ญี่ปุ่นให้ความช่วยเหลือในการดำเนินพิธีการศุลกากรของกัมพูชา

รัฐบาลญี่ปุ่นจะให้ความช่วยเหลือ กรมศุลกากรและสรรพสามิตแห่งกัมพูชา (GDCE) ในการจัดทำระบบพิธีการศุลกากรอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาความแออัดที่ทำให้กระบวนการชำระภาษีช้าลง โดย GDCE ได้ประชุมกับตัวแทนนักธุรกิจญี่ปุ่นที่ลงทุนในกัมพูชา เพื่อหารือและหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและส่งออกสินค้าและพิธีการทางศุลกากร ซึ่งผู้แทนจากทั้งสองฝ่ายที่เข้าร่วมการประชุม ได้แก่ ผู้อำนวยการกรมศุลกากร ประธานสมาคมธุรกิจญี่ปุ่นแห่งกัมพูชา (JBAC) สถานทูตญี่ปุ่นในกัมพูชา และผู้อำนวยการองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ในกัมพูชาเปิดเผยว่าฝ่ายญี่ปุ่นกำลังศึกษาวิธีบรรเทาปัญหาความแออัดที่จุดผ่านแดนระหว่างกัมพูชาและเวียดนาม โดยจะทดสอบระบบพิธีการศุลกากรอัตโนมัติใหม่ที่ท่าเรือและด่านศุลกากรหลักของกัมพูชา รวมถึงการติดตั้งระบบกล้องตรวจทางศุลกากรเพื่อเร่งเวลาในการดำเนินพิธีการศุลกากร ซึ่งรวมถึงการจัดตั้งระบบ “National Single Window” ที่อนุญาตให้สมัครทางออนไลน์สำหรับเอกสารทางการนำเข้า / ส่งออก วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ที่จะเชื่อมโยงหน่วยงานของรัฐ 6 หน่วยงาน ได้แก่ กรมศุลกากรและสรรพสามิตแห่งกัมพูชา สภาพัฒนากัมพูชา กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม กระทรวงเกษตรป่าไม้และประมงและกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50804464/japan-to-assist-in-cambodian-customs-clearance-automation/

ทางหลวงเชื่อมเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย-ทิศตะวันตกเริ่มเดินหน้าก่อสร้างในปีหน้า

คณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายเผยการก่อสร้างทางหลวงสองช่องจราจรความยาว 140 กิโลเมตรที่เชื่อมระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย (SEZ) ในเขตตะนาวศรีไปยังเกาะเตกีที่ชายแดนไทยจะเริ่มในกลางปี 2564 กระทรวงการก่อสร้างจะเป็นผู้ดูแลโครงการด้วยเงินกู้จากสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้านของไทย (NEDA) ทั้งนี้การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการประเมินผลกระทบทางสังคมเพิ่งได้รับการอนุมัติ กระทรวงการวางแผนการเงินและอุตสาหกรรมเตรียมลงนามในสัญญาเงินกู้กับ NEDA. และคาดว่าจะมีการประมูลราคาในปีหน้า เมื่อเดินทางจาก SEZ จะใช้เวลาประมาณ 2.5 ชั่วโมงเพื่อไปยังเตกีโดยรถยนต์และอีก 2 ชั่วโมงยังกรุงเทพฯ การพัฒนาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากญี่ปุ่นเสนอให้ลงทุนใน SEZ ซึ่งคาดว่าจะเป็นเขตอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยชาวญี่ปุ่นจะมีส่วนร่วมในการลงทุนและพัฒนา มูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 20,000 เฮกตาร์ซึ่งจะดำเนินการเป็นระยะ ๆ และรวมถึงท่าเรือน้ำลึกและ high-tech zones

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/construction-highway-connecting-dawei-sez-htikhee-commence-next-year.html

เมียนมาตอบรับข้อเสนอญี่ปุ่นในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย

คณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายเผย เมียนมายินดีรับข้อเสนอของญี่ปุ่นในการลงทุนในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ในเขตตะนาวศรี เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 63 ที่ผ่านมา โดยการลงทุนคาดว่าจะเป็นเขตอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในระดับ G2G ทั้งนี้รัฐบาลไทยยังแสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายด้วย ซึ่งชาวญี่ปุ่นจะมีส่วนร่วมในการพัฒนา SEZ โดยมีมูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐบนพื้นที่ 20,000 เฮกตาร์ โดยจะดำเนินการเป็นระยะ ๆ รวมถึงท่าเรือน้ำลึกและ high-tech zones. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ บริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ของไทยได้เคยทำ MOU กับรัฐบาลเมียนมาร์ในปี 2551 แต่ต้องหยุดชะงักในปี 2556 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทูตญี่ปุ่นประจำเมียนมากล่าวว่ากำลังศึกษาโครงการท่าเรือน้ำลึกและจะจัดหาเงินทุนให้กับโครงการผ่านความช่วยเหลือด้านการพัฒนาอย่างเป็นทางการหรือด้วยวิธีการอื่น ๆ

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-replies-japans-offer-cooperation-dawei-sez.html

เวียดนามเป็นแหล่งลงทุนอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น

ธุรกิจในเวียดนามจำนวนมากได้รับคำแนะนำให้ปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อคว้าโอกาสในการรับกระแสการลงทุนจากญี่ปุ่น โดยเฉพาะธุรกิจญี่ปุ่นกว่า 2,000 ราย เข้ามาลงทุนในเวียดนามช่วงสิ้นปี 2562 รองลงมากลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก ด้วยเงินทุนจดทะเบียน 59.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 15.6 ของเงินทุนรวม โดยข้อมูลข้างต้น เกิดหลังจากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) เปิดเผยรายชื่อบริษัท 15 รายที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อย้ายฐานการผลิตจากจีนไปยังกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไทยและสปป.ลาว ทั้งนี้ ตามการสำรวจของเจโทร เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ระบุว่าธุรกิจญี่ปุ่นส่วนใหญ่ร้อยละ 63.9 ดำเนินกิจการในเวียดนาม สิ่งนี้เป็นโอกาสอันดีแก่ธุรกิจในท้องถิ่น เพื่อยกระดับความร่วมมือและเชื่อมต่อกับธุรกิจญี่ปุ่น โดยเฉพาะการผลิตชิ้นส่วนและสนับสนุนเทคโนโลยีสารสนเทศ

ที่มา : https://vietreader.com/business/finance/24421-vietnam-regarded-as-top-investment-destination-for-japan-businesses.html\

การค้าทวิภาคีระหว่างญี่ปุ่นกับกัมพูชาลดลงกว่าร้อยละ 25

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชากับญี่ปุ่นมีมูลค่าอยู่ที่ 1,548 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 3 ของปี ซึ่งลดลงกว่าร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามรายงานขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) โดยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกันยายนกัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่น 1,208 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 5.6 ในขณะที่กัมพูชานำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นทั้งสิ้น 339 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 14.8 ซึ่งปัจจุบันการส่งออกของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่นคิดเป็นร้อยละ 0.3 ของการส่งออกทั้งหมด ในขณะที่การนำเข้าสินค้าของกัมพูชาจากญี่ปุ่นคิดเป็นเพียงร้อยละ 0.1 ของการนำเข้าทั้งหมดของกัมพูชา โดยกัมพูชาได้ส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เสื้อผ้า รองเท้า และจักรยาน ส่วนสินค้านำเข้าหลักคือเครื่องจักรและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50781435/japan-and-cambodia-bilateral-trade-dropped-25/

ญี่ปุ่นขอมีส่วนร่วมพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย

นาย U Myint San รองประธานคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) เผยรัฐบาลญี่ปุ่นยื่นข้อเสนอเพื่อเข้าร่วมการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายแบบฐบาลต่อรัฐบาล (G2G) ถึงแม้มีการระบาดของ COVID-19 แต่ก็อนุมัติให้ญี่ปุ่นเข้าร่วมทันทีและกำลังรอการสนับสนุนทางการเงินและทางเทคนิคเพื่อเริ่มต้นการก่อสร้างที่ล่าช้ามานาน โครงการการพัฒนาล่าสุดล่าสุดภายหลังจากจีนสนใจที่จะลงทุนในเขตเศรษฐกิจทวายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 63 ทวายคาดว่าจะเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนซึ่งใหญ่กว่าติวลาในย่างกุ้งประมาณ 8 เท่าและใหญ่กว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษเจ้าผิวในยะไข่ถึงสิบเท่า เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายมีพรมแดนติดกับประเทศไทยโดยมีพื้นที่ 20,000 เฮกตาร์ซึ่งรวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมและท่าเรือ บริษัท อิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างของไทยมีการลงนามบันทึกความเข้าใจเบื้องต้นระหว่างเมียนมาและไทยในปี 51 แต่หยุดชะงักลงในปี 56 เนื่องจากไม่สามารถหาเงินลงทุนได้ตามสัญญา

