เลือกตั้งซ่อมเมียนมา NLD ได้ 7 ที่นั่ง แพ้ 6 ที่นั่ง เหตุคนพื้นที่ไม่พอใจการทำงานของรัฐบาลซูจี

เอเอฟพีรายงานว่า พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา ออกมาแถลงเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ว่า พรรคNLD คว้าเก้าอี้ในการเลือกตั้งซ่อมมาได้ 7 ที่นั่ง และพ่ายแพ้ 6 ที่นั่ง ที่มีการเลือกตั้งซ่อม 13 ที่นั่งในสภาสูงและสภาล่างรวมทั้งสภาท้องถิ่น ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 3 พ.ยที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการทดสอบคะแนนเสียงในท้องถิ่นที่มีต่อพรรคNLD ของนางซูจี หลังจากคว้าชัยชนะอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งปี58 และเป็นอันสิ้นสุดยุคการปกครองของทหาร

ที่มา: https://www.prachachat.net/aseanaec/news-245071

จังหวัดด่งนาย ดึงดูดการลงทุน FDI ผ่านเครื่องหมายการค้า

จากรายงานระบุว่านอกจากความได้เปรียบจากข้อตกกลงทางการค้าเสรีหรือเอฟทีเอที่เวียดนามลงนาม เครื่องหมายการค้าของบริษัทท้องถิ่นและเขตอุตสาหกรรมก็ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีต่อการตัดสินใจของสถานประกอบการต่างประเทศ ใน 9 เดือนที่ผ่านมา เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้ามาในจังหวัดด่งนาย กว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับแผนที่วางไว้ ซึ่งถือเป็นการยืนยันคุณภาพและประสิทธิภาพในการลงทุนของโครงการในจังหวัดด่งนาย ตลอดจนความเชื่อมั่น และการ FDI ของสถานประกอบการ ต่อบรรยากาศการลงทุนของจังหวัดฯ ปัจจุบันยังคงปฏิบัติการปฏิรูประเบียบราชการและมีความโปร่งใส จากความได้เปรียบทั้งในด้านเครื่องหมายการค้าของท้องถิ่นและสถานประกอบการช่วยให้จังหวัดด่งนาย สามารถดึงดูดการลงทุนทางตรงจากสถานประกอบการ เป็นอย่างมาก

ที่มา: http://vovworld.vn/en-US/economy/dong-nai-attracts-fdi-thanks-to-brand-development-694610.vov

 

ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ต.ค.อยู่ที่ 81.3 ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ต.ค.61 อยู่ที่ 81.3 จาก 82.3 ในเดือนก.ย.61 ซึ่งปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 จากความกังวลสงครามการค้าและนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง โดยปัจจัยลบที่ส่งผลให้ดัชนีฯ ปรับตัวลดลง ได้แก่ การส่งออกเดือนก.ย.61 ลดลงร้อยละ 5.20 , ราคาพืชผลทางการเกษตรส่วนใหญ่ยังทรงตัวในระดับต่ำ, ความกังวลสงครามการค้าสหรัฐฯและจีน, นักท่องเที่ยวจีนลดลง, ผู้บริโภคยังรู้สึกว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและกระจุกตัว

ที่มา: https://mgronline.com/uptodate/detail/9610000110478

“กกร.” คงเป้าส่งออกปี 61 ที่ 8.0-10.0% GDP 4.4-4.8% แต่ห่วงสงครามการค้า น้ำมันผันผวน แนะประชุม “กรอ.” ส่วนกลางสะท้อนปัญหาถึงบิ๊กตู่

คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) ประเมินเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ปี61 การเติบโตชะลอลงจากช่วงครึ่งปีแรก โดยประมาณการปี 61 GDP ขยายตัว 4.4-4.8% และการส่งออกขยายตัว 8.0-10.0% เงินเฟ้อ 0.9-1.5% ผลมาจากสงครามการค้าสหรัฐฯ – จีน การที่ไทยถูกตัดสิทธิ์ GSP จากสหรัฐฯ ใน 11 รายการสินค้าส่งออก และผลกระทบอื่นๆ สำหรับภูมิภาคมีการปรับตัวลง ยกเว้นภาคตะวันออก ผลมาจากปัญหาความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว (โดยเฉพาะจีน ) รวมถึงราคาสินค้าเกษตรที่ยังอยู่ในระดับต่ำ แต่ด้านบวกคือ การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายฯ อยู่ที่ 1.50% และภาคส่งออกและการค้าชายแดนที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: https://www.prachachat.net/economy/news-245844

รมต. พาณิชย์กัมพูชา ส่งสัญญาณถึงนิวซีแลนด์ “กัมพูชาพร้อมเปิดกว้างทางธุรกิจ”

ภายหลังการหารือของรมต. พาณิชย์กัมพูชา กับเอกอัครราชทูตแห่งประเทศนิวซีแลนด์ ระบุว่ากัมพูชาคือหมุดหมายของนักลงทุน ทั้งยังเอ่ยด้วยว่ากัมพูชาถือเป็นโอกาสของนักลงทุนในด้านการเกษตรอุตสาหกรรมเบา เทคโนโลยีและบริการซึ่งเหตุหลักในการดึงนิวซีแลนด์เข้าลงทุนเพราะกัมพูชายังต้องการในการถ่ายทอดทักษะเทคโนโลยีการพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าเพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าทางการเกษตรและเพื่อความสามารถสามารถในการแข่งขันของกัมพูชา

