เวียดนามโดนตัดสิทธิ GSP ของข้อตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย

กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ของเวียดนาม (Vietrade) เมื่อวันที่ 12 ต.ค. เผยว่าเวียดนามถูกลบออกจากรายชื่อประเทศที่มีสิทธิทางด้านภาษีจากข้อตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (EAEU) ภายใต้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) การเคลื่อนไหวดังกล่าว มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้ส่งออกเวียดนามไปยังกลุ่มประเทศ EAEU อาทิ รัสเซีย เบลารุส คาซัคสถาน อาร์เมเนียและคีร์กีซสถาน โดยเฉพาะรัสเซีย เนื่องจากเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ เวียดนามเป็น 1 ใน 75 ประเทศกำลังพัฒนาที่ถูกลบออกจากรายชื่อ ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ยอดการค้าระหว่างเวียดนามกับประเทศ EAEU เพิ่มขึ้น 6.5% เป็นมูลค่า 5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-removed-from-list-of-beneficiaries-of-eaeu-tariff-preferences-under-gsp/201933.vnp

ธนาคารแห่งชาติกัมพูชาขยายโครงการปรับโครงสร้างหนี้ถึงสิ้นปี

ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ออกมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบทางด้านการเงินให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยมาตรการดังกล่าวรวมถึงการคงปริมาณเงินทุนสำรองของสถาบันการเงินภายใรประเทศไว้ที่ร้อยละ 7 เพื่อเป็นการรองรับกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตและทำการขยายการปรับโครงสร้างหนี้ไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งลูกค้าที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ล็อกดาวน์สามารถทำการขอรีไฟแนนซ์ได้ถึง 3 ครั้งในช่วงระยะเวลาผ่อนผันนี้ตามประกาศของ NBC ทั้งยังสนับสนุนให้สถาบันการเงินพิจารณาลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมเป็นรายกรณีตามความเหมาะสม โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสมาคมไมโครไฟแนนซ์กัมพูชา (CMA) รายงานว่าภายในเดือนเมษายนมียอดเงินกู้รวมสูงถึงประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์ ที่ขอทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในสถาบันทางการเงินที่เป็นสมาชิก CMA

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50861450/nbc-extends-loan-restructures-to-end-of-year/

ทิศทาง CLMV หลัง COVID-19

โดย BRD Analysis I ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย

ประเด็นสำคัญ

  • เศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มขยายตัวโดดเด่นที่สุดใน CLMV ขณะที่รัฐประหารทำให้เศรษฐกิจเมียนมาซึ่งเคยขยายตัวสูงกลับถดถอยและกลายเป็นประเทศที่มีแนวโน้มเศรษฐกิจเติบโตต่ำที่สุดในกลุ่ม
  • นโยบายภาครัฐของกัมพูชาเน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลให้โรงไฟฟ้าเป็นธุรกิจที่มีโอกาสขยายการลงทุนในระยะข้างหน้า พร้อมกับผลักดันอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทดแทนเสื้อผ้าสำเร็จรูป
  • การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่ใน สปป.ลาว ต้องอาศัยนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน ซึ่งโรงไฟฟ้าพลังน้ำยังคงเป็นเป้าหมายหลัก ขณะที่การลงทุนภาคการผลิตมีโอกาสเพิ่มขึ้นจากโครงการรถไฟจีน – สปป.ลาว
  • ความขัดแย้งในเมียนมาทำให้ธุรกิจต่างชาติต้องเน้นประคองธุรกิจ และการลงทุนใหม่มีแนวโน้มชะลอตัวรุนแรง

————————————————————————————————————————————————————

ทิศทางเศรษฐกิจของ CLMV

กัมพูชา :เศรษฐกิจยังฟื้นตัวได้จำกัดในระยะสั้น แม้ภาคส่งออกจะได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ ขณะที่การลงทุน โดยเฉพาะจากจีน มีแนวโน้มฟื้นตัว แต่ภาคท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศยังคงต้องใช้ระยะเวลาฟื้นตัวอีก 1-2 ปี

