การค้าทวิภาคี กัมพูชา-เวียดนาม แตะ 9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021

กระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม เปิดเผยว่า การค้าทวิภาคีระหว่าง กัมพูชา-เวียดนาม มีมูลค่ารวมมากกว่า 9 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึงร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับปี 2020 และยังคงรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ตามข่าวประชาสัมพันธ์ของ Pham Minh Chinh นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ที่ได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ซึ่งนายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศได้เน้นย้ำถึงความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ในการรักษาและกระชับความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสร้างความมั่นคงและการพัฒนาในสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงเสริมสร้างความร่วมมือในการป้องกันการระบาดของโควิด-19 ภายใต้รูปแบบ New Normal เพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและสังคมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/501057807/cambodia-vietnam-bilateral-trade-remained-steady-at-9-billion-in-2021/

กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่นในช่วง ม.ค.-ก.พ. มูลค่าแตะ 291 ล้านดอลลาร์

กัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่า 291 ล้านดอลลาร์ ไปยังญี่ปุ่นในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ลดลงร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งตัวเลขดังกล่าวรายงานโดยองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) โดยกัมพูชานำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 87.3 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการค้าทวิภาคีรวม 378.4 ล้านดอลลาร์ โดยสินค้าสำคัญของกัมพูชาที่ได้ส่งออกไปยังญี่ปุ่นได้แก่ เสื้อผ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เป็นสินค้าส่งออกสำคัญ ในขณะที่สินค้าสำคัญของญี่ปุ่นที่ได้ทำการส่งออกไปยังกัมพูชา ได้แก่ เครื่องจักร สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์ไฮเทค เป็นสำคัญ ซึ่งในปีที่แล้ว ปริมาณการค้าทวิภาคีระหว่าง กัมพูชา-ญี่ปุ่น อยู่ที่ 2,332 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นกัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่นมูลค่า 1,752 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/501058463/cambodia-exports-to-japan-nets-291-million-in-january-february/

ธุรกิจท่องเที่ยวคึกคัก นักวิชาการชี้อานิสงส์ เปิดประเทศ

รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง และอดีตรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ ม.รังสิตเปิดเผยว่า เศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวกระเตื้องขึ้นหลังสงกรานต์เงินสะพัดมากกว่าที่หลายสำนักวิจัยคาดการณ์ สะท้อนความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้น ขณะที่การขยายเพดานเงินกู้เป็น 70% ต่อจีดีพี มีความจำเป็น เพราะในความจริง เศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพมาหลายปีแล้ว และยังต้องกู้เงินมาชดเชยงบประมาณเพิ่มขึ้นทุกปี อย่างไรก็ตาม ยังมีความน่าเป็นห่วงว่าความเสี่ยงของการที่ไทยจะถูกลดอันดับเครดิตหรือความน่าเชื่อถือนั้น มีความเป็นไปได้ในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า หากหนี้สาธารณะทะลุระดับ 70% ของจีดีพีและระบบเศรษฐกิจไม่สามารถหารายได้มากพอที่ทำให้การชำระหนี้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น รวมทั้งไม่สามารถเพิ่มรายได้การจัดเก็บภาษี อย่างไรก็ตาม ฐานะทางการคลังของไทยยังพอไปได้เพราะยังมีหนี้ต่างประเทศในระดับต่ำมาก

ที่มา: https://www.naewna.com/business/647982

CDC อนุมัติ 4 โครงการลงทุนใหม่ วงเงินเกือบ 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ได้ให้ใบอนุญาตในการลงทุนแก่บริษัทเอกชน 4 แห่ง เป็นมูลค่าเงินลงทุนรวม 31.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษในเมืองหลวงพนมเปญ จังหวัดสวายเรียง และพระสีหนุ โดยรายชื่อทั้ง 4 บริษัทมีดังนี้ 1.Covered Bridge Cabinetry Manufacturing Co., Ltd., 2. SDJC Steel and Wire (Cambodia) Products Co., Ltd., 3. Solteam (Cambodia) Co., Ltd. และ 4. Wendua Packaging (Cambodia) Co., Ltd. ทั้ง 4 บริษัทจะลงทุนในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์พลาสติก อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ วัสดุบรรจุภัณฑ์ กล่องกระดาษแข็ง กล่องไม้ ชั้นวางของที่ทำจากไม้ และถุงพลาสติกตามลำดับ คาดว่าจะสร้างงานให้กับคนท้องถิ่นได้เกือบ 2,500 ตำแหน่ง ซึ่งจากการลงทุนดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเสถียรภาพเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ในขณะที่กัมพูชากำลังฟื้นตัวจากการระบาดของโควิด-19

