ศุลกากร สปป.ลาว-จีน-ไทย ร่วมหารือถึงแนวทางการป้องกันการลักลอบขนส่งสินค้า

เจ้าหน้าที่ศุลกากรจาก สปป.ลาว จีน และไทย ร่วมหารือ ณ นครหลวงเวียงจันทน์ เมื่อวันจันทร์ที่ 11 กันยายน หารือเกี่ยวกับแนวทางการปรับปรุงกระบวนการด้านศุลกากรบริเวณจุดผ่านแดน ตามทางหลวงคุนหมิง-กรุงเทพฯ และแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง เพื่อหาแนวทางป้องกันการลักลอบขนสินค้าข้ามพรมแดน และแบ่งปันข่าวกรองเกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกยาอย่างผิดกฎหมาย สารเคมีตั้งต้นของยา ของเสีย สินค้าลอกเลียนแบบ และสิ่งของผิดกฎหมายอื่นๆ รวมถึงหน่วยงานทั้งสามประเทศ ยังได้หารือถึงแนวทางในการอำนวยความสะดวก สำหรับการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน ไปจนถึงหารือเกี่ยวกับแนวทางในการทำให้กระบวนการศุลกากรมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายศุลกากร เพื่อส่งเสริมกิจกรรมการค้าและการพาณิชย์ระหว่างประเทศ

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/09/14/customs-officials-from-laos-china-and-thailand-discuss-ways-to-prevent-smuggling-and-boost-trade/

ม.ค.-ส.ค. กัมพูชาส่งออกไปยังสิงคโปร์โตกว่า 555%

ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคมของปีนี้ กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังสิงคโปร์ขยายตัวกว่าร้อยละ 554.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากมูลค่า 72.83 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 476.90 ล้านดอลลาร์ ตามการรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) ขณะที่การนำเข้าของกัมพูชาจากสิงคโปร์ อยู่ที่ 622.77 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 78.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่าการค้าทวิภาคีอยู่ที่ 1.10 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ข้อมูล GDCE แสดงให้เห็นว่าการส่งออกไปยังสิงคโปร์มีการเติบโตสูงที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ ที่กัมพูชามีการทำการค้าด้วย ขณะที่การส่งออกของกัมพูชา ณ สิ้นเดือนสิงหาคม อยู่ที่มูลค่าประมาณ 15.69 พันล้านดอลลาร์ โดยสิงคโปร์ยังเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ 6 ของกัมพูชา รองจากจีน สหรัฐฯ เวียดนาม ไทย และญี่ปุ่น ตามลำดับ ซึ่งในเดือนสิงหาคมเพียงเดือนเดียว การส่งออกของกัมพูชาไปยังสิงคโปร์มีการเติบโตร้อยละ 556.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก 4.3 ล้านดอลลาร์ เป็น 28.8 ล้านดอลลาร์ โดยส่วนใหญ่กัมพูชาส่งออกสินค้าประเภท ไข่มุก หินมีค่า โลหะ สินค้าที่ผลิตมาจากยาง เสื้อผ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และรองเท้า เป็นสำคัญ ซึ่งเป็นผลมาจากนักลงทุนชาวสิงคโปร์เข้ามาลงทุนยังกัมพูชาเพื่อผลิตและส่งออกเพิ่มมากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501359846/cambodias-exports-to-spore-rise-by-555-in-jan-aug/

คาดการลงทุนภาคการเกษตรของจีน จะช่วยเติมเต็มเศรษฐกิจให้แก่กัมพูชา

ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมวิจัยของจีน (Chinese Cambodian Evolution Researcher Association: CCERA) เปิดเผยว่า การลงทุนของจีนในภาคเกษตรกรรมของกัมพูชา ได้ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจกัมพูชาเกิดการขยายตัว รวมถึงสร้างการจ้างงานให้กับคนในท้องถิ่นหลายแสนคน อีกทั้งยังลดการอพยพหรือการย้ายถิ่นฐานไปทำงานยังประเทศอื่นๆ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลจีนได้อัดฉีดงบประมาณเพิ่มเติมให้แก่การพัฒนาภาคเกษตรกรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการส่งออกพืชผลทางการเกษตรไปยังจีนมากขึ้น ด้วยการลงทุนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของกัมพูชาต่อประเทศคู่แข่ง สำหรับเดือนที่แล้ว บริษัท Danong Agricultural Development Group ของจีน มีความสนใจที่จะลงทุนในภาคเกษตรของกัมพูชา ไปยังภาคอุตสาหกรรมเกษตร 75 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 10,000 เฮกตาร์ ในจังหวัดพระตะบอง โพธิสัตว์ เสียมราฐ และกำปงธม ด้วยมูลค่าการลงทุนสูงถึง 12,700 ล้านดอลลาร์ แสดงถึงความต้องการด้านการลงทุนของภาคเกษตรกรรมกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501359851/chinese-investment-in-agricultural-sector-gives-fillip-to-economy/

กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กับสุดยอดงานแสดงสินค้าคุณภาพดี ราคาโรงงาน จากประเทศจีน ใน “งานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (ประเทศไทย) ครั้งที่ 10”

คณะผู้จัดงาน “กวางเจาเทรดแฟร์ หรือ แคนตันแฟร์” (Canton Fair) งานแสดงสินค้าเพื่อการส่งออกและนำเข้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีนและเอเชีย จัดพิธีเปิดมหกรรมแสดงสินค้านำเข้าจากเมืองจีนครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี “งานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (ประเทศไทย) ครั้งที่ 10” หรือ “The 10th China-ASEAN (Thailand) Commodity Fair (CACF)” สุดยอดงานแสดงสินค้าคุณภาพดี ราคาโรงงาน จากผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลจีนกว่า 300 บูธ และมีการตอบรับการเข้าร่วมมากกว่า 200 บริษัท พร้อมเปิดโอกาสทางธุรกิจด้วยกิจกรรมเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการจีนโดยตรงไม่ผ่านคนกลาง ตลอดจนกิจกรรมสัมมนาพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจและการตลาดชื่อดังของเมืองไทย เพื่อการต่อยอดธุรกิจในยุค Red Ocean อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับงานสามารถเข้าร่วมชมได้ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 14 กันยายน 2566 เวลา 10.00 – 18.00 น. และในวันที่ 15 กันยายน 2566 เวลา 10.00 – 16.00 น. ณ ฮอลล์ 102 ไบเทค บางนา พร้อมร่วมอัพสกิล เสริมทักษะด้านการขายไปกับกิจกรรมในงาน ได้แก่ กิจกรรมสัมมนาพิเศษ “8 เคล็ดวิชา ปั้นธุรกิจให้ทำเงิน” บรรยายโดย 9 กูรูผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจและการตลาดชื่อดังของเมืองไทย อาทิ โซอี้ “เพจDigital Shortcut”, เปี๊ยก บุญชัย “เพจพี่เปี๊ยกจัดให้”, หมอกิม “เพจThe Sales-Partan”, ริริว ระชาวีย์ และแป้ง ศุกระวรรณ ที่จะมาเผยเคล็ดลับการทำธุรกิจให้ได้เงินในยุค Red Ocean ตั้งแต่วิธีหาสินค้าขายดี การนำเข้า การทำตลาด ช่องทางการขาย ไปจนถึงเทคนิคการจัดการภาษีแบบเข้าใจง่ายที่สามารถไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของคุณให้ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก พร้อมเปิดโอกาสให้ได้พูดคุย เจรจาธุรกิจกับผู้ผลิตโดยตรง แบบไม่ผ่านคนกลาง และไม่ต้องบินไกลไปถึงเมืองจีนอีกด้วย

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/prg/3453782

‘เวียดนาม’ เผยรายได้งบประมาณพุ่ง 70% ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2566

กรมสรรพากร รายงานว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2566 รายได้งบประมาณของรัฐ รวมทั้งสิ้น 962 ล้านล้านด่อง หรือประมาณ 40 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 70.1% ของเป้าหมายงบประมาณรายรับประจำปี นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินนโยบายต่างๆ ได้แก่ การยกเว้นภาษี การลดหย่อนภาษี การขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแก่ธุรกิจที่สอดคล้องกับกฎหมาย

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1593670/state-budget-revenue-tops-70-per-cent-of-year-s-estimate-in-eight-months.html

‘เวียดนาม-ญี่ปุ่น’ ผนึกกำลังขับเคลื่อนการเติบโตสีเขียว

องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผนึกกำลังพันธมิตรเพื่อส่งเสริมขีดความสามารถของเวียดนามในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน อีกทั้งความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยการจัดการทรัพยากร และการปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ผ่านความร่วมมือของธุรกิจเกษตร โดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งจะสอดคล้องกับกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP26)

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnam-japan-to-join-forces-to-advance-green-growth/

‘ไทย’ คู่ค้าหลักของเมียนมาในภูมิภาค

กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าการค้าทวิภาคีของเมียนมากับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะไทย ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของเมียนมาในกลุ่มประเทศอาเซียน และจากข้อมูลสถิติแสดงให้เห็นว่าในช่วง 5 เดือนของปี 2566 (เม.ย.-ส.ค.) การค้าทางทะเลและบริเวณชายแดน มีมูลค่าอยู่ที่ 2.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ของปีงบประมาณ 2566-2567 ทั้งนี้ สินค้าส่งออกหลักของเมียนมาไปยังตลาดไทย ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ สินค้าประมง ถ่านหิน มะพร้าวและอื่นๆ เป็นต้น ในขณะที่สินค้านำเข้าสำคัญจากไทย ได้แก่ เครื่องจักร สินค้า อุตสาหกรรมและอื่นๆ เป็นต้น นอกจากนี้ ปัจจุบันเมียนมาได้ทำการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ไทย) ผ่านชายแดนทางบก ได้แก่ ท่าขี้เหล็ก เมียวดี มูด่อง ทิกิ เกาะสองและแมแซะ ตามลำดับ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/thailands-top-trading-partner-with-myanmar-among-regional-countries/#article-title