สปป.ลาว : การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจขึ้นกับปัจจัยสนับสนุนภายนอก เนื่องจากภาครัฐประสบปัญหาหนี้สาธารณะในระดับสูง ทำให้ไม่มีเครื่องมือที่ใช้ สำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจ และต้องลดการใช้จ่ายภาครัฐลง จึงต้องหวังพึ่งการลงทุนจากต่างประเทศเป็นหลัก

เมียนมา : ยากต่อการคาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจ เนื่องจากรัฐประหารเปลี่ยนทิศทางของประเทศไปโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ IMF คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวกว่า 4% ตั้งแต่ ปี 2566 จากความคาดหวังว่าความวุ่นวายในประเทศจะคลี่คลายลงได้

เวียดนาม : มีแนวโน้มขยายตัวโดดเด่นที่สุดใน CLMVโดยรัฐบาลตั้งเป้าเศรษฐกิจขยายตัว 6.5-7.0% ระหว่างปี 2564-2568 และจะเป็นประเทศที่มีรายได้ ปานกลางค่อนข้างสูงภายในปี 2573

————————————————————————————————————————————————————

ทิศทางธุรกิจและอุตสาหกรรม

กัมพูชา : การดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่นอกเหนือจากเสื้อผ้าสำเร็จรูป โดยมีอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ ดังนี้

ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ : การลงทุนมีแนวโน้มขยายตัว โดยการส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของกัมพูชา (สัดส่วนราว 5% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด) ในปี 2563 ขยายตัวราว 220% เนื่องจากความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของโลกที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่ารัฐบาลจะดึงดูดการลงทุนเพิ่มขึ้นในระยะข้างหน้า

โรงไฟฟ้า : การลงทุนมีแนวโน้มขยายตัว เนื่องจากกัมพูชายังมี Supply ของไฟฟ้าไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ โดยโรงไฟฟ้าที่มีศักยภาพการลงทุน ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

สปป.ลาว : การลงทุนใหม่ต้องอาศัยนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน ทั้งนี้ สปป.ลาว ยังคาดหวังกับการลงทุน ดังนี้

ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังน้ำ : ยังคงเป็นธุรกิจเป้าหมายของรัฐบาล สปป.ลาว แต่โครงการใหม่ในระยะข้างหน้าต้องพึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด เนื่องจากรัฐบาลเผชิญข้อจำกัดทางการเงิน

ภาคการผลิตที่ได้ประโยชน์จากการเชื่อมโยง สปป.ลาว กับประเทศเพื่อนบ้าน : โครงการรถไฟจีน – สปป.ลาว ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค. 2564 จะดึงดูดการลงทุนในภาคการผลิตของ สปป.ลาว ได้ในอนาคต

เมียนมา : ธุรกิจต่างชาติในเมียนมาเน้นประคองธุรกิจ ขณะที่การลงทุนใหม่มีแนวโน้มชะลอตัวรุนแรง

ภาคการผลิต : การผลิตเพื่อส่งออก (เสื้อผ้าสำเร็จรูป) หยุดชะงัก เนื่องจากผู้นำเข้า โดยเฉพาะชาติตะวันตก หลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมกับเมียนมา จนผู้ประกอบการต่างชาติบางส่วนอาจถอนการลงทุน ขณะที่การผลิตที่เน้นตลาดในประเทศ เผชิญกับความต้องการที่หดตัวตามภาวะเศรษฐกิจเมียนมา

โรงไฟฟ้า : นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่ชะลอการลงทุน และเป็นโอกาสที่จีนจะมีบทบาทในเมียนมามากขึ้น

เวียดนาม : หลายอุตสาหกรรมในเวียดนามมีแนวโน้มขยายตัวดี โดยอุตสาหกรรมที่เป็นโอกาสการลงทุนของไทย อาทิ

อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป : เนื่องจากความต้องการอาหารที่มีความปลอดภัยและถูกสุขอนามัยเพิ่มขึ้น ประกอบกับรัฐบาลให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มมูลค่าและยกระดับการผลิตสินค้าเกษตร

ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ : มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องตามการขยายตัวของภาคการผลิตในเวียดนาม ซึ่งรวมถึงบรรจุภัณฑ์ในอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปและเครื่องดื่ม