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/501057077/four-new-investment-projects-worth-almost-32-million-approved-by-cdc/

สปป.ลาวร่วมมือธุรกิจเกาหลี ดึงนักท่องเที่ยวเกาหลีเพิ่ม

ผู้ประกอบการทัวร์และผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องจากสปป.ลาวและสาธารณรัฐเกาหลีกำลังมองหาวิธีดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีให้เดินทางมาลาวมากขึ้น หลังจากที่นักท่องเที่ยวเกาหลีกลุ่มแรกเดินทางมาลาวภายใต้โครงการท่องเที่ยวสีเขียว สมาคมการท่องเที่ยวแห่งเกาหลีกล่าวว่า บริษัททัวร์ได้รับประโยชน์จากขั้นตอนที่ง่ายขึ้นในการนำกลุ่มทัวร์จากต่างประเทศเข้ามา หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายข้อจำกัดการเข้าประเทศ ภายใต้โครงการท่องเที่ยวสีเขียว ซึ่งกำหนดให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโควิด เพื่อความปลอดภัยกระทรวงยังแนะนำให้เปิดใหม่บางส่วนต่อไปในกรณีที่เห็นว่าการเปิดใหม่อย่างเต็มรูปแบบที่เสนอนั้นไม่เหมาะสมในปัจจุบัน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten71_Lao_Korean.php

‘VPS Securities’ ครองผู้นำตลาดโบรกเกอร์ในเวียดนาม

ตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ของประเทศเวียดนาม รายงานว่าบริษัทหลักทรัพย์ VPS ยังครองอันดับ 1 ที่มีส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) อยู่ที่ 17.9% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ตามมาด้วย SSI Securities Corporation และ VNDirect Securities Corporation อยู่ในอันดับที่ 2 และ 3 ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 9.66% และ 8.01% ตามลำดับ นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นเวียดนาม (VN-Index: VNI) สิ้นสุดไตรมาสแรกที่ 1,492.15 จุด เพิ่มขึ้น 25.24% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ปริมาณ/มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของรายไตรมาส เท่ากับ 25.908 ล้านล้านดอง (1.14 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 67%YoY

ที่มา : https://thoibaotaichinhvietnam.vn/vps-securities-remains-market-leader-103317.html

 

ครัวเรือนกังวลค่าครองชีพสูง วอนรัฐตรึงราคาสินค้า-ขอคนละครึ่งเฟส5

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่าความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนส่งผลให้ระดับราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทั้งสองประเทศเป็นผู้ผลิตและส่งออกอยู่ในระดับสูง ส่งผลภาวะดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือน (KR-ECI) มี.ค. 65 ปัจจุบันขยับลงอยู่ที่ 33.4 จาก 33.9 ในเดือนก.พ.65 ขณะที่ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนใน 3 เดือนข้างหน้ายังอยู่ในระดับต่ำที่ 36.1 จาก 36.0 ในเดือนก.พ. 65 แม้อัตราการเลิกจ้างในเดือนมี.ค. 65 ปรับลดลงแต่การลดเวลาการทำงานล่วงเวลา (OT) และการชะลอรับพนักงานใหม่ยังปรับสูงขึ้น เมื่อสอบถามครัวเรือนถึงมาตรการภาครัฐว่าควรออกมาในรูปแบบใดพบว่า ส่วนมาก อยากให้ตรึงราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็น (39.2%) ขณะที่ 23.9% อยากให้ต่อมาตรการคนละครึ่งระยะที่ 5 หลังมาตรการคนละครึ่งระยะที่ 4 จะหมดลงในวันที่ 30 เมษายน 2565

