ทางการกัมพูชารายงานถึงจำนวนนักท่องเที่ยวหลังผ่อนคลายมาตรการ

รมว.ท่องเที่ยวกัมพูชา เปิดเผยว่า กัมพูชาได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วประเทศรวม 139,864 คน ในช่วงวันที่ 23-24 ตุลาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.27 เมื่อเทียบกับช่วงสัปดาห์ก่อน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากรัฐบาลกัมพูชาได้ผ่อนคลายข้อกำหนดในการจำกัดการเดินทางลง ซึ่งจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ได้กล่าวข้างต้นคิดเป็นนักท่องเที่ยวภายในประเทศ 136,498 คน หรือร้อยละ 97.59 และอีกจำนวนหนึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 3,366 คน โดยทางการกัมพูชาได้วางแผนที่จะเปิดประเทศในช่วงเดือนพฤศจิกายน ภายใต้การเตรียมพร้อมสำหรับภาคการท่องเที่ยว ร่วมกับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของจังหวัด ในการกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานร่วมกัน (SOP) เพื่อให้แน่ใจว่าการเปิดประเทศในรูปแบบ “New Normal” จะปลอดภัย สำหรับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะประชาชน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50958640/more-than-130000-tourists-recorded-last-weekend-as-restrictions-are-lightened/

‘ศูนย์พยากรณ์ฯ’ ชี้ธุรกิจมากกว่า 85.7% ในเมืองโฮจิมินห์ ได้รับผลกระทบหนักจากโควิด-19

ศูนย์พยากรณ์ความต้องการกำลังคนและข้อมูลตลาดแรงงาน (FALMI) สำรวจความคิดเห็นของภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 กลุ่มตัวอย่าง 11,502 แห่ง พบว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ บริษัทในเมืองโฮจิมินห์มากกว่า 85.7% ได้รับผลกระทบในเชิงลบจากโควิด-19 โดยภาคธุรกิจค้าส่งค้าปลีกและซ่อมยานยนต์ส่วนใหญ่ 36.74% ได้รับผลกระทบหนักที่สุด รองลงมา 16.42% ธุรกิจการผลิตและแปรรูป ในขณะที่ธุรกิจบริการข้อมูลสารสนเทศและโทรคมนาคมได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ทั้งนี้ เมื่อสอบถามถึงสภาพของธุรกิจ พบว่าธุรกิจส่วนใหญ่ 42.7% ประสบปัญหากับการหาลูกค้าหรือจัดจำหน่ายสินค้า ยิ่งไปกว่านั้น 27.15% มีอุปสรรคกับการเข้าถึงเงินทุน ตามมาด้วย 18.23% มองว่านโยบายช่วยเหลือยังไม่เพียงพอและ 11.92% ประสบปัญหากับการขาดแคลนวัตถุดิบ นอกจากนี้ มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมตามคำสั่งที่ 16 ของรัฐบาล ส่งผลกระทบต่อธุรกิจท้องถิ่นต้องหยุดดำเนินกิจการหรือลดการผลิตลง

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/more-than-857-of-enterprises-in-hcm-city-hit-by-covid-19-900306.vov

 

อุตฯอิเล็กทรอนิกส์เวียดนามโตได้ดี แม้เผชิญการระบาดโควิด-19

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมอิเล็กทรอทรอนิกส์ของเวียดนาม นับเป็นภาคอุตฯ ที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบในเชิงลบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สมาคมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เวียดนาม (VEIA) ชี้ว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ อุตฯดังกล่าว สร้างรายได้ให้กับประเทศราว 97-100 พันล้านเหรียญสหรัฐปีนี้ ตลอดจนยังเป็นผู้นำในการส่งออกสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปและคิดเป็นสัดส่วน 30-40% ของ GDP ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 อุตสาหกรรมดังกล่าวมีสัญญาเขิงบวกในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ การเติบโตของอุตสาหกรรมในช่วงที่ผ่านมา เป็นผลมาจากความต้องการสินค้าด้านการสื่อสารที่ใช้สำหรับการทำงานและการศึกษา เช่น โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ ทีวีและอุปกรณ์

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1065358/vns-electronics-industry-continues-to-grow-despite-covid-19.html

 