โรงไฟฟ้า : ยังเติบโตจากความต้องการใช้ ไฟฟ้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 8.6% และ 7.2% ในช่วงปี 2564-2568 และ 2569-2573 ตามล าดับ ซึ่งเวียดนามจะลดการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินและเพิ่มพลังงานหมุนเวียน

https://kmc.exim.go.th/detail/hot-issues/20210512113428ที่มา :

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาเริ่มมองหาการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวทองคอนกล่าวว่ากระทรวงการท่องเที่ยวกำลังวางแผนสำหรับการฟื้นฟูการท่องเที่ยวระหว่างประเทศภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยจะเริ่มประเมินสถานภาพของภาคบริการด้านการท่องเที่ยวในทุกจุดหมายปลายทาง ร่วมกับการสร้างมาตรฐานการให้บริการการท่องเที่ยวภายในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างรวดเร็ว เพื่อรับรองความปลอดภัยและคุณภาพของแต่ละจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งกระทรวงจะทำการศึกษาถึงความเป็นไปได้ที่จะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนตามกำหนดให้สามารถเดินทางมายังกัมพูชาได้ในฐานะนักท่องเที่ยว ร่วมถึงต้องเร่งทำการฉีดวัคซีนให้กับพนักงานภาคบริการและประชาชนภายในประเทศให้ได้ครอบคลุมที่สุดเพื่อเป็นการจำกัดการแพร่ระบาดและถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่จะเดินทางมายังประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50860035/tourism-ministry-eyes-return-of-intl-tourists/

รัฐบาลกัมพูชาวางแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19

รัฐบาลกัมพูชาวางแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสิ้นสุดวิกฤตโควิด-19 ที่คาดว่าจะทุเลาลงในช่วงปี 2021-2023 ในการประชุมนานาชาติครั้งที่ 26 ว่าด้วยอนาคตของเอเชียภายใต้หัวข้อ “การจัดการยุคใหม่หลังวิกฤตโควิด: บทบาทของเอเชียภายใต้การเปลี่ยนแปลงโลก” ซึ่งนายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่ารัฐบาลกัมพูชามุ่งมั่นที่จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสในการปฏิรูปเชิงลึกที่มุ่งสร้างระบบเศรษฐกิจและสังคมที่เข้มแข็งและยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต โดยรัฐบาลได้เตรียมและวางแผนที่จะเปิดตัวแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด-19 สำหรับปี 2021-2023 เพื่อให้การเติบโตทางเศรษฐกิจกลับมาใกล้เคียงกับศักยภาพการเติบโตที่ยั่งยืนมากขึ้นนอกจากนี้รัฐบาลยังว่างแผนพัฒนาโดยนำมาตรการปฏิรูปที่สำคัญในด้านโครงสร้างการลงทุนและธุรกิจ ไปจนถึงการส่งเสริมและพัฒนาดิจิทัลในภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างความยืดหยุ่นโดยการเสริมสร้างความพร้อมและการตอบสนองในอนาคต โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาระบบการคุ้มครองสุขภาพและสังคมที่เข้มแข็ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50859901/reform-at-heart-of-govt-plans-for-economic-recovery/

เอสแอนด์พี ปรับขึ้นอันดับความน่าเชื่อถือของเวียดนามเป็น ‘บวก’

บริษัท S&P Global Ratings (S&P) ได้ปรับคงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศเวียดนามเป็น “บวก” กระทรวงการคลัง เผยว่าเวียดนามเป็นประเทศเดียวกันในโลกที่มีแนวโน้มดีขึ้น จากทั้งบริษัท Moody, S&P และ Fitch ทั้งนี้ S&P ยืนยันว่าเวียดนามประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจและการปฏิรูปทางด้านนโยบายอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 เวียดนามคงจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ประมาณ 1-2 ปีข้างหน้า เนื่องจากมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ตลอดจนการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ การส่งออกที่มั่งคง ความต้องการในประเทศที่แข็งแกร่งและผลกระทบภายนอกเชิงบวก

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/sp-global-ratings-raises-vietnams-outlook-to-positive/201858.vnp

