เวียดนามเผยจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ 79,300 ราย ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562

จำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 พบว่า มีผู้ประกอบการธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ จำนวน 79,300 ราย ด้วยมูลค่าการจดทะเบียนรวม 42.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 และ 29.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามลำดับ ซึ่งทุนจดทะเบียนเฉลี่ยการจัดตั้งของแต่ละบริษัทใหม่อยู่ที่ 12.6 พันล้านด่อง เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.9 นับว่าอยู่ในระดับสูงที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หากจำแนกโครงสร้างเศรษฐกิจ พบว่าภาคการบริการมีสัดส่วนของจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่มากที่สุด ด้วยจำนวนธุรกิจกว่า 56,600 ราย รองลงมาภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง 21,600 ราย และภาคเกษตรกรรม ป่าไม้ และประมง 1,100 ราย ตามลำดับ โดยภูมิภาคที่มีสัดส่วนของจำนวนการจัดตั้งธุรกิจใหม่มากที่สุด คือ ภาคกลาง และที่ราบสูงของเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/79300-new-businesses-set-up-in-seven-months/157104.vnp

กัมพูชาและเวียดนามรวมมือพัฒนาเมืองอัจฉริยะ

กัมพูชาและเวียดนามตกลงที่จะร่วมมือกันพัฒนาเมืองที่ชาญฉลาด โดยการประชุมระหว่างกัมพูชาและเวียดนามได้พูดถึงเรื่อง กรุงพนมเปญพัฒนาขึ้นอย่างมาก แต่ต้องเผชิญกับปัญหาการจราจรที่คับคั่งและปัญหาการจัดการขยะที่ต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งโฮจิมินห์ก็กำลังประสบกับปัญหาหลายอย่างเช่นเดียวกับที่เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญที่สุดของเวียดนาม ซึ่งฝ่ายต่างๆระบุว่าความร่วมมือในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะจะมีความสำคัญในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยสมาร์ทซิตี้จะเป็นรูปแบบการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ใช้เทคโนโลยีและข้อมูลเพื่อทำให้การดำเนินงานและชีวิตในเขตเมืองดีขึ้นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป้าหมายคือการแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เมืองต้องเผชิญรวมถึงการจราจรที่ติดขัด มลภาวะและอาชญากรรมที่มีสูง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50629109/cambodia-vietnam-to-collaborate-in-smart-cities/

กลุ่มอุตสาหกรรมยางเวียดนามมีรายได้และกำไรพุ่งสูงขึ้น

จากรายงานของอุตสาหกรรมยางเวียดนาม (GVR) เปิดเผยว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2562  ธุรกิจของอุตสาหกรรมยางเวียดนามมีรายได้ และกำไรหลังหักภาษี ด้วยมูลค่ารวม 7.6 ล้านล้านด่อง และ 1 ล้านล้านด่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5 และ 15.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามลำดับ โดยกลุ่มธุรกิจของอุตสาหกรรมยางเวียดนามมีข้อได้เปรียบในด้านการพัฒนาวัตถุดิบ และไม้แปรรูปให้มีคุณภาพ โดยบริษัทในเครือกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ มีโครงการแปรรูปไม้กว่า 13 โครงการ ที่สามารถผลิตสินค้าทำมาจากไม้ ได้แก่ แผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลาง (MDF) ไม้อัด และยาง เป็นต้น ซึ่งกลุ่มธุรกิจของอุตสาหกรรมนี้ มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตอุตสาหกรรมพิเศษอย่างต่อเนื่อง ในนิคมอุตสาหกรรม Nam Tan Uyen , Rach Bap และ Thai Binh เป็นต้น นอกจากนี้ ก็มีการพัฒนาทางด้านที่อยู่อาศัย และการบริการ ในนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าว

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/523414/rubber-group-sees-both-revenue-and-profit-rise.html#YtS2E50RP8KLJwOb.97