ปลาดาบเงินตากแห้งขายราคาดีที่ตลาดเจาะพยู

พ่อค้าปลา เผย ปลาดาบเงินตากแห้งในจังหวัดเจาะพยู รัฐยะไข่ เป็นที่นิยมจากผู้ซื้อและขายดีเป็นอย่างมากที่ตลาดเจาะพยู โดยขายในราคา 4,500 จัต จากเรือลากอวน และนำมาขายต่อที่ 5,000 จัตต่อ viss (1 viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) นอกจากการนี้ยังนำไปขายในเมืองมเยาะอู้, เจาะตอ, มี่น-บย่า, อ้าน, ทัตตาอุง และย่าน-บแย ในรัฐยะไข่อีกด้วย แต่ทั้งนี้ไม่สามารถส่งไปขายยังเมืองใหญ่ๆ เช่น ย่างกุ้ง เนปิดอว์ และมัณฑะเลย์ และต่างประเทศได้เนื่องจากไม่มีการติดต่อรับซื้อ ปลาดาบเงินเป็นที่รู้จักในท้องถิ่นว่างาทัยเวแห้งในรัฐยะไข่ ใช้สำหรับทำน้ำพริกและเป็นอาหารแห้งโดยการย่าง ทอด หรือทำเป็นสลัดรวมทั้งรับประทานกับอาหารเช้าแบบดั้งเดิมของเมียนมา เช่น ข้าวเหนียวร้อน

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/dried-ribbonfish-marketable-in-kyaukpyu/#article-title

ความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิตอลไตรมาส 3 ทรงตัวต่อเนื่อง พิษโควิด-รัฐกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ตรงจุด

นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิตอล ไตรมาส 3 ปี 2564 พบทรงตัวในเกือบทุกองค์ประกอบ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) หดตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิตอลขาดความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจ ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิตอล ไตรมาส 3 ประจำปี 2564 ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมย่อย โดยอยู่ที่ระดับ 45.0 ทรงตัวจากระดับ 45.6 ทั้งด้านปริมาณ การผลิต และการลงทุน อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการคาดหวังให้ภาครัฐส่งเสริมและสนับสนุนเศรษฐกิจ และมีความชัดเจนในการสนับสนุนด้านการตลาด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ที่มา: https://www.khaosod.co.th/economics/news_6695524

คณะกรรมการกลางสปป.ลาวมีมติดำเนินการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ หนี้สินและการว่างงาน

รายงานล่าสุดระบุว่าการว่างงานเพิ่มขึ้นหลังจากผลกระทบรุนแรงต่อธุรกิจที่เกิดจากการระบาดของ Covid-19 นอกจากนี้ แรงงานลาวหลายพันคนอพยพกลับบ้านจากประเทศไทยเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสในไทย ซึ่งทำให้สถานการณ์การว่างงานในประเทศลาวแย่ลง ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวคณะกรรมการกลางของพรรคปฏิวัติประชาชนลาวได้มีมติที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและหนี้สินอย่างเป็นระบบ ในขณะเดียวกันก็พยายามสร้างงานมากขึ้นเพื่อลดอัตราการว่างงานในประเทศ โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้รัฐบาล คณะกรรมการพรรค และเจ้าหน้าที่ทุกระดับดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ทั้งนี้ยังทบทวนความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนงบประมาณ และแผนสกุลเงิน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Party_resolves_208.php

กัมพูชาเห็นถึงการเกินดุลการค้าระหว่างญี่ปุ่น

กัมพูชาเห็นถึงการเกินดุลการค้าระหว่างญี่ปุ่นในช่วง 8 เดือนแรกของปี สะท้อนถึงความต้องการสินค้าที่ผลิตในกัมพูชาในตลาดญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้น โดยตัวเลขรายงานจากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคมปีนี้ แสดงให้เห็นว่ากัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่นมูลค่ารวมประมาณ 1.124 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 เมื่อเทียบเป็นรายปี ในทางกลับกันกัมพูชาได้ทำการนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นมูลค่ารวมประมาณ 385.1 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 28 ส่งผลทำให้กัมพูชาเกินดุลการค้ามูลค่า 739 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นมูลค่าการค้าทวิภาคี 1,509.3 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคม ตามการรายงาน โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญไปยังญี่ปุ่น ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ เครื่องสำอาง กระดาษ เครื่องใช้สำนักงาน และเครื่องหนัง ส่วนกัมพูชาทำการนำเข้าเครื่องจักร รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์ ผ้า และพลาสติกจากประเทศญี่ปุ่นเป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50956600/cambodia-sees-trade-surplus-with-japan-in-eight-months/