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/japan-offers-participate-dawei-sez-development.html

ญี่ปุ่นวางแผนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะในกัมพูชา

บริษัทญี่ปุ่นได้ลงทุนบนโรงไฟฟ้าพลังงานจากขยะและสถานีกักเก็บก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในกัมพูชา โดย Mikami Masahiro เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกัมพูชาในการพบปะกับ Suy Sem รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานในพนมเปญเมื่อต้นสัปดาห์ ซึ่งเอกอัครราชทูตกล่าวว่าการระบาดของ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างมากทั่วโลกและส่งผลกระทบต่อโครงการพัฒนาหลายโครงการในกัมพูชา แต่อย่างไรก็ตามความสำคัญคือกัมพูชาและญี่ปุ่นยังคงทำงานร่วมกันในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานผ่านการเจรจาเพื่อส่งเสริมการพัฒนาโครงการลงทุนระหว่างสองประเทศ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมีความยินดีกับโครงการลงทุนของญี่ปุ่นในภาคพลังงานโดยเน้นว่ากัมพูชากำลังปรับแผนการจัดหาไฟฟ้าเพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาอย่างรวดเร็วของประเทศ ซึ่งโครงการพลังงานไฟฟ้าจากขยะในกัมพูชาได้รับการเสนอโดยบริษัทหลายแห่ง แต่เนื่องจากมีต้นทุนการลงทุนที่สูงเมื่อเทียบกับโครงการพลังงานอื่นๆ จึงยังไม่มีการลงทุนอุตสาหกรรมนี้เกิดขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50780638/japan-unveils-plan-to-build-waste-to-energy-plant-in-cambodia/

การค้าระหว่างกัมพูชากับญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 7.42

การค้าทวิภาคีระหว่างญี่ปุ่นกับกัมพูชาลดลงร้อยละ 7.42 อยู่ที่ 1.346 พันล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงสิงหาคม 2020 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ตามสถิติที่เปิดเผยโดยองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) โดยการส่งออกของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 5.3 ซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 1.045 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2020 ในขณะที่การนำเข้าจากญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 14.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ระบุว่าสินค้าที่มีศักยภาพในการส่งออกจากกัมพูชาไปยังญี่ปุ่น ได้แก่ เครื่องแต่งกาย รองเท้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้การส่งออกจาก PPSEZ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งนักลงทุนต่างชาติได้ขอให้รัฐบาลกัมพูชาลดค่าใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (CO) ที่ปัจจุบันมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50770683/two-way-cambodia-japan-trade-dips-by-7-42-percent/

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและญี่ปุ่นในช่วง 7 เดือนแรกของปี

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและญี่ปุ่นอยู่ที่ 1,175 ล้านดอลลาร์ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 5.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งตัวเลขดังกล่าวรายงานโดยองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) ระบุว่าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคมการส่งออกของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่นมีมูลค่าอยู่ที่ 914 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 3 พบว่าสินค้าที่มีศักยภาพในการส่งออกของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่น ได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเมื่อปีที่แล้วการค้าระหว่างสองชาติเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 13 ที่ 2,292 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50764528/cambodia-japan-trade-reaches-1-1-billion-in-first-seven-months/

อิออน ซูเปอร์มาร์เก็ต จัดงาน ‘Vietnam Fair’ ในญี่ปุ่น

งาน Vietnam Fair จัดแสดงสินค้าเวียดนามระหว่างวันที่ 11-13 กันยายน 2563 ในอิออน ซูเปอร์มาร์เก็ต 40 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยงานแสดงสินค้าครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สินค้าเวียดนามเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นและขยายความสัมพันธ์ทางการค้ากับพาร์ทเนอร์ชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะผู้นำเข้าของทางอิออน นอกจากนี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมทางธุรกิจของบริษัทเวียดนามเกี่ยวกับระบบการจัดจำหน่ายในปี 2563 และเปิดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนามกับกลุ่มบริษัทอิออน เพื่อให้เวียดนามส่งออกไปยังอิออนเพิ่มขึ้น อยู่ที่ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ และ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-fair-underway-in-aeon-supermarkets-in-japan/182892.vnp