นครเกียนซางอนุมัติโครงการรวม 20 โครงการ ด้วยมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากรายงานของคณะกรรมการประชาชนในจังหวัดเกียนซาง เปิดเผยว่าเขตจังหวัดเกียนยาง (Kien Giang) มีมูลค่าการลงทุนกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยโครงการรวม 20 โครงการ ซึ่งการลงทุนดังกล่าว มาจากการได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการ ซึ่งโครงการลงทุนที่สำคัญ ได้แก่ โครงการขุดเหมืองหินปูน และดินเหนียว รวมทั้งปูนซีเมนต์ เป็นต้น ดำเนินการโดยบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ด้วยเงินลงทุนประมาณ 467.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ทางคณะกรรมการของจังหวัดเกียนซางจะมุ่งเน้นการพัฒนาสภาพแวดล้อมทางด้านธุรกิจและกฎหมายให้สอดคล้องกับนักลงทุนให้รอบด้าน และให้สิทธิประโยชน์ทางด้านนโยบายของภาครัฐ รวมไปถึงหารือกับหน่วยงานท้องถิ่นของจังหวัดในการหาทางแก้ไขกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้โครงการดังกล่าวสามารถสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/523409/kien-giang-approves-20-projects-worth-total-2-billion.html#Y7gIoZtx3Ge2ZYqw.97

เวียดนามเผยยอดการส่งออกไม้ ผลิตภัณฑ์ไม้ มีมูลค่ามากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากคำแถลงของรองประธานสมาคมผลิตภัณฑ์ไม้แปรรูป และผลิตภัณฑ์ไม้เวียดนาม (The Timber and Forest Product Association of Vietnam) เปิดเผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 ยอดการส่งออกไม้ และผลิตภัณฑ์ไม้ของเวียดนามมีมูลค่ารวมมากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ตามมาด้วยญี่ปุ่น จีน และสาธารณรัฐเกาหลี ตามลำดับ ในปัจจุบัน วัตถุดิบการแปรรูปไม้ในประเทศเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 75 และอีกร้อยละ 25 มาจากการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งการขยายตัวส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้เวียดนามยังคงสามารในการตั้งเป้าหมายที่กำหนดไว้ คิดเป็นมูลค่ารวม 10.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/523360/wood-and-forest-products-exports-exceed-6b.html#HMjZayWBD2de6ima.97

เวียดนามเกินดุลการค้า 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562

จากรายงานของสำนักงานสถิติเวียดนาม (The General Statistic Office of Vietnam) เปิดเผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 ยอดเกินดุลการค้าของเวียดนามมีมูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยการส่งออก ของเวียดนามมีมูลค่า 24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 88.1 ของรายได้รวมจากการส่งออก ซึ่งสินค้าส่งออกสำคัญที่สุดของเวียดนาม ได้แก่ โทรศัพท์และชิ้นส่วนประกอบ รองลงมาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ และเสื้อผ้า สิ่งทอ ตามลำดับ สหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ตามมาด้วยสหภาพยุโรป และจีน ตามลำดับ นอกจากนี้ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เวียดนามมีมูลค่าการนำเข้ารวม 143.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะเดียวกัน จีนยังคงเป็นตลาดนำเข้าสำคัญที่สุดของเวียดนาม ตามมาด้วยสาธารณรัฐเกาหลี และกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ตามลำดับ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-books-18-billion-usd-trade-surplus-in-seven-months/156949.vnp

กองทุนเยอรมันลงทุนในบริษัทน้ำตาลเวียดนาม 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากคำแถลงของบริษัท Thanh Thanh Cong – Bien Hoa JSC (SBT) เปิดเผยว่าสถาบันการเงินเยอรมัน (DEG) ได้เข้ามา ลงทุน คิดเป็นมูลค่า 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์แปลงสภาพต่อหุ้น (30,000 ด่อง หรือ 1.26 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ณ ราคาตลาดในวันที่ 25 ก.ค. 62 ซึ่งทางบริษัทผลิตและจำหน่ายน้ำตาลเวียดนาม (SBT) จะนำเงินทุนดังกล่าวมาใช้สร้างกลยุทธ์การลงทุนในธุรกิจน้ำตาลเพื่อขยายผลิตภัณฑ์น้ำตาลออรแกนิค และจัดซื้อเครื่องจักร เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทได้ขยายการลงทุนไปยังกัมพูชาอีกด้วย

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/german-fund-invests-28-million-usd-in-vietnamese-sugar-company/156887.vnp