รองประธานาธิบดี สปป.ลาว พบปูติน หวังกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน

รองประธานาธิบดี Pany Yathotou ได้เข้าพบกับประธานาธิบดี Vladimir Putin ของรัสเซีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (12 ก.ย.) ณ เมืองวลาดิวอสตอค ประเทศรัสเซีย เป็นการพบปะนอกรอบหลังการประชุม “Eastern Economic Forum” เพื่อหวังกระชับความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีระหว่าง สปป.ลาว และรัสเซีย ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ยาวนานระหว่างกัน โดยผู้นำรัสเซียยังได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้านมนุษยธรรมระหว่าง สปป.ลาวและรัสเซีย ซึ่งทั้งสองประเทศได้บูรณาการร่วมกันในการดำเนินการเพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจเกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับงานประชุมดังกล่าว นับตั้งแต่วันที่ 10-13 กันยายน รองประธาน Pany จะเข้าร่วมการประชุม Eastern Economic Forum ในฐานะแขกอาวุโสจากต่างประเทศ โดยงานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่เข้าร่วมและส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศในภูมิภาค

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/09/13/lao-vice-president-meets-putin-to-bolster-laos-russia-bilateral-ties/

การค้าระหว่าง กัมพูชา-จีน ทะลุ 8 พันล้านดอลลาร์

จีนยังคงเป็นคู่ค้ารายสำคัญของกัมพูชา โดยในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคมของปีนี้ การค้าระหว่างทั้งสองประเทศมีมูลค่ารวมสูงถึง 8.09 พันล้านดอลลาร์ ขยายตัวถึงร้อยละ 1.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลล่าสุดของกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) ซึ่งการส่งออกของกัมพูชาไปยังประเทศจีนในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 16.8 ที่มูลค่ารวม 935.95 ล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.6 มาอยู่ที่มูลค่า 7.15 พันล้านดอลลาร์ สำหรับสหรัฐฯ ครอบตำแหน่งคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของกัมพูชา ด้วยปริมาณการค้ารวม 6.27 พันล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยเวียดนามที่มูลค่าการค้าทวิภาคี 4.30 พันล้านดอลลาร์ ไทยที่มูลค่าการค้าระหว่างประเทศรวม 2.58 พันล้านดอลลาร์ และญี่ปุ่นที่มูลค่าการค้ารวม 1.20 พันล้านดอลลาร์ ด้านผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-จีน (CCFTA) และข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) เป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือให้ภาคการค้าทวิภาคีเติบโต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501359586/cambodias-trade-with-china-crosses-8-billion/

กัมพูชาคาดจัดเก็บภาษีเกินกรอบแผนงบประมาณประจำปีที่ได้กำหนดไว้

กรมสรรพากรกัมพูชา (GDT) รายงานสถานการณ์การจัดเก็บภาษีในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ สูงถึงร้อยละ 64 ของแผนการจัดเก็บภาษีประจำปี 2023 ที่มูลค่า 2.3 พันล้านดอลลาร์ เกินกว่าเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งภายในปี 2023 กำหนดเป้าหมายในการจัดเก็บภาษีไว้ที่ 3.5 พันล้านดอลลาร์ โดยได้กล่าวไว้ในระหว่างการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นำโดย Kong Vibol ผู้อำนวยการ GDT ซึ่งได้กล่าวเสริมว่าการจัดเก็บภาษีจะเกินกว่าแผนในการจัดเก็บงบประมาณประจำปีที่ร้อยละ 20-25 แม้ว่าเศรษฐกิจโดยภาพรวมจะชะลอตัวลงในปัจจุบัน แต่ยังมีบางภาคส่วน เช่น อุตสาหรรมเครื่องดื่มและภาคการท่องเที่ยวที่ยังมีการขยายตัวและสามารถจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น ช่วยให้ทางการจัดเก็บภาษีได้เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ในปี 2023 ซึ่งการขับเคลื่อนดังกล่าวยังได้รับความช่วยเหลือมาจากการปฏิรูประบบการจัดเก็บภาษี เช่น การเสริมสร้างธรรมาภิบาลและการจัดการผ่านระบบดิจิทัล การปรับปรุงกฎหมายภาษีให้ทันสมัย ขณะที่ในช่วงเวลาดังกล่าวการจัดเก็บภาษีในภาคอีคอมเมิร์ซมีมูลค่ารวมกว่า 46 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501359504/tax-collection-to-exceed-budget-plan-this-year/