เวียดนามเผยสถานประกอบการซบหนัก เหตุโควิด-19

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) ระบุว่ามีสถานประกอบการหยุดกิจการ 40,323 แห่งในไตรมาสแรก เพิ่มขึ้น 15.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในทางตรงข้ามแล้วนั้น ธุรกิจจดทะเบียนรายใหม่ 29,300 แห่ง ลดลง 1.4% นักเศรษฐศาสตร์มองว่าตัวเลขดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความกังวล เนื่องจากนับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาที่จำนวนธุรกิจถอนตัวออกจากตลาดได้แซงหน้าจำนวนธุรกิจจดทะเบียนใหม่ ทั้งนี้ ตามรายงานของอาหารค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม เผยว่าการระบาดของไวรัส ก่อให้เกิดผลกระทบในเชิงลบหลายประการ โดยธุรกิจส่วนใหญ่ 87.2% ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งด้านการเข้าถึงลูกค้า กระแสเงินสดและพนักงาน ตลอดจนประชากรในวัยทำงานกว่า 1.1 ล้านคนต้องตกงานในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 12,100 คน เมื่อเทียบกับปีก่อน

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/covid-19-causes-alarming-withdrawal-rate-from-local-market-859312.vov

สปป.ลาวขยายการ LOKDOWN ออกไปเนื่องจากผู้ติดเชื้อ COVID-19 ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รัฐบาลลาวได้ตัดสินใจขยายการปิดล้อมทั่วประเทศในปัจจุบันไปจนถึงวันที่ 4 มิถุนายนเนื่องจากผู้ติดเชื้อ COVID-19 ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การ LOKDOWN บุคคลจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าหรือออกจากพื้นที่ติดเชื้อหรือพื้นที่เสี่ยงตามที่กำหนดโดยคณะกรรมการงานแห่งชาติเพื่อการป้องกันและควบคุม COVID-19 ยกเว้นผู้ที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องในการขนส่งสินค้าการจัดส่ง

ที่มา : http://www.china.org.cn/world/Off_the_Wire/2021-05/20/content_77514635.htm

สปป.ลาวเพิ่มความเข้มแข็งในการควบคุมชายแดนเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากโควิด -19 ที่นำเข้า

รัฐบาลลาวได้สั่งการให้ทั่วประเทศเฝ้าระวังชายแดนอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด -19 ชาวสปป.ลาวที่ทำงานในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ สามารถกลับไปสปป.ลาวได้ แต่ต้องเข้าที่จุดผ่านแดนอย่างเป็นทางการเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองโควิด -19 การปิดชายแดนครั้งนี้ถึงแม้จะทำให้สปป.ลาวรับมือกับโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิแต่ผลเสียที่ตามมาคือเรื่องของการค้าชายแดนที่เป็นช่องทางหลักในการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทยที่คิดเป็นมูลค่าการค้ากว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด การปิดชายแดนจะทำให้การขนส่งสินค้าเข้ามามีความล่าช้าและต้นทุนในการขนส่งที่สูงขึ้นซึ่งจะย้อนกลับมาสร้างผลกระทบแก่ค่าครองชีพสปปป.ลาว เนื่องจากสปป.ลาวพึ่งพาสินค้านำเข้าเป็นหลักภายในประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลจำเป็นต้องหาแนวทางแก้ไขควบคู่ไปกับมาตรกรป้องกันที่เข้มงวด

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/asiapacific/2021-05/17/c_139950983.htm

กัมพูชาเคาะปรับสีจังหวัดเขตพื้นที่สีแดงลดลง

รัฐบาลกัมพูชามีแผนที่จะปรับลดเขตพื้นที่สีแดงลงให้เหลือเพียงระดับครัวเรือน เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเขตเมืองหลวงลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงพนมเปญลดลงอย่างมากจาก 500 รายต่อวันก่อนหน้านี้ มาอยู่ที่ต่ำกว่า 200 รายต่อวัน โดยแผนการคลายล็อกดาวน์ดังกล่าวจะมีผลและถูกนำมาใช้ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม เมื่อมีการประกาศมาตรการบริหารจัดการใหม่กับโควิด-19 ในกรุงพนมเปญฉบับใหม่ ซึ่งยังสั่งให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นติดตามสถานการณ์ด้านสุขภาพและเสบียงอาหารของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ที่ถูกล็อกดาวน์ต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50857943/red-zones-to-be-minimised-to-households/