ลมแห่งการเปลี่ยนแปลงสำหรับภาคอุตสาหกรรมพลังงานของกัมพูชา

บริษัท พลังงานชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้วางแผนที่จะสร้างฟาร์มกังหันลมแห่งแรกในกัมพูชา โดยThe Blue Circle บริษัทชาวสิงคโปร์กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเจรจากับผู้ผลิตไฟฟ้า Electricite du Cambodge (EDC) ของรัฐเพื่อเจรจาข้อตกลงการซื้อไฟฟ้า (PPA) ในฟาร์ม ซึ่งจะตั้งอยู่บนภูเขา Bokor ในจังหวัดกำปอต ซึ่งกระบวนการนี้อาจใช้เวลาประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี จึงจะเสร็จสมบูรณ์ โดยค่า PPA อาจต่ำเพียง 7 เซ็นต์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง วิกเตอร์โจนาผู้อำนวยการฝ่ายพลังงานของกระทรวงพลังงานกล่าว เมื่อมีการตกลงกันแล้วการก่อสร้างฟาร์มพลังงานสะอาดซึ่งจะมีกังหันลมอย่างน้อย 10 แห่ง สามารถทำการผลิตไฟฟ้าได้ 80 เมกะวัตต์ต่อปี โดยทั่วไปหนึ่งเมกะวัตต์สามารถตอบสนองความต้องการพลังงานของบ้านได้ระหว่าง 225-300 ครัวเรือนต่อปี โดยการใช้พลังงานทั่วประเทศเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 12 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงเพิ่มขึ้น 23% เมื่อปี 2561 ซึ่งจากการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้โดยธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ประเทศกัมพูชามีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำถึง 10,000 เมกะวัตต์ (mW) ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมพลังงาน 8,100 mW และ 6,500 mW ตามลำดับ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50716028/winds-of-change-for-energy-industry/

การเติบโตของภาคอุตสาหกรรมเวียดนามในไตรมาสที่ 1 คาดว่าขยายตัว 3%

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 2.68 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถ้าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (COVID-19) อยู่ในการควบคุมได้ ซึ่งอุตสาหกรรมการแปรรูปและการผลิตเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศและมีส่วนแบ่งของสาขาอุตสาหกรรมมากที่สุด มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 2.38 สำหรับอุตสาหกรรมที่ใช้ส่วนประกอบนำเข้าจากประเทศจีน จะได้รับผลกระทบอย่างมากเนื่องจากจีนเป็นแหล่งซัพพลายเออร์วัสดุและส่วนประกอบรายใหญ่ของเวียดนาม ขณะเดียวกัน อุตฯการผลิตที่ได้รับผลกระทบในทิศทางลบ ได้แก่ กลุ่มเครื่องนุ่งห่ม กลุ่มผลิตยานยนต์และโลหะ เป็นต้น ทั้งนี้ หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวดำเนินไปจนถึงสิ้นไตรมาสที่ 2 ซึ่งแนวโน้มการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 7 ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ นอกจากนี้ ทางสำนักงานสถิติเวียดนาม (GSO) ได้เสนอให้รัฐบาลสนับสนุนผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส ได้แก่ การหาซัพพลายเออร์ ลดอัตราภาษีการส่งออก-นำเข้าและกระตุ้นการบริโภคในประเทศ รวมไปถึงควบคุมเงินเฟ้อและรักษาเสียรภาพเศรษฐกิจมหภาคและตลาดการเงิน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/592301/industrial-sectors-growth-likely-to-hit-almost-3-in-q1.html

อุตสาหกรรมบริการ สปป.ลาวกับความท้าทายในการทำธุรกิจ

ในการเตรียมการสำหรับthe 13th Lao Business Forum (LBF)สำนักเลขาธิการ LBF ได้จัดประชุมคณะทำงานภาคเอกชนครั้งแรกของปีนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับความท้าทายที่ภาคเอกชนต้องเผชิญในการดำเนินธุรกิจ ปัญหาที่ภาคธุรกิจบริการระบุว่าเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงาน ขั้นตอนการจดทะเบียนองค์กร การอนุมัติใบอนุญาตประกอบธุรกิจและการคืนภาษี การประชุมคณะทำงานของภาคเอกชนเริ่มต้นกระบวนการเจรจาระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนภายใต้กลไก LBF ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่ากฎหมายจะถูกต้องตามกฎหมายมากขึ้น ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความสะดวกในการทำธุรกิจ จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาภาคเอกชนผ่านการปรับปรุงภาพรวมธุรกิจในสปป.ลาว ในท้ายที่สุดมันจะช่วยรัฐบาลในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมโดยหนึ่งในนั้นคือสปป.ลาวหลุดพ้นออกจากสถานะประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/service-industry-discusses-challenges-doing-business-113783

บริษัทยางจากเวียดนามที่บริหารงานโดยรัฐวางแผนขยายกิจการในกัมพูชา

Vietnam Rubber Group (VRG) กำลังวางแผนที่จะขยายพื้นที่เพาะปลูก โดยปัจจุบันในกัมพูชา VRG ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐฯเวียดนามได้ลงทุนในฟาร์มยางขนาดใหญ่ใน 7 จังหวัด โดยเปิดเผยแผนการขยายตัวในระหว่างการประชุมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรในกรุงพนมเปญ ซึ่งระบุว่า บริษัท เก็บน้ำยาง 50,000 ตันจากพื้นที่ในกัมพูชา 47,000 เฮกตาร์เมื่อปีที่แล้ว โดย VRG ดำเนินธุรกิจผ่าน บริษัท ย่อย 19 แห่งในกัมพูชามีรายงานการลงทุนมูลค่าประมาณกว่า 800 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในปี 2019 สูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 23 ซึ่งทำรายได้อยู่ที่ประมาณ 1.28 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยบริษัท ซึ่งมีพื้นที่เกือบ 10,000 เฮคตาร์ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลในการทำสวนยางพาราในจังหวัดพระวิหารได้ลงทุน 40 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสร้างงาน 3,000 ตำแหน่งให้แก่คนงาน จากข้อมูลของธนาคารแห่งชาติกัมพูชาระบุว่ากัมพูชาสร้างรายได้มากกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้วจากการส่งออกยางในปีที่แล้วลดลงร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50682038/state-run-vietnam-rubber-firm-plans-expansion-in-kingdom

ความร่วมมือสปป.ลาว – จีนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมและการเกษตรในสะหวันนะเขต

หน่วยงานสปป.ลาวและบริษัทจีนจะสำรวจและออกแบบโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมและการเกษตรในเมืองเซโปน แขวงสะหวันนะเขต ซึ่งบริษัท ซันเปเปอร์โฮลดิ้งลาว จำกัด จะให้การสนับสนุนมากกว่า 177 พันล้านกีบ (20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อดำเนินโครงการบนที่ดิน 800 เฮกตาร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและการลงทุนในแขวงสะหวันนะเขตและผู้อำนวยการ บริษัท ซันเปเปอร์โฮลดิ้งลาว จำกัด ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับโครงการ โดยมีแผนที่จะจัดสรรที่ดินเพื่อการเพาะปลูก การเลี้ยงปลาและการปลูกต้นไม้เพื่อการผลิตที่ยั่งยืนที่จะสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น หน่วยงานและบริษัทยังวางแผนที่จะพัฒนาพื้นที่โครงการ 800 เฮกตาร์เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยสร้างเพื่อรับรองผลิตภัณฑ์สีเขียว (Green Product) และสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/lao-chinese-partnership-develop-industry-and-agriculture-savannakhet-111968