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/50547023/we-are-open-for-business-minister-tells-new-zealand/

“ญี่ปุ่น” ขยายลงทุนฟาร์มเลี้ยงวัวใน “สปป.ลาว” ส่งออกเนื้อวัวเทียบชั้นโกเบ

เจ้าแขวงเชียงขวาง เปิดเผยว่า บริษัทเอกชนจากญี่ปุ่นตัดสินใจลงทุนเพิ่ม 77 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการพัฒนาฟาร์มเลี้ยงวัว บนพื้นที่ 5,000 เฮกตาร์ ในแขวงเชียงขวางทางภาคกลาง เพื่อเพิ่มการลงทุน “เนื้อวัว เทียบชั้นกับเนื้อโคเบคุณภาพสูงของญี่ปุ่น” ได้ขยายพื้นที่จาก 150 เฮกตาร์ เป็น 500 เฮกตาร์สำหรับพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์วัวชั้นดีจากออสเตรเลียกว่า 100 ตัว และที่กำลังรอคลอดกว่า 900 ตัว ปลายปี 2018 ฟาร์มแห่งนี้จะมีวัวพันธุ์ดีราวๆ 1,600 ตัว จะเกิดการถ่ายทอดความรู้และเกิดการจ้างงานและวางแผนจะตั้งโรงงานผลิตน้ำนมวัวคุณภาพสูง เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศด้วย

ที่มา: https://www.prachachat.net/aseanaec/news-244147

พม่ามองธุรกิจอีคอมเมิร์ซเพื่อการค้าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ตัวแทนรัฐ ผู้สนับสนุนและคู่ค้าได้เข้าร่วมประชุม ในการประชุมองค์การการค้าและการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNCTAD) เพื่อประเมินว่าอีคอมเมิร์ซช่วยผลักดันเศรษฐกิจของเมียนมาได้อย่างไร e-commerce สร้างงานและเพิ่มการค้าในเมียนมา ที่เมืองหลวงของประเทศคือ Nay Pyi Taw เพื่อหารือเกี่ยวกับส่งเสริมธุรกิจออนไลน์ รมต.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีความมุ่งมั่นที่จะให้        อีคอมเมิร์ซเป็นกลไกที่สำคัญทางเศรษฐกิจรวมถึงการค้าและการสร้างงานในเมียนมา และใช้นโยบายเชิงรุกเพื่อให้เกิดศักยภาพสูงสุดในการส่งเสริมการค้าและการจ้างงาน การปฏิรูประบบกฎหมาย เช่น เพิ่มความมั่นใจในการทำธุรกรรมออนไลน์ การปรับปรุงระบบที่อยู่ไปรษณีย์ของประเทศจะช่วยให้ธุรกิจสามารถส่งมอบพัสดุขนาดเล็กทั่วประเทศได้ง่ายขึ้น

ที่มา: : http://www.mizzima.com/article/myanmar-eyes-e-commerce-jobs-trade-and-economic-growth

Startups เมียนมา สนใจนักลงทุนต่างชาติ

ความสนใจในการเริ่มต้นธุรกิจของพม่าเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากนักลงทุนที่หวังเก็งกำไร เมื่อวานนี้สถาบันการเงินของเยอรมนี ทั้ง DEG และ agRIF ซึ่งเป็นกองทุนที่มุ่งเน้นผลกระทบซึ่งจัดหาเงินทุนให้กับตัวกลางทางการเงินที่กำหนดเป้าหมายไปยังกลุ่มเกษตรกรรายย่อยและประชากรในชนบท ร่วมลงทุนกันใน Rent 2 Own (Myanmar) Ltd (R2O) มูลค่า 6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยครอบคลุมหนึ่งในสามของยอดขายมอเตอร์ไซค์ภายในประเทศ

ที่มา: : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-startups-draw-international-investor-interest.html 

เวียตเจ็ทแอร์เซ็นสัญญาซื้อเครื่องบิน A321 50 ลำ ด้วยเม็ดเงิน 6.5 พันล้านเหรียญ จาก Airbus

เวียตเจ็ทแอร์ เป็นสายการบินของประเทศเวียดนาม เซ็นสัญญาซื้อเครื่องบินพาณิชย์ A321 จำนวน 50 ลำจากบริษัท Airbus ไปเมื่องานแสดงเครื่องบินที่ Farnborough ประเทศอังกฤษที่ผ่านมาเพื่อเป็นการรองรับการเติบโตของเส้นทางการบินระหว่างภูมิภาคและเอเชียแปซิฟิก สัญญายังระบุถึงอะไหล่และชิ้นส่วนที่ประกอบที่ทันสมัยสำหรับ A321 คาดว่าเครื่องบินทั้ง 60 ลำ คือ A320 และ A321 สามารถบินได้มากกว่า 385 เที่ยวบินต่อวัน ผู้โดยสารกว่า 65 ล้านคนใน 103 เส้นทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ที่มา: https://english.vietnamnet.vn/fms/business/211374/vietjet-signs-contract-to-buy-50-airbus-aircraft.html