแพทย์และยา 34.61% แอลกอฮอล์และยาสูบ 26.42% เครื่องใช้ในครัวเรือน 26.39% อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 23.61% การสื่อสารและการขนส่ง 23.58% ปัจจัยหลักเกิดจากสกุลเงินกีบของ สปป.ลาว อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างประเทศที่สำคัญ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ เงินบาทของไทย และเงินหยวนของจีน ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการนำเข้าสินค้ามาในประเทศลาว โดยเงินกีบอ่อนค่าลง 18.6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และ 21.5% เมื่อเทียบกับเงินบาท นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นและความไร้ประสิทธิภาพในการจัดการราคาสินค้าและบริการภายในประเทศทำให้สถานการณ์เงินเฟ้อยังคงมีความรุนแรง ทำให้ไตรมาส 1 ปี 2567 เงินเฟ้อของ สปป.ลาว อยู่ที่ 24.93%

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/04/02/inflation-rate-in-laos-dips-slightly-to-24-98-percent-in-march/

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ให้เงินกู้แก่ สปป.ลาว เพื่อส่งเสริมบริการด้านสุขภาพ

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้อนุมัติเงินกู้จำนวน 24.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยปรับปรุงการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพในพื้นที่ชายแดนของประเทศลาว โครงการดังกล่าวนี้จะช่วยยกระดับสิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์ และบุคลากรในโรงพยาบาลประจำแขวงจำปาศักดิ์ สะหวันนะเขต และพงสาลี จากข้อมูลของ ADB ความร่วมมือระดับภูมิภาคและการบูรณาการที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงได้อำนวยความสะดวกในการอพยพและขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของประชากรยังก่อให้เกิดความท้าทายด้านสุขภาพ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนที่สุดในพื้นที่ชายแดน โครงการนี้จะช่วยให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขของ สปป.ลาว สามารถตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพของแรงงานข้ามชาติและประชากรในพื้นที่ชายแดนได้ดีขึ้น

ที่มา : https://english.news.cn/20240401/739b8e0906a945b2b04fdf8391aff0b6/c.html

นครหลวงเวียงจันทน์ เตรียมจัดงานฉลองปีใหม่ สปป.ลาว หวังดึงดูดนักท่องเที่ยว

ชาวเวียงจันทน์ต่างตั้งตารอคอยการเฉลิมฉลองปีใหม่ของลาวประจำปีนี้ และรัฐบาลได้วางแผนกิจกรรมต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในท้องถิ่น โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามามากกว่า 10,000 คน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ของลาว ทั้งนี้ ในช่วงแคมเปญ เทศกาลเยือน สปป.ลาว ปี 2567 รัฐบาลคาดหวังว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อย่างน้อย 2.7 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 401 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ในปี 2568 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 2.9 ล้านคน และสร้างรายได้ 434 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_65_City_y24.php

เหมืองแร่ภูเบี้ยบรรลุเป้าหมายผลิตแร่ทองแดง 1 ล้านตัน

Phu Bia Mining (PBM) บริษัทเหมืองแร่ชั้นนำในประเทศลาว เผยข้อมูลผลผลิตทองแดงที่ผลิตได้ในเหมืองแร่ของตน โดยสามารถผลิตทองแดงเข้มข้นได้ 1 ล้านตัน บุคลากรซึ่งประกอบด้วยพนักงานสัญชาติลาวกว่า 93% และเกือบ 50% ของรายได้ประชาชนในท้องถิ่นได้รับจากการทำงานในเหมืองแร่แห่งนี้ สามารถสร้างรายได้ให้กับประชากรในท้องถิ่นได้มากกว่า 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การจ่ายเงินโดยตรงของบริษัทจำนวน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านค่าสัมปทาน ภาษีกำไร ภาษีเงินเดือน ภาษีถนน ค่าบริการนำเข้า การสนับสนุนและเงินปันผลได้ช่วยในการพัฒนาแขวงไชยสมบูรณ์และเศรษฐกิจของ สปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_64_PhuBia_y24.php

รัฐบาล สปป.ลาว เห็นชอบร่างกฎหมายท่าเรือบก กระตุ้นการลงทุนของประเทศ

คณะรัฐมนตรี สปป.ลาว รับรองข้อเสนอทางกฎหมายที่สำคัญหลายข้อ รวมถึงร่างการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาเกี่ยวกับท่าเรือบก โดยตระหนักถึงความจำเป็นที่จะมีแนวทางที่ชัดเจนและสอดคล้องกัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดการการลงทุนเหล่านี้อย่างมีประสิทธิผล นอกจากนี้ ยังได้ผ่านการร่างแผนแม่บทด้านการผลิตแห่งชาติจนถึงปี 2573 และร่างการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยถิ่นที่อยู่ถาวรสำหรับคนเชื้อสายลาวที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ พร้อมด้วยกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการข้ามชายแดนและสนามบินนานาชาติ การพิจารณายังรวมถึงพิมพ์เขียวเชิงกลยุทธ์สำหรับการพัฒนาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับชาติจนถึงปี 2573