นครโฮจิมินห์เรียกร้องให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน

จากรายงานของศูนย์การส่งเสริมการค้าและการลงทุนเวียดนาม (ITPC) เปิดเผยว่าการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรในเมืองมีอยู่ 13 ล้านคน ที่เผชิญกับปัญหาการพัฒนาบ้านเมือง และสภาพอากาศ เป็นต้น ด้วยการเติบโตทางด้านโครงสร้างพื้นฐานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามการขยายตัวในเมือง ซึ่งนครโฮจิมินห์มีมูลค่าการลงทุนกว่า 53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมโครงการประมาณ 210 โครงการ ซึ่งโครงการส่วนใหญ่มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน หากจำแนกลักษณะโครงการ พบว่าจำนวนโครงการส่วนใหญ่มาจากโครงสร้างการขนส่ง (85 โครงการ) รองลงมาถนน และสะพาน (55 โครงการ) ขนส่งทางน้ำ (8 โครงการ) เป็นต้น ทางด้านตัวเลขสถิติ เผยว่าเดือนที่ผ่านมา มีนักลงทุนกว่า 106 ประเทศ โดยมูลค่าการลงทุนในภูมิภาคต่างๆ ในเมืองนี้มากกว่า 45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/523273/hcm-city-solicits-investment-in-infrastructure.html#SyvC5UgGlfeQEbuo.97

ผู้ประกอบการเวียดนามเร่งโอกาสจากผลกระทบของความตกลงการค้าเสรี EVFTA

ในกรณีที่สหภาพยุโรปและเวียดนามลงนามข้อตกลงการค้าเสรี (EVFTA) คาดว่าจากผลของข้อตกลงการค้าเสรีฉบับนี้จะนำโอกาสทางการค้าให้ผู้ประกอบการอลูมิเนียมของเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการเวียดนามยังคงเผชิญกับการท้าทายใหม่ๆ ได้แก่ การแข่งขันทางการค้าที่รุนแรงของคู่แข่ง ข้อกำหนดที่เข็มงวดจากกฎด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และกฎหมายทางด้านแรงงาน เป็นต้น ในขณะที่ทางสมาคมอลูมิเนียมเวียดนาม ระบุว่าคุณภาพและแหล่งกำเนิดสินค้าเป็นปัจจัยที่สำคัญในการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป ซึ่งปัจจัยดังกล่าวเป็นจุดอ่อน/ข้อบกพร่องที่เวียดนามต้องหาทางแก้ไขให้ได้ นอกจากนี้ ทางสภาหอการค้ายุโรป เผยว่าอัตราภาษีสินค้าส่งออกอลูมิเนียมของเวียดนามไปยังสหภาพยุโรปจะดำเนินการยกเลิกภายในระยะเวลา 8 ปี นับตั้งแต่ข้อตกลงการค้าเสรี (EVFTA) มีผลบังคับใช้

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/523113/local-aluminium-firms-urged-to-tap-opportunities-from-evfta.html#YsCmtEq255yPhgmE.97

เวียดนาม เผยมูลค่าการลงทุนในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562

จากรายงานของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่ามูลค่าการลงทุนในภาคเกษตรกรรมอยู่ที่ 491.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในชวงครึ่งแรกของปี 2562 ด้วยจำนวนโครงการใหม่ 11 โครงการ รวมไปถึงโครงการที่มีอยู่ ในขณะนี้ ทางกระทรวงฯ จะดำเนินการสนับสนุนด้านสิ่งอำนวยความสะดวกในการก่อสร้างโรงงานแปรรูปพืชผลทางการเกษตร และผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ รวมไปถึงฟาร์มเทคโนโลยีแปรรูปโควัวและนมวัว ด้วยจำนวนมูลค่ากว่า 3.8 ล้านล้านด่อง (หรือ 163.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) นอกจากนี้ ในช่วงตั้งแต่ปี 2556-2561 พบว่าอุตสาหกรรมการแปรรูปการเกษตร ป่าไม้และประมง มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 5-7 ต่อปี ดังนั้น มูลค่าการส่งออกรวมของอุตสาหกรรมนี้ จึงเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8-10 ปี โดยเฉพาะในปี 2561 ที่เพิ่มขึ้นอย่างประวัติการณ์ด้วยมูลค่ารวมราว 40.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/523123/almost-500m-invested-in-farm-product-processing-industry-in-h1.html#oaphoz97v5rXCALX.97