ที่มา: https://www.naewna.com/business/647079

เมียนมาอัพเดทมาตรการเดินทางเข้าประเทศ

เมื่อวันที่ 11 เม.ย.65 กระทรวงสาธารณสุขเมียนมาร์ (MoH) เผย มาตรการการเดินทางเข้าเมียนมา โดยผู้เดินทางเข้าประเทศทุกคนจะต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนที่ได้รับการยอมรับจาก MoH และรายงานผลการทดสอบ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง ขณะเดียวกัน เด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ขวบที่เดินทางพร้อมผู้ปกครองที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว จะได้รับการยกเว้น และชาวต่างชาติจะต้องแสดงหลักฐานการซื้อประกัน COVID-19 ของเมียนมาก่อนเข้าประเทศ ทั้งนี้ผู้เดินทางเข้าประเทศที่จะต้องพักโรงแรมที่ภาครัฐได้กำหนดไว้เพื่อรอผลการทดสอบ RT-PCR ภายใน 24 ชั่วโมง ก่อนที่จะส่งผลตรวจให้ดับกระทรวงฯ ต่อไป หากพบว่ามีการติดเชื้อ จะถูกแยกตัวและนำส่งสถานพยาบาลทันที ทั้งนี้ การเดินทางเข้าประเทศจะต้องลงที่สนามบินนานาชาติย่างกุ้งเท่านั้น

ที่มา: https://english.news.cn/asiapacific/20220411/8b54cdd352b14b0e84100e3cc043f647/c.html

คาดสินค้ากลุ่มพลังงาน ดันเงินเฟ้อกัมพูชาพุ่ง 4.7% ในปี 2022

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) คาดกัมพูชาได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤต สงครามระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน ค่อนข้างต่ำ แต่อัตราเงินเฟ้อภายในจะยังคงเร่งขึ้นภายในปี 2022 ตามรายงานล่าสุดของ ADB โดยได้คาดการอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 4.7 จากราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานและน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น อันเนื่องมาจากวิกฤตสงคราม ประกอบกับอุปสงค์ภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยก๊าซธรรมชาติถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการผลิตปุ๋ยไนโตรเจน ซึ่งรัสเซียและเบลารุสส่งออกสินค้าชนิดนี้คิดเป็นกว่าร้อยละ 32 ของการส่งออกทั่วโลก ส่งผลทำให้ต้นทุนการเพาะปลูกพืชผลคาดว่าจะเพิ่มขึ้น นอกจากปุ๋ยแล้ว ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นยังทำให้การทำฟาร์มมีต้นทุนที่สูงขึ้น ทำให้เงินเฟ้อด้านอาหารทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501054826/energy-prices-set-to-accelerate-inflation-to-4-7-in-2022/

2021 กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังอินเดียมูลค่าแตะ 113.87 ล้านดอลลาร์

Ly Thuch รองประธาน Cambodian Mine Action and Victim Assistance Authority (CMAA) กล่าวในงานครบรอบ 10 ปีหอการค้าอินเดีย-กัมพูชา (INCHAM) ซึ่งมี Sandeep Majumdar ประธาน INCHAM, สมาชิกและแขกรับเชิญภายในงาน ว่าการส่งออกของกัมพูชาไปยังอินเดียมีมูลค่าอยู่ที่ 113.87 ล้านดอลลาร์ ในปี 2021 เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 99 เมื่อเทียบเป็นรายปีจาก 57.17 ล้านดอลลาร์ ในปี 2020 ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีเกี่ยวกับความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและอินเดีย โดยเสริมว่าด้วยเสถียรภาพทางการเมือง ภาษีนิติบุคคลต่ำ ระบบเศรษฐกิจแบบเปิด แรงงานอายุน้อย และไม่มีการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ที่ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้มูลค่าการค้าระหว่างกัมพูชาและอินเดียปรับตัวเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501055912/cambodias-exports-to-india-clocked-in-at-113-87-million-in-2021/