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_64_Govtendorses_y24.php

ปัญหาเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ฉุดรั้งอันดับความสุขของ สปป.ลาว ปี 67

สหประชาชาติรายงานความสุขทั่วโลกประจำปี 2567 พบว่า อันดับความสุขของ สปป.ลาว ปรับลดลง 5 อันดับ มาอยู่อันดับที่ 94 จากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก การลดลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชน โดย สปป.ลาว ได้คะแนน 5.13 จากคะแนนเต็ม 10 ขณะที่ฟินแลนด์ซึ่งเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดได้คะแนน 7.74 และอัฟกานิสถานซึ่งเป็นประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุด 1.72 คะแนน ทั้งนี้ ปัจจัยทางเศรษฐกิจมีส่วนสำคัญที่ทำให้อันดับความสุขของ สปป.ลาว ในปีนี้ปรับลดลง โดยมีอัตราเงินเฟ้อเป็นปัญหาสำคัญ การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อมีสาเหตุมาจากค่าเงินกีบที่อ่อนค่าลง ผลผลิตในประเทศลดลง มูลค่าการนำเข้าสูง และความท้าทายในการควบคุมราคาสินค้าในตลาดท้องถิ่น

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/03/26/laos-drops-in-global-happiness-rankings-economic-factors-play-key-role/

สหภาพยุโรปมอบเงิน 1.5 ล้านยูโร ส่งเสริมการเกษตรอัจฉริยะใน สปป.ลาว

สหภาพยุโรป (EU) อนุมัติเงิน 1.5 ล้านยูโร ให้แก่ สปป.ลาว สำหรับดำเนินโครงการส่งเสริมการเกษตรอัจฉริยะเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มสตรีและเกษตรกรเยาวชนที่เปราะบาง สำหรับโครงการนี้จะดำเนินการใน 15 หมู่บ้านใน 7 เมือง ในแขวงสะหวันนะเขต และแขวงหลวงพระบาง คาดว่าจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อครอบครัวเกษตรกรรมจำนวน 300,000 ครอบครัว และอื่นๆ อีกกว่า 100,000 คน ผ่านการให้เทคนิค ความรู้ และทักษะที่เกี่ยวข้องกับ Climate Smart Agriculture (CSA) นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะช่วยเพิ่มผลผลิต ปรับปรึงความเป็นอยู่ โภชนาการ และความมั่นคงทางอาหารในท้องถิ่นของ สปป.ลาว อีกด้วย

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_63_EU_y24.php

ก.สาธารณสุข สปป.ลาว สั่งเฝ้าระวังหลังพบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ 54 ราย ในแขวงจำปาสัก

กระทรวงสาธารณสุข สปป.ลาว ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วประเทศเฝ้าระวังภายหลังมีรายงานผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ 54 ราย ใน 2 เมืองของแขวงจำปาสัก โดยสั่งให้ประชาชนให้ความร่วมมือในการติดตามแหล่งที่มาของการติดเชื้อ รวบรวมข้อมูลที่จำเป็น กักกันพื้นที่เสี่ยงและกำจัดสัตว์ที่ติดเชื้อ ทั้งนี้ พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงจะถูกแบ่งออกเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคแอนแทรกซ์ และโรงฆ่าสัตว์บางแห่งจะถูกห้ามฆ่าวัวและควาย กรมควบคุมโรคติดต่อแนะนำเจ้าของสัตว์ควรเฝ้าระวังอาการโรคแอนแทรกซ์ในสัตว์อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนจับตาดูสัตว์เลี้ยงของตนอย่างใกล้ชิดเพื่อดูสัญญาณของการเจ็บป่วย และรายงานกรณีที่น่าสงสัยให้สัตวแพทย์ประจำหมู่บ้านทราบทันที กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ในเมืองสุขุมา แขวงจำปาสัก ที่ได้รับผลกระทบ ติดตามการฆ่าสัตว์และการบริโภคเนื้อสัตว์ในพื้นที่ที่เกิดการติดเชื้อ รวมถึงมอบหมายให้ฆ่าเชื้อทุกพื้นที่ที่ตรวจพบผู้ป่วย เพื่อป้องกันการระบาด กรมวิชาการเกษตรประจำเขตได้ออกประกาศให้ทุกภาคส่วนทั้งผู้อยู่อาศัยและธุรกิจขนาดเล็ก ห้ามค้าสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์นอกเขต

ที่มา : https://english.news.cn/20240325/a4456b16c86a45f09f9de397d530ddef/c.html