คาดการณ์เศรษฐกิจกัมพูชาโต 4.8% ปีหน้า

ธนาคาร Phillip Bank Plc คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจกัมพูชาคาดจะเติบโตร้อยละ 2.4 ในปีนี้ และคาดว่าจะขยายตัวมาอยู่ที่ร้อยละ 4.8 ภายในปี 2022 ตามรายงานของ Phillip Bank Plc ทางด้านผู้อำนวยการของ Phillip Bank กล่าวว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีหน้าจะได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจหลัก 3 ภาค ได้แก่ ภาคแรกการผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าและสิ่งทอ ภาคที่สองภาคการผลิตสินค้าที่ไม่ใช่เสื้อผ้า อาทิเช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ของเล่นและจักรยาน และภาคที่สามภาคเกษตรกรรม ถือเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของกัมพูชาให้กลับมาเติบโต รวมถึงกัมพูชายังมีปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน อาทิเช่น การให้สัตยาบันความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค, ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับจีน และข้อตกลงที่ใกล้จะลงนามกับเกาหลีใต้ในเร็ว ๆ นี้ ไปจนถึงในระยะถัดไป โดย FTA กับรัสเซีย ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดการลงนามเช่นกัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50956602/economy-to-grow-4-8-percent-next-year-bank-says/

‘เวียดนาม’ เผยวัคซีนพาสปอร์ต ช่วยภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

การเปิดรับนักท่องเที่ยวที่มีวัคซีนพาสปอร์ต ถือเป็นก้าวสำคัญของการใช้ชีวิตควบคู่กับวิกฤตโควิด-19 และช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์และรีสอร์ท คุณ Nguyễn Quốc Anh รองผู้อำนวยทั่วไปของเว็บสื่อกลางอสังหาฯ เวียดนาม “Batdongsan.com.vn” กล่าวว่าตลาดอสังหาฯ ยังคงประสบปัญหามากมาย ด้วยเหตุนี้ สิ่งสำคัญอันดับแรกในการช่วยตลาดอสังหาฯ และรีสอร์ท คือการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยทางฝั่งผู้เชี่ยวชาญ ชี้ว่าหากมีการเปิดใช้ “วัคซีนพาสปอร์ต” แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแล้วประสบความสำเร็จขึ้นมา จะเป็นแรงผลักดันภาคเศรษฐกิจอื่นๆ อีกมาก เนื่องจากบริษัทต่างชาติจำเป็นต้องนำผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากมาทำงานในเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1064087/vaccine-passports-could-help-resort-real-estate-sector.html

 

‘เวียดนาม’ คาดยอดการค้าทำสถิติสูงถึง 600 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปี 64

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) คาดการณ์มูลค่าการค้าในเดือน ต.ค. อยู่ที่ราว 510 พันล้านเหรียญสหรัฐ และจะปรับตัวสูงขึ้นแตะ 600 พันล้านเหรียญสหรัฐในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่คาดการณ์นั้นขึ้นอยู่กับว่าเวียดนามจะสามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ ทั้งนี้ ในครึ่งเดือนแรกของเดือน ต.ค. เวียดนามทำรายได้จากการค้าประมาณ 26 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมาจากการส่งออก 13.16 พันล้านเหรียญสหรัฐ และการนำเข้า 13 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนามที่ทำรายได้มากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ได้แก่ สมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องจักรและเสื้อผ้า เป็นต้น แต่เมื่อพิจารณาโดยภาพรวม พบว่าเวียดนามขาดดุลการค้า 2.45 พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ กระทรวงฯ แนะให้คงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการท้องถิ่น ตลอดจนป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสและเร่งแก้ไขปัญหาการขนส่งสินค้าจำเป็น

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnams-trade-turnover-projected-to-reach-record-high-of-us600-billion-in-2